บึงกาฬผวา! เจอสายพันธุ์เบต้าโผล่ 1 ราย สั่งกักตำรวจ 20 นาย เตรียมเฮคลัสเตอร์ ป.1

บึงกาฬผวา! เจอสายพันธุ์เบต้าโผล่ 1 ราย กักตำรวจ สภ.เมืองบึงกาฬ 20 นาย หลังนายสิบฝึกหัดไปเล่นบาสที่เดียวกับผู้ป่วยยืนยัน ตรวจเชื้อครั้งสุดท้ายคลัสเตอร์ ป.1

วันที่ 11 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ สถานกักกันของจังหวัด ที่โรงเรียนบ้านนาเจริญวิทยา ต.คำนาดี อ.เมือง จ.บึงกาฬ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ เข้าเก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มนักเรียนชั้น ป.1, ครู และผู้ปกครอง ซึ่งถือเป็นการเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อครั้งสุดท้าย หลังครบกำหนดกักตัว 14 วัน จากกรณีพบผู้ติดเชื้อเป็นนักเรียนหญิงชั้น ป.1 จำนวน 1 ราย ซึ่งมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่เป็นมารดา และได้เดินทางมาเรียนที่โรงเรียนตามปกติ ก่อนผลตรวจของผู้เป็นมารดาจะทราบผล ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นนักเรียน 16 ราย ครู 5 ราย และผู้ปกครอง 14 ราย รวมจำนวนผู้กักตัวที่สถานกักกันแห่งนี้ 35 ราย

นางเบญจพรรณ สมภักดี สาธารณสุขอำเภอเมืองบึงกาฬ กล่าวถึงสถานกักกันที่ ร.ร.นาเจริญวิทยา ว่าถือเป็นสถานกักกันแห่งแรกของจังหวัดที่จัดตั้งขึ้นที่โรงเรียน โดยได้รับการดูแลจากสำนักงานสาธารณสุขบึงกาฬให้สถานกักกันแห่งนี้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยได้นำเด็กนักเรียนชั้น ป.1 ที่มีความเสี่ยงสูงมากักกัน 14 วันพร้อมผู้ปกครอง ซึ่งถือเป็นภารกิจที่ต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารของเด็กที่ต้องมีโภชนาการครบถ้วน ความเป็นอยู่ของเด็ก และความปลอดภัย รวมถึงเรื่องภาวะด้านจิตใจของเด็กด้วย ดังนั้น ในแต่ละวัน จึงต้องมีการศึกษาวันต่อวัน ว่ามีปัญหาอะไรบ้างหรือไม่ ก่อนจะนำมาวางแผนร่วมกันที่จุดอำนวยการของสถานกักกันเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา จนถึงวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้าย หากผลตรวจเป็นลบทั้งหมด ก็จะอนุญาตให้เด็ก ผู้ปกครอง และครู กลับบ้านได้ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการจัดตั้งสถานกักกันแห่งนี้

ด้าน นพ.ภมร ดรุณ นพ.สสจ.บึงกาฬ กล่าวว่า หลังปิดแคมป์คนงานใน กทม.ทำให้มีประชาชนเดินทางเข้ามาจังหวัดบึงกาฬเป็นจำนวนมาก โดยเดินทางเข้ามาเป็นลักษณะกลุ่มก้อนและติดเชื้อด้วยกัน ซึ่งขณะนี้จังหวัดบึงกาฬมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วจำนวน 88 ราย รักษาหาย 45 ราย กำลังรักษา 42 ราย เสียชีวิต 1 ราย มีผู้ป่วยขอเข้ามารักษาในพื้นที่ 36 ราย ซึ่งล่าสุดจังหวัดบึงกาฬ พบผู้ป่วยโควิด-19 ติดเชื้อสายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) จำนวน 1 ราย หลังมีการระบาดในประเทศไทยครั้งแรกในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค รายละเอียดอย่างไรจะแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้

ขณะที่จังหวัดได้กำหนดมาตรการสำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัด สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข็มงวด 10 จังหวัดต้องมีเอกสารการขออนุญาตเดินทางออกนอกจังหวัดเสี่ยง เอกสารรับรองผลการตรวจโควิด-19 ภายใน 72 ซม. และลงทะเบียนผ่าน QR code : buengkan tracer ก่อนเข้าจังหวัด

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 87 อายุ 16 ปี นักเรียน ม.5 โรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์ ภูมิลำเนา ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยโควิด-19 จังหวัดอุดรธานี (คลัสเตอร์อุดรพิชัยรักษ์) วันที่ 1 ก.ค.64 เดินทางกลับ อ.ศรีวิไล รถโดยสารประจำทาง วันที่ 2-3 ก.ค.อยู่บ้านกับครอบครัวและรับประทานอาหารร่วมกัน วันที่ 4 ก.ค.64 ไป ร.ร.พรเจริญวิทยา ร่วมกิจกรรมกีฬาบาสเก็ตบอลกับกลุ่มเพื่อน วันที่ 5 ก.ค.อยู่บ้าน เริ่มมีอาการป่วย มีไข้ ไอ ปวดศีรษะ ร่วมรับประทานอาหารกับครอบครัว

วันที่ 6-8 ก.ค.64 อยู่บ้าน เพื่อนที่เคยอยู่ร่วมกันที่โรเรียน แจ้งว่า ติดเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 9 ก.ค.ขอรับการตรวจฯ รับแจ้งผลว่า ติดเชื้อเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการรักษา เป็นผู้ป่วยใน รพ.ศรีวิไล มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 27 รายด้วยกัน ซึ่งจากเคสนี้ มีนักเรียนนายสิบตำรวจฝึกงานในสังกัด สภ.เมืองบึงกาฬ เข้าไปเล่นกีฬาบาสเก็ตบอลในวันที่ 4 ก.ค. ร่วมกับผู้ป่วยด้วย ทำให้ สภ.เมืองบึงกาฬ สั่งกักตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุดสายสืบ ชุดจราจร และเพื่อนนักเรียนนายสิบตำรวจฝึกงานด้วยกัน จำนวน 20 นาย กักตัวเองสังเกตุอาการที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน หากมีอาการผิดปกติให้ไปพบแพทย์และแจ้ง ผบช.ทันที