รีเซต

SMT แบ็กล็อกแน่น2พันล. มั่นใจรายได้โต25%ต่อปี

SMT แบ็กล็อกแน่น2พันล. มั่นใจรายได้โต25%ต่อปี
ทันหุ้น
22 มีนาคม 2565 ( 17:31 )
213
SMT แบ็กล็อกแน่น2พันล. มั่นใจรายได้โต25%ต่อปี

ข่าววันนี้ SMT วางหมาก 3 ปีรายได้โตขั้นต่ำ 25% ต่อปี อานิสงส์งานใหม่ทะลักดันแบ็กล็อกพุ่งจากเดิมอยู่ที่ 2 พันล้านบาท แถมแจงวัตถุดิบขยับไม่กระทบ ระบุล็อกราคาไว้ล่วงหน้าแล้ว พร้อมส้มหล่นบาทอ่อนหนุนยอดส่งออกกระฉูด “วิรัตน์ ผูกไทย” ย้ำเป้ารายได้ปี 2565 โต 30% แตะ 3.3 พันล้านบาท

 

นายวิรัตน์  ผูกไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้า 3 ปีนับจากนี้ (ปี 2565-2567) เติบโตอย่างต่ำปีละ 25% เมื่อเทียบกับปี 2564 เพราะแนวโน้มงานในมือ (Backlog) เติบโตอย่างโดดเด่น หลังธุรกิจมีทำตลาดเพื่อลูกค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทมีงานมืออยู่ที่ราว 2 พันล้านบาท จากลูกค้าในส่วนของประเทศต่างๆ คาดส่งมอบและรับรู้รายได้ในปีนี้

 

ซึ่งยังไม่นับรวมสัญญาลูกค้าอีกหลายรายได้บรรลุข้อตกแล้วที่อาจจะมีการให้งานเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนบริษัทมีโอกาส นอกเหนือจากธุรกิจด้าน Optics เพื่อต่อยอดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ด้าน Power Module, e-Display และ Professional Audio เพื่อสนับสนุนการเติบในระยะยาวอีกทางหนึ่ง

 

สำหรับผลประกอบการปี 2565 บริษัทเชื่อรายได้คงเป็นตามเป้าที่ตั้งไว้ราว 3.3 พันล้านบาท เติบโต 30% จากปีก่อนที่อยู่ 2.23 พันล้านบาท ผลมาจากโดยจะเร่งขยายตลาด และการหาลูกค้าใหม่ ๆ ในต่างประเทศ อีกทั้งยังมีการเพิ่มศักยภาพในการผลิตและการเพิ่มช่องทาง e-Marketing เพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันเหล่านี้ล้วนสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจแทบทั้งสิ้น

 

*รับอานิสงส์บาทอ่อนหนุน

นอกจากนี้ บริษัทมองว่ายังมีโอกาสเพิ่มจำนวนสินค้าใหม่จากความพร้อมด้านการผลิตโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม และบริษัทยังประสบความสำเร็จในการได้ลูกค้าใหม่จากตลาดในแถบยุโรป สแกนดิเนเวีย นอกเหนือจากธุรกิจด้าน Optics เพื่อต่อยอดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลิตภัณฑ์ด้าน Power Module, e-Display และ Professional Audio

 

ขณะที่ประเด็นเกี่ยวกับราคาวัตถุดิบต่างๆ ที่ขยับเพิ่มขึ้น หลังเกิดประเด็นข้อพิพาทระหว่างรัสเซียและยูเครนนั้นบริษัทมองไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจ เพราะบริษัทได้มีการเจรจากับซัพพลายเออร์ล็อกราคาและสำรองวัตถุดิบไว้ล่วงหน้าแล้วประมาณ 18 เดือน หรือ 1 ปีครึ่ง

 

นายวิรัตน์ กล่าวเสริมว่า ในแง่ทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องจนล่าสุดมาอยู่ที่ราว 33.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (อิงข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ณ 18 มี.ค. 2565) บริษัทคาดน่าเป็นผลดีต่อธุรกิจค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากบริษัทมีรายได้ส่วนใหญ่จากการส่งออก จึงน่าจะทำให้รายได้จากต่างประเทศขยายตัวมากขึ้นและสนับสนุนธุรกิจให้ขยายตัวตามเป้าหมายด้วย

 

*แจกปันผล 0.05 บาท

อนึ่ง ผลการดำเนินงานของบริษัทในงวดปี 2564 มีกำไรสุทธิ210.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น126.80 ล้านบาท หรือ152% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ83.41 ล้านบาท มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 2,182.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 274.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.36% ทั้งนี้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ PCBA และOPTICS ซึ่งเติบโต 124.25% และ27.17% ตามลำดับ ท่ามกลางสถานการณ์การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ปัญหาขาดแคลนชิปทั่วโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และการแพร่ระบาดของโควิด-  19

 

ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดจากผลการดำเนินงานปี2564 งวด 1 มกราคม – 31 ธันวาคม2564 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท ซึ่งจ่ายจากกำไรสุทธิส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากBOI รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 42,076,179.05 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 5 พฤษภาคม 2565 และจ่ายเงินปันผลในวันที่27 พฤษภาคม 2565

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง