สวัสดีผู้อ่านทุกคนค่ะ ในปัจจุบันนี้เรามักจะได้ยินใครหลายคนพูดกันอยู่บ่อย ๆ เกี่ยวกับเรื่อง Gen ไม่ว่าจะในสังคมหรือในโลกโซเชียลทั้ง Gen X, Gen Y, Gen Z เป็นต้น แต่รู้หรือไม่คะว่า ยังมีอีกหลายคนเลยค่ะ ที่ยังเข้าไม่ถึงความหมายของคำว่า Gen อีกทั้งยังงง ๆ และสับสนค่ะว่าแต่ละ Gen แต่ต่างกันอย่างไร ในบทความนี้ผู้เขียนจึงเขียนสรุปมาให้ทุกคนได้เข้าใจกันมากขึ้น และง่ายขึ้นค่ะ รับรองว่าอ่านจบคุยกับคนอื่นรู้เรื่องแน่นอน Generation (เจเนอเรชั่น) หมายถึง รุ่น หรือ กลุ่มของบุคคลที่เกิดในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งมักจะมีประสบการณ์และลักษณะร่วมที่เกิดจากสภาพสังคม เศรษฐกิจ หรือเทคโนโลยีในช่วงเวลานั้น ๆ การแบ่ง Generation หรือ รุ่น เป็นการจำแนกกลุ่มคนที่เกิดในช่วงเวลาต่าง ๆ โดยมักจะสะท้อนถึงสภาพสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่มีผลต่อการเติบโตของพวกเขา ในแต่ละรุ่นมีลักษณะและประสบการณ์ร่วมที่ทำให้พวกเขามีความแตกต่างกัน โดยแบ่งออกเป็น 5 รุ่น ดังนี้ 1. Baby Boomers (เกิดปี 1946–1964) กลุ่มคนที่เกิดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คำว่า "Baby Boom" หมายถึงการ "ระเบิด" หรือการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการเกิดเด็กในช่วงเวลาดังกล่าว Baby Boomers มักจะถูกมองว่าเป็นรุ่นที่เติบโตในช่วงเวลาที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม และการเมืองในหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะในด้านสิทธิพลเมืองและการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในปัจจุบันกลุ่ม Baby Boomers มักจะอยู่ในช่วงอายุ 60-80 ปี ลักษณะเด่น - มีค่านิยมในเรื่องของการทำงานหนักและการรักษาครอบครัว - คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตที่มั่นคงและปลอดภัย - อาจจะไม่ค่อยถนัดเทคโนโลยีใหม่ ๆ เท่ารุ่นที่ตามมา 2. Generation X (เกิดปี 1965–1980) Gen X เติบโตในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวและเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม พวกเขาเป็นรุ่นแรกที่มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเริ่มต้นบ้าง เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยเจนเนอเรชั่นนี้เติบโตในช่วงหลังจาก Baby Boomers และก่อน Generation Y และมักถูกมองว่าเป็นรุ่นที่มีความเป็นอิสระสูงและมีแนวโน้มที่จะมองโลกในแง่ของความเป็นจริงและปรับตัวได้ดีต่อการเปลี่ยนแปลง และกลุ่มนี้ยังถูกมองว่าเป็นรุ่นที่มีความสามารถในการเข้าใจและใช้เทคโนโลยีได้ดี สรุปคือ Gen X เป็นเจนเนอเรชั่นที่เติบโตในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในหลายๆ ด้าน และพวกเขามักจะมีทัศนคติที่เน้นความยืดหยุ่นและการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงมากกว่าการยึดติดกับค่านิยมแบบดั้งเดิมจากเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า ลักษณะเด่น - เชื่อมั่นในความเป็นอิสระและการปรับตัว - ประสบกับการหย่าร้างของพ่อแม่หรือครอบครัวที่แตกแยกมากขึ้น - ไม่ค่อยเชื่อในระบบหรืออำนาจจากสถาบันทางสังคม 3. Generation Y หรือ Millennials (เกิดปี 1981–1996) Generation Y หรือ Millennials เป็นกลุ่มที่เติบโตในยุคที่เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและมือถือเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญ เป็นรุ่นที่คุ้นเคยกับโลกดิจิทัลตั้งแต่เด็ก เติบโตขึ้นมาในช่วงที่อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีดิจิทัลเริ่มมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจนถึงการเข้าสู่ยุคของสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Twitter, และ YouTube พวกเขามีความคุ้นเคยกับการเชื่อมต่อออนไลน์และการใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสาร ทำให้การเข้าถึงข้อมูลและการเชื่อมโยงกับผู้คนทั่วโลกเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ทัศนคติเกี่ยวกับการทำงานมักจะมองหาความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว พวกเขาให้ความสำคัญกับการมีอิสระในการทำงาน เช่น ความยืดหยุ่นในเรื่องเวลาและสถานที่ทำงาน รวมถึงการทำงานที่มีความหมายหรือเป็นประโยชน์ต่อสังคม พวกเขามักจะไม่มองว่าการทำงานหนักหรือการทำงานตลอดเวลาคือความสำเร็จ แต่กลับมองหาคุณภาพชีวิตที่ดี การได้ทำงานที่ตนเองสนใจ และการมีเวลาสำหรับครอบครัวและเพื่อน อีกทั้งยังเติบโตในสังคมที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ, ศาสนา, และวัฒนธรรมมากขึ้น จึงมักจะเปิดกว้างและยอมรับความแตกต่างทางสังคม มักมีทัศนคติที่ยืดหยุ่นและเห็นความสำคัญของความเท่าเทียมในหลาย ๆ ด้าน เช่น สิทธิของผู้หญิง, LGBTQ+, การศึกษา และสิทธิมนุษยชน และกลุ่มนี้มักมีการศึกษาในระดับสูงและมักจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเอง โดยการเรียนรู้ตลอดชีวิต การเสริมทักษะ และการมีทักษะที่หลากหลาย มักมีการใช้แหล่งข้อมูลออนไลน์เพื่อเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่างๆ เช่น การเรียนออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ หรือการศึกษาในรูปแบบอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนในห้องเรียนแบบดั้งเดิม การมองโลกในแง่บวกและการมีส่วนร่วมในสังคม ลักษณะเด่น - มีความคิดสร้างสรรค์และมักจะเป็นผู้ริเริ่มเทคโนโลยีใหม่ ๆ - ให้ความสำคัญกับการหาสมดุลชีวิตระหว่างงานและเวลาส่วนตัว - มีความคาดหวังสูงในเรื่องของการเรียนรู้และการพัฒนา 4. Generation Z (เกิดปี 1997–2012) กลุ่มที่เติบโตในยุคเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลอย่างสูง พวกเขามักจะใช้เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตอย่างคล่องแคล่ว และเป็นกลุ่มแรกที่เติบโตมาในยุคที่อินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนเป็นสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลาย พวกเขามักจะไม่เคยรู้จักโลกที่ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือไม่มีสมาร์ทโฟน การใช้โซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน โดยพวกเขามักจะเชื่อมต่อกับโลกภายนอกและแบ่งปันประสบการณ์ในโลกออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ การสื่อสารหลัก ๆ คือผ่านข้อความ, วิดีโอคอล, และโซเชียลมีเดีย มากกว่าการโทรศัพท์หรือการพบปะกันแบบตัวต่อตัว Gen Z มีความคิดที่เป็นอิสระและมองหาความยืดหยุ่นในชีวิตการทำงาน พวกเขามักจะให้ความสำคัญกับการทำงานที่สามารถตอบโจทย์ความสนใจและความคุ้มค่าของชีวิตมากกว่าการทำงานตามคำแนะนำของสังคมหรือการทำงานเพื่อเงินเพียงอย่างเดียว พวกเขามักจะมองหาอาชีพที่มีคุณค่าและสามารถมีผลกระทบต่อโลกในทางบวก เช่น การเลือกทำงานกับบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม Gen Z มักมีจิตสำนึกที่สูงในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาสิ่งแวดล้อม พวกเขาให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน และมีทัศนคติที่ให้ความสนใจในปัญหาสังคม เช่น ความยุติธรรมทางเชื้อชาติ, สิทธิของ LGBTQ+, ความเท่าเทียมทางเพศ และปัญหาสังคมอื่น ๆ เติบโตในโลกที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ, วัฒนธรรม, และเพศมากขึ้น พวกเขามีทัศนคติที่เปิดกว้างและยอมรับความแตกต่าง ลักษณะเด่น - เติบโตในโลกที่เชื่อมต่อกันมากขึ้น มีทักษะดิจิทัลสูง - มีความสนใจในเรื่องของความหลากหลายและความเท่าเทียม - ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางออนไลน์และการปกป้องข้อมูลส่วนตัว 5. Generation Alpha (เกิดปี 2013–ปัจจุบัน) กลุ่มคนที่เกิดตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป และเป็นกลุ่มที่ยังคงเติบโตอยู่ในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเล็กหรือวัยรุ่นในตอนนี้ โดยมีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากกลุ่มเจนเนอเรชั่นก่อนหน้าเนื่องจากการเติบโตในยุคของเทคโนโลยีขั้นสูงและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Generation Alpha จะได้รับการศึกษาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น โดยมีการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น การเรียนออนไลน์ (eLearning), การใช้แอปพลิเคชันการศึกษา, และเครื่องมือที่ช่วยเสริมทักษะในการเรียน พวกเขาจะเติบโตในโลกที่การเรียนรู้และการศึกษามีความยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถเรียนรู้ได้จากทุกที่ทุกเวลา ด้วยการเข้าถึงข้อมูลและเครื่องมือในการศึกษาที่ทันสมัย ตั้งแต่เด็ก Generation Alpha มักจะมีประสบการณ์กับเทคโนโลยี เช่น การใช้สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, หรืออุปกรณ์สมาร์ทต่างๆ ตั้งแต่ยังเล็ก การที่เด็ก ๆ เติบโตมาในโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้พวกเขามีทักษะทางดิจิทัลในระดับสูงตั้งแต่ยังเด็ก และสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างคล่องแคล่ว Generation Alpha เติบโตในโลกที่การเชื่อมต่อระหว่างประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้นผ่านโซเชียลมีเดียและอินเทอร์เน็ต ซึ่งทำให้พวกเขาได้รับการยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์ต่างๆ ทั่วโลก พวกเขามีความสามารถในการเชื่อมโยงกับเพื่อนหรือผู้คนจากต่างชาติได้อย่างรวดเร็ว และมีทัศนคติที่เปิดกว้างต่อวัฒนธรรมและสังคมที่แตกต่าง ลักษณะเด่น - คุ้นเคยกับเทคโนโลยีตั้งแต่เด็ก - เติบโตในโลกที่มีความเครียดทางสังคมและเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น - คาดว่าจะมีความสามารถในการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงได้เร็ว แบบทดสอบความรู้เรื่อง Generation 1. Generation X เกิดในช่วงปีใด? a) 1946-1964 b) 1965-1980 c) 1981-1996 d) 1997-2012 2. คำว่า "Baby Boomers" หมายถึงอะไร? a) กลุ่มคนที่เกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 b) กลุ่มคนที่เกิดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 c) กลุ่มคนที่เกิดในยุคดิจิทัล d) กลุ่มคนที่เกิดในช่วงเศรษฐกิจโลกถดถอย 3. เจเนอเรชั่นใดที่มีชื่อเสียงในเรื่องการเติบโตในยุคของอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน? a) Baby Boomers b) Generation X c) Generation Y d) Generation Z 4. ใครคือกลุ่มที่มักจะให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวมากที่สุด? a) Baby Boomers b) Generation X c) Generation Y d) Generation Alpha 5. Generation Alpha เกิดในช่วงปีใด? a) 2000-2012 b) 1990-2005 c) 2013-ปัจจุบัน d) 2010-2025 6. กลุ่มเจเนอเรชั่นไหนที่เติบโตในช่วงของวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2008? a) Baby Boomers b) Generation X c) Generation Y d) Generation Z 7. เจเนอเรชั่นไหนที่ได้รับการรู้จักว่ามีทักษะการใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียสูงสุด? a) Baby Boomers b) Generation X c) Generation Y d) Generation Z 8. กลุ่มไหนที่มักให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ผ่านแหล่งข้อมูลออนไลน์และแพลตฟอร์มดิจิทัล? a) Baby Boomers b) Generation X c) Generation Y d) Generation Alpha 9. Generation Y (Millennials) เติบโตในยุคที่การใช้เทคโนโลยีใดที่มีอิทธิพลต่อสังคมมากที่สุด? a) การใช้อินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ b) การใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดีย c) การใช้โทรศัพท์บ้าน d) การใช้เครื่องเล่นเกม 10. กลุ่มไหนที่มักจะถูกมองว่าเป็น "เจเนอเรชั่นที่ถูกลืม" เพราะมีจำนวนคนไม่มากพอเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ? a) Baby Boomers b) Generation X c) Generation Y d) Generation Z *เฉลยอยู่ท้ายบทความ สรุปประเภทของ Generation แบบสั้น ๆ และเข้าใจง่าย Baby Boomers (เกิดประมาณ 1946-1964) เติบโตในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ค่านิยมเกี่ยวกับความมั่นคงในงานและครอบครัว มีจำนวนมากที่สุดในยุคนั้น ให้ความสำคัญกับการทำงานหนักและการมีครอบครัวที่มั่นคง Generation X (เกิดประมาณ 1965-1980) เติบโตในยุคที่เทคโนโลยีกำลังเริ่มเปลี่ยนแปลง มักมีความเป็นอิสระและปรับตัวเก่ง ใช้ชีวิตในโลกที่เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี เน้นความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว Millennials หรือ Generation Y (เกิดประมาณ 1981-1996) เติบโตในยุคของอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย มองหาประสบการณ์มากกว่าสิ่งของวัตถุ ความสะดวกสบายกับเทคโนโลยี ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาชีพที่มีความหมายและความยืดหยุ่นในการทำงาน Generation Z (เกิดประมาณ 1997-2012) เติบโตในโลกที่เต็มไปด้วยโซเชียลมีเดียและเทคโนโลยี มีความเชื่อมต่อออนไลน์ตลอดเวลา ทักษะด้านเทคโนโลยีสูง สนใจในความยั่งยืนและปัญหาสังคม เช่น สิทธิมนุษยชนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Generation Alpha (เกิดประมาณ 2013-ปัจจุบัน) กลุ่มคนที่เกิดหลังจาก 2013 เติบโตในยุคที่เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์, VR, สมาร์ทโฟน เป็นส่วนสำคัญของชีวิต เริ่มใช้เทคโนโลยีตั้งแต่ยังเด็ก เติบโตในโลกที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ โดยแต่ละเจนเนอเรชั่นมีลักษณะและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ตามสภาพสังคมและเทคโนโลยีที่พวกเขาเติบโตในช่วงเวลานั้น ๆ เช่น Baby Boomers ให้ความสำคัญกับความมั่นคง, Generation X เน้นความเป็นอิสระ, Generation Y หรือ Millennials สนใจประสบการณ์และการทำงานที่มีความหมาย, Generation Z คุ้นเคยกับโลกออนไลน์, และ Generation Alpha เติบโตในโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง การแบ่ง Generation จะช่วยให้เราเข้าใจถึงลักษณะและมุมมองของกลุ่มคนแต่ละรุ่นที่ถูกกำหนดด้วยเหตุการณ์สำคัญในช่วงเวลาที่พวกเขาเติบโตขึ้นมา และช่วยในการศึกษาแนวโน้มต่าง ๆ เช่น พฤติกรรมผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงทางสังคม และการพัฒนาเทคโนโลยี แต่การแบ่งนี้ไม่เป็นกฎที่ตายตัวค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็จะช่วยให้สามารถทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยีในแต่ละช่วงเวลาได้ โดยทั่วไปแล้ว การพูดถึง Generation มักใช้เพื่อสะท้อนถึงความแตกต่างในมุมมอง ความเชื่อ การใช้เทคโนโลยี หรือวิถีชีวิตระหว่างกลุ่มคนแต่ละรุ่นค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ทุกคนเข้าใจเรื่อง Generation กันมากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกคน และได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันไม่มากก็น้อยนะคะ และอย่าลืมติดตามบทความต่อ ๆ ไปของเราด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ช่องทางการติดตาม อังกฤษออนไลน์ - แอมไฟน์ แต๊งกิ้ว True ID: https://creators.trueid.net/@117825 FACEBOOK PAGE: https://www.facebook.com/englishonlineimfinethankyou Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCWfLIf66fDJuI86DqRPLGgQ ขอบคุณรูปภาพประกอบ ภาพหน้าปกและภาพประกอบหน้าปกทั้งหมด โดย https://www.canva.com/th_th/ ภาพประกอบ 1-6 จาก https://www.freepik.com/ ภาพที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6 โดย freepik เฉลยแบบทดสอบ 1. b) 1965-1980 Generation X เกิดในช่วงระหว่างปี 1965 ถึง 1980 2. b) กลุ่มคนที่เกิดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 Baby Boomers เกิดในช่วงปี 1946-1964 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 3. d) Generation Z Generation Z เติบโตในโลกที่เทคโนโลยีดิจิทัลและสมาร์ทโฟนเป็นส่วนสำคัญของชีวิต 4. c) Generation Y (Millennials) Millennials มักจะให้ความสำคัญกับการหาความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว 5. c) 2013-ปัจจุบัน Generation Alpha คือกลุ่มคนที่เกิดตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป 6. c) Generation Y (Millennials) Millennials (Generation Y) เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2008 7. d) Generation Z Generation Z เป็นกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียมากที่สุด 8. d) Generation Alpha Generation Alpha เป็นกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้และได้รับการศึกษาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 9. b) การใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดีย Millennials เติบโตในยุคของสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียที่มีอิทธิพลสูง 10. b) Generation X Generation X มักถูกมองว่าเป็น "เจเนอเรชั่นที่ถูกลืม" เนื่องจากมีขนาดกลุ่มที่ไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับ Baby Boomers และ Millennials เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !