รีเซต

เอกสารชี้ ส.ค.1บิน ครอบออกโฉนด เกาะนุ้ยนอก นายอำเภอเสนอกรมที่ดินเพิกถอน-เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง

เอกสารชี้ ส.ค.1บิน ครอบออกโฉนด เกาะนุ้ยนอก นายอำเภอเสนอกรมที่ดินเพิกถอน-เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง
มติชน
4 ธันวาคม 2564 ( 13:44 )
29
เอกสารชี้ ส.ค.1บิน ครอบออกโฉนด เกาะนุ้ยนอก นายอำเภอเสนอกรมที่ดินเพิกถอน-เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง

จากกรณีชาวบ้านเจ๊ะหลี หมู่ 3 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ยื่นหนังสือถึง นอภ.เกาะลันตา ให้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดิน บนพื้นที่เกาะนุ้ยนอก เนื้อที่ 5 ไร่เศษ และมีการประกาศขายไร่ละ 20 ล้านบาท ทั้งที่เกาะดังกล่าวไม่เคยมีหลักฐานของการอยู่อาศัย ทำกิน และไม่เคยมีการครอบครองของบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ เป็นเกาะที่ชาวบ้าน ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เป็นที่พักชั่วคราว หลบคลื่นลมแรง พักรอ ขณะทำประมง

 

โดยพบว่า โฉนดที่ดินดังกล่าว ออกเมื่อวันที่ 28 ก.ย.64 ที่ผ่านมา ลงนามโดย ผอ.ศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จ.กระบี่-พังงา-ตรัง ต่อมาเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ ยื่นหนังสือขอให้มีการตรวจสอบพื้นที่เกาะอีกหลายแห่ง จนนำไปสู่การตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI รวมทั้งกรมป่าไม้ และ ป.ป.ช.

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. นายสมโภชน์ ทองชู นายอำเภอ เกาะลันตา จ.กระบี่ เปิดเผยความคืบหน้าในการตรวจสอบเรื่องนี้ว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลในสาระบบของ สำนักงานที่ดินส่วนแยก อ.เกาะลันตา พบว่าเอกสารต้นทางคือ ส.ค.1 ที่นำมาใช้ออกโฉนดที่ดินบนเกาะนุ้ยนอก พบเป็น ส.ค.1 ที่ไม่ตรงกับพิกัดเดิม โดยเอกสารฉบับดังกล่าวเป็น ส.ค.1 เลขที่ 21 ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.เกาะลันตาใหญ่ ซึ่งต่อมามีการแบ่งแยกการปกครองของหมู่บ้าน ทำให้เอกสาร ส.ค.1 ฉบับดังกล่าว ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านเกาะปอ ต.เกาะลันตาใหญ่ แต่กลับถูกนำมาออกเป็นโฉนดในพื้นที่บ้านเจ๊ะหลี หมู่ 3 ต.เกาะลันตาใหญ่

 

นอกจากนี้ตามรายละเอียดในเอกสาร ส.ค.1 ฉบับดังกล่าว แจ้งไว้ว่าพื้นที่ครอบครองเดิมเป็นสวนมะพร้าว และสวนผลไม้ แต่จากการตรวจสอบสภาพพื้นที่เกาะนุ้ยนอก ไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์ และมีผู้ครอบครองแต่อย่างใด จึงชี้ให้เห็นว่า เอกสารที่ใช้ออกโฉนด กับพื้นที่ออกโฉนด ไม่ใช่พื้นที่เดียวกัน ขณะนี้นี้ทางคณะกรรมการในระดับอำเภอ จึงทำรายงานเรื่องนี้ไปยังคณะกรรมการระดับจังหวัด เพื่อให้ดำเนินการแจ้งให้กรมที่ดินทราบ และพิจารณาเพิกถอนโฉนดดังกล่าว

 

 

นายอำเภอเกาะลันตา กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ เป็นอีกประเด็นที่ต้องตรวจสอบว่ามีใครที่มีส่วนรู้เห็นบ้าง เบื้องต้นที่มีข้อมูลปรากฎในสารบบเอกสารการออกโฉนด พบว่ามี ผู้ใหญ่บ้านจากอีกหมู่บ้าน เป็นคนนำชี้แนวเขต และลงนามในฐานะผู้ปกครองท้องที่แทนนายอำเภอเกาะลันตา ซึ่งไม่ได้มีอำนาจลงนามตามคำสั่งอำเภอเกาะลันตาที่ 141/2564 เบื้องต้นตนสั่งตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีมี เจ้าหน้าที่ เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยให้รู้ผลภายใน 15 วัน จากนั้นจึงเสนอเรื่องให้ทางจังหวัดพิจารณาลงโทษทางวินัยตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ส่วนจะมีความผิดทางอาญาด้วยหรือไม่นั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานรับผิดชอบ ทั้งกรมป่าไม้ และ ป.ป.ช.

 

ในส่วนของเจ้าพนักงานที่ดินที่ออกโฉนดดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมที่ดิน ซึ่งล่าสุดทราบว่าทางกรมที่ดิน สั่งตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว

 

ขณะเดียวกันนายนฤเศรษฐ แก้วคง ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) กรมป่าไม้ ที่ก่อนนี้นำกำลังลงไปตรวจสอบเรื่องนี้ ทำรายงานเรื่องที่มาของเอกสาร ส.ค.1 ให้ทางอธิบดีกรมป่าไม้ ทราบแล้ว โดยหลังจากนี้จะต้องตรวจสอบรายละเอียดพิกัดที่ดินที่ชัดเจน รายงานให้กรมป่าไม้ทราบ และนำแจ้งให้กรมที่ดิน ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ จากนั้นจึงจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ให้มีการดำเนินการเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องในความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 นอกจากนี้ชุดตรวจสอบของกรมป่าไม้ ยังได้เบาะแสจุดที่น่าสงสัยว่าอาจจะมีการออกเอกสารสิทธิมิชอบอีกอย่างน้อย 19 จุด ในพื้นที่ทะเลอันดามัน ทั้งในเขต จ.กระบี่ และ จ.พังงา ซึ่งต้องตรวจสอบอีกครั้งว่ายังมีพื้นที่ใดอีกบ้านที่ออกเอกสารมาโดยมิชอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง