เตรียมตัวสมัครงานอย่างไรให้ได้งาน.. เชื่อว่ามีหลายคนที่มีปัญหากับการสมัครงาน สมัครงานที่ไหนไม่มีหน่วยงานหรือบริษัทไหนเรียกตัวเลย ส่วนใหญ่เกิดจากการไม่มีความพร้อมในการในตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นเอกสารสมัครงานไม่ครบถ้วน การทำประวัติของตัวเองไม่ถูกต้องหรือไม่เรียบร้อย ไม่เตรียมความพร้อมในการไปสมัครงาน ไม่มีความตั้งใจในการศึกษาประวัติหน่วยงานที่เราไปสมัครงาน เอกสารสมัครงานไม่ครบหรือการแต่งกายของตัวเราไม่เหมาะสมกับการไปสมัครงาน ส่วนใหญ่เกิดจากหลายปัจจัยที่ทำให้เราไม่ถูกเรียกตัว ซึ่งบทความนี้จะมาแชร์ประสบการณ์สมัครงานอย่างไรให้ได้งาน ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อน เราชื่อ ปลายฝน (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ก่อนที่จะได้งานทำและมีอายุงานมา 5 ปีก็เคยผ่านประสบการณ์สมัครงานมามากกว่าจะได้งานที่ถูกใจและเหมาะสมกับตัวเอง เคยสมัครงานผ่าน E-mail.วันละ 10-20 งาน มาเป็นเดือนไม่มีบริษัทไหนที่เรียกตัวเราไปทำงานเลย รอเป็นเดือนไม่มีใครเรียกตัว ก็เลยใช้วิธีเดินไปสมัครที่บริษัทโดยตรง แต่ก็เจออุปสรรคมากมายจากคนที่ไปสมัครด้วยกัน เอกสารสมัครงานไม่ครบตามที่บริษัทกำหนดมา รวมทั้งไม่มีความพร้อมในการไปสมัครงาน ไม่ได้ศึกษาข้อมูลของบริษัทที่เราไปสมัครงานจึงทำให้ไม่ได้ถูกเรียกตัว และมีบางบริษัทที่ต้องทำข้อสอบแต่ด้วยเราไม่ได้เตรียมตัวมาดี สุดท้ายก็ทำข้อสอบไม่ได้ เราจึงได้ใช้ประสบการณ์จากการผ่านสมัครงานมาหลายที่มาปรับใช้ดังนี้1.เตรียมเอกสารในการสมัครงานให้ครบ การเตรียมเอกสารในการสมัครงานเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากสำหรับผู้ไปสมัครงาน เช่น เอกสารสำเนาบัตรประชาชนของเรา สำเนาทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษา ประวัติตัวเอง หนังสือรับรองการทำงาน (ถ้ามี) เอกสารที่แสดงถึงความสำเร็จของเราไม่ว่าจะเป็นใบประกาศ ใบฝึกอบรม รวมทั้งเอกสารทุกฉบับต้องเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องให้เรียบร้อย ลงวันที่ ณ. วันที่เราไปสมัครงาน และเซ็นกำกับว่าใช้ทำอะไร เพราะมีหลายบริษัทที่ทางฝ่ายบุคคลจะพิจารณาจากเอกสารสมัครงานของเรา เพื่อพิจารณาการนัดสัมภาษณ์เรา ดังนั้นเราควรเตรียมให้ครบถ้วนการเตรียมเอกสารในการสมัครงาน.. โดย ปลาทู2.การเขียนเอกสารสมัครงาน เชื่อว่ามีหลายคนที่เจอเอกสารสมัครงานมี 6-7 หน้า มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้เราเขียนข้อมูลลงไป บางคนเขียนบ้างเว้นบ้างด้วยความขี้เกียติของตัวเอง เขียนข้อมูลสำคัญไม่ครบบ้าง ดังนั้นการเขียนเอกสารสมัครงานเป็นสิ่งที่สำคัญอีกเรื่องที่เราควรกรอบข้อมูลให้ครบถ้วน โดยเฉพาะประสบการณ์ทำงานของเราควรระบุให้ครบถ้วน ส่วนคนที่เปลี่ยนงานบ่อยก็ไม่ควรระบุทุกงานก็ได้ เพราะจะแสดงให้เห็นถึงการไม่มีความอดทนในการทำงานของเรา การเขียนประสบการณ์ทำงานของเราและประวัติการศึกษารวมทั้งผลงานที่แสดงให้เห็นถึงการประสบการณ์สำเร็จของเราเป็นเรื่องที่ทำให้เราได้ถูกเรียกตัวได้ง่ายขึ้น3.การให้สัมภาษณ์งาน เชื่อว่าทุกคนเคยเจอเวลาไปสมัครงานจะเจอคณะกรรมการที่เป็นตัวแทนจากแต่ละแผนกมาสัมภาษณ์เราในห้องประชุม หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงานทุกคนในบริษัทที่เราไปสัมภาษณ์งาน สิ่งที่สำคัญสำหรับเราควรตอบคำถามให้ตรงกับคำตอบ คิดและไตร่ตรองให้ดีก่อนจะตอบคำถามเพราะว่าทุกคำตอบของเราจะมีผลการพิจารณาการคัดเลือกการทำงานของเราการให้สัมภาษณ์งาน.. โดย ปลาทู4.ควรแต่งกายให้เรียบร้อย การแต่งกายในการไปสมัครงานหรือไปสัมภาษณ์งานเป็นสิ่งที่สำคัญอีกข้อหนึ่ง เราควรแต่งกายให้ดูเรียบร้อย เหมาะสมกับสถานที่ รวมทั้งการแต่งหน้าที่ไม่เข็มเกินไป รองเท้าควรเข้ากับเสื้อผ้าของเราด้วย การแต่งกายดูเรียบร้อยแสดงถึงการมีความพร้อมในการมาสมัครงาน แสดงถึงความตั้งใจของเรา รวมทั้งแสดงถึงตำแหน่งที่เราไปสมัครงานด้วยว่าสมควรไหม การแต่งกายในการไปสมัครงานเป็นอีกข้อที่ทางฝ่ายบุคคลของบริษัทพิจารณาในการเข้าทำงานควรแต่งกายให้เรียบร้อย.. โดย ปลาทู5.ควรศึกษาประวัติและข้อมูลของบริษัท เชื่อว่ามีหลายคนที่ตกงานไม่มีงานทำ หรือคนที่ต้องการจะทำงานเพื่อเลี้ยงชีพตัวเอง ณ. เวลานั้นต้องหางานให้ได้ ต้องได้งานให้ไว เป็นเรื่องปกติที่เราจะไม่ได้ศึกษาประวัติหรือข้อมูลของบริษัทที่เราจะไปสมัครงาน ดังนั้นเราควรศึกษาประวัติหรือข้อมูลของบริษัทที่เราจะไปสมัครงานว่าบริษัทได้ประกอบกิจการเกี่ยวกับอะไร ใครเป็นผู้บริหาร ผลประกอบการเป็นอย่างไร เราควรศึกษาไว้บ้างเพราะจะมีบางหน่วยงานที่ผู้สัมภาษณ์งานจะสอบถามเรา ถ้าเราตอบคำถามไม่ได้จะแสดงถึงความไม่ตั้งใจของเราที่อยากมาทำงานที่บริษัทแห่งนี้ การตอบคำถามไม่ได้ที่เกี่ยวกับประวัติของบริษัทที่เราไปสัมภาษณ์งานจะทำให้เราไม่ได้รับการพิจารณาการผ่านเข้าทำงานควรศึกษาประวัติและข้อมูลของบริษัท.. โดย ปลาทู6.ควรถามสวัสดิการของบริษัท เมื่อเราได้ผ่านการสัมภาษณ์งานจะมีคณะกรรมการสอบถามเราว่ามีคำถามจะถามไหม แน่นอนว่าสิ่งที่เราควรจะถามคือเกี่ยวกับสวัสดิการของพนักงาน เราควรสอบถามเงินเดือนของตัวเองว่าได้เดือนละเท่าไหร่ มีสวัสดิการอะไรบ้าง เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำฟัน ค่าคลอดบุตร การลากิจ ลาพักร้อน ลาป่วย ลาบวช ลาไปศึกษาต่อ เงินช่วยเหลือครอบครัว เงินช่วยเหลือทุนการศึกษาบุตร รวมทั้งเงินประกันสังคม และเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเราควรรับรู้ด้วยเพื่อเป็นการพิจารณาจากเราเอง ดังนั้นจะเห็นว่าเมื่อเราประสบปัญหากับการสมัครงานไม่มีใครเรียกเราเข้าทำงาน หรือไม่ผ่านการสัมภาษณ์งานเราควรเปลี่ยนวิธีการสมัครงาน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเอกสารในการสมัครงาน การเขียนข้อมูลในใบสมัครงาน การตอบคำถามในการสัมภาษณ์งาน การแต่งกายที่มีความเหมาะสมกับสถานที่ การเตรียมความพร้อมในการสมัครงานศึกษาข้อมูลของหน่วยงานและการประกอบกิจการของหน่วยงานที่เราจะไปสมัครงาน ถ้าเรามีความพร้อมดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้เราได้ผ่านการสัมภาษณ์งานและได้งานทำอย่างแน่นอน.. ภาพทั้งหมด โดย ปลาทู*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565