THANIรุ่งพอร์ตโตไม่หยุด ปั๊มสินเชื่อใหม่2.7หมื่นล.

นายวิรัตน์  ชินประพินพร ประธานกรรมการ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทวางเป้าหมายการเติบโตไว้ไม่น้อยกว่า 10% ทั้งในส่วนของพอร์ตสินเชื่อคงค้าง และยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 26,000-27,000 ล้านบาท

จากในปีนี้คาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 24,000ล้านบาท และพอร์ตสินเชื่อคงค้างสิ้นปีนี้จะขยายตัวเป็นมากกว่า 50,000 ล้านบาท

โดยแผนดำเนินงานในปี 2565 บริษัทประเมินว่ากิจกรรมการค้าต่างๆ รวมถึงผู้ประกอบการจะกลับมามีการลงทุนมากขึ้น ตามเศรษฐกิจมีทิศทางฟื้นตัวดี ทำให้ความต้องการสินเชื่อก็เพิ่มขึ้นตาม

ทั้งนี้บริษัทยังคงความสามารถในการดูแลหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้ต่ำกว่าระดับ 4%ตามเป้าหมายที่วางไว้ทั้งปี 2564 และ 2565สำหรับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้นั้น ปัจจุบันมีลูกหนี้ประมาณ 10-15% ของพอร์ตที่เข้าร่วมโครงการ และส่วนใหญ่มากกว่า 80-90%กลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ

@เล็งซื้อกิจการ-พัฒนาผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้บริษัทยังคงมีความสนใจและอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการสินเชื่อของลูกค้าได้อย่างหลากหลาย และครอบคลุมเพิ่มมากขึ้น เบื้องต้นคาดว่าในปี 2565จะได้เห็นความชัดเจนในเรื่องการลงทุนเพิ่มเติม ทั้งแบบควบรวมกิจการ (M&A) รวมถึงการร่วมทุน (JV) ซึ่งบริษัทยังคงเปิดโอกาสอยู่ตลอด หากว่ามีดีลที่เหมาะสม และสามารถเข้ามาต่อยอดธุรกิจหลักได้ อย่างไรก็ดี ในตอนนี้บริษัทมีความพร้อมทั้งเรื่องของแหล่งเงินทุนที่แข็งแกร่ง ตลอดจนความรู้และความเชี่ยวชาญ

สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2564 มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น หลังจากการปลดล็อกดาวน์ประเทศ ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถทำกิจกรรมการค้าได้คล่องตัวมากขึ้นแล้ว ซึ่งหากว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยได้มากขึ้น จะผลักดันให้ความต้องการรถบรรทุกเพื่อการขนส่งสูงขึ้นอีก และคาดว่าจะกลับมาปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

@เป้า 4.85 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ว่ายอดขายรถบรรทุก รวมไปถึง Super Car ยังดีต่อเนื่อง น่าจะทำให้สินเชื่อในไตรมาส 4/2564 เร่งตัวขึ้นได้ จากที่ผ่านมา THANI ได้ชะลอการปล่อยสินเชื่อจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ แม้ว่าสินเชื่อของ THANI จะเร่งตัวขึ้น และจะทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ทาง THANI มีแผนที่จะตั้ง Management Overlay เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความไม่แน่นอนจากสถานการณ์โควิด-19

ซึ่งจะทำให้การตั้งสำรองในไตรมาส 4/2564 เพิ่มสูงขึ้น และอาจจะทำให้กำไรลดต่ำลงทั้งเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ดี จากปัจจัยที่กล่าวมาทำให้ทางฝ่ายปรับลดประมาณการกำไรปี 2564 ของ THANI ลงเหลือ 1.6 พันล้านบาท จากเดิมคาดไว้ที่ 1.7 พันล้านบาท จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้นในไตรมาส 4/2564 และปรับลดราคาพื้นฐานลงเหลือ 4.85 บาท ยังคงมีส่วนต่างจากราคาปัจจุบันจึงยังคงแนะนำ "ซื้อ”