เชื่อว่าใครหลายๆ คนคงคุ้นเคยกับหุ่นยนต์สีฟ้าสุดคลาสสิกอย่าง Mega Man กันเป็นอย่างดี ตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น จำได้ว่าสมัยเด็กๆ เคยนั่งเล่นเกม Mega Man ภาคต่างๆ อยู่หน้าจอโทรทัศน์เป็นเวลานาน โดยเฉพาะภาค 4 นี่แหละที่เป็นภาคโปรดของผมเลย ด้วยความที่เป็นภาคแรกที่ผมได้สัมผัสบนเครื่อง Famicom ทำให้ภาพกราฟิกที่สวยงามขึ้น ดนตรีประกอบที่ติดหู และระบบการเล่นที่ท้าทาย ล้วนตราตรึงอยู่ในความทรงจำมาจนถึงทุกวันนี้ วันนี้ผมเลยถือโอกาสกลับไปเล่น Mega Man 4 อีกครั้ง เพื่อรำลึกความหลังและนำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังครับ เนื้อเรื่อง (Story) เนื้อเรื่องของ Mega Man 4 นั้นต่อเนื่องจากภาค 3 โดย Dr. Wily ได้วางแผนยึดครองโลกอีกครั้ง คราวนี้เขาได้ร่วมมือกับ Dr. Cossack นักวิทยาศาสตร์ผู้สร้างหุ่นยนต์ ในการสร้างกองทัพหุ่นยนต์สุดแข็งแกร่ง Mega Man จึงต้องออกปฏิบัติภารกิจหยุดยั้งแผนการร้ายอีกครั้ง แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อ Dr. Cossack อ้างว่าถูก Dr. Wily บังคับ และเบื้องหลังแผนการร้ายทั้งหมด ซ่อนปริศนาบางอย่างเอาไว้ ตอนที่เล่นสมัยเด็กๆ ผมไม่ได้สนใจเนื้อเรื่องเท่าไหร่ มัวแต่สนุกกับการต่อสู้กับบอส แต่พอได้กลับมาเล่นอีกครั้ง ผมกลับรู้สึกอินไปกับเนื้อเรื่องมากขึ้น โดยเฉพาะปมปริศนาต่างๆ ที่ทำให้เราอยากรู้ว่า ใครกันแน่ที่เป็นตัวร้ายตัวจริง และอะไรคือแรงจูงใจที่แท้จริง ระบบการเล่น (Gameplay) Mega Man 4 ยังคงเอกลักษณ์ของซีรีส์ไว้ได้อย่างครบถ้วน ด้วยระบบการเล่นแบบ Action Platformer ที่เน้นการกระโดด ยิง และหลบหลีก ความสนุกอยู่ที่การเลือก Robot Master ให้เหมาะสมกับแต่ละด่าน และการนำอาวุธของบอสที่เราเอาชนะมาใช้ ซึ่งภาคนี้มีบอสให้เราเลือกเล่นทั้งหมด 8 ตัว ได้แก่ Bright Man, Toad Man, Drill Man, Pharaoh Man, Ring Man, Dust Man, Skull Man และ Dive Man แต่ละตัวก็มีความสามารถและจุดอ่อนที่แตกต่างกันไป สิ่งที่ผมชอบมากในภาคนี้คือ อาวุธพิเศษของ Mega Man อย่าง New Mega Buster ที่สามารถชาร์จพลังยิงได้ ทำให้การต่อสู้กับบอสสนุกและหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ ภาค 4 ยังมีไอเท็มเสริมอย่าง Balloon ที่ช่วยให้ Mega Man ลอยตัวกลางอากาศได้ และ Wire ที่ช่วยให้ Mega Man โหนตัวไปยังที่ต่างๆ ได้ ซึ่งไอเท็มเหล่านี้ ช่วยเพิ่มมิติในการเล่น และทำให้การผ่านด่านต่างๆ ง่ายขึ้น กราฟิกและดนตรีประกอบ (Graphics and Sound) กราฟิกของ Mega Man 4 ถือว่าสวยงามมากในสมัยนั้น ตัวละคร ฉาก และเอฟเฟกต์ต่างๆ ถูกพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับภาคก่อนๆ สีสันสดใส ดูแล้วสบายตา ส่วนดนตรีประกอบ ก็ยังคงความเป็น Mega Man เพลงแต่ละเพลง ทั้งเพลงธีม เพลงฉาก และเพลงบอส ล้วนติดหู และสร้างบรรยากาศให้กับเกมได้เป็นอย่างดี ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆ ชอบเปิดเพลงประกอบ Mega Man 4 ฟังบ่อยๆ โดยเฉพาะเพลงธีมของ Pharaoh Man ที่ฟังแล้วรู้สึกอลังการ และเพลงบอส ที่ฟังแล้วรู้สึกตื่นเต้น เร้าใจ ทุกวันนี้ พอได้ยินเพลงเหล่านี้ ก็ยังรู้สึกคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ สมัยเล่นเกมอยู่เลย ความยากของเกม (Difficulty) Mega Man ขึ้นชื่อเรื่องความยากอยู่แล้ว และภาค 4 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยรูปแบบด่านที่ซับซ้อน ศัตรูที่หลากหลาย และบอสที่โหดหิน ทำให้ผู้เล่นต้องใช้ทักษะ ไหวพริบ และความอดทน ในการเอาชนะ แต่ถึงแม้จะยาก แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ถ้าเราฝึกฝน และเรียนรู้รูปแบบการโจมตีของศัตรู เราก็สามารถผ่านไปได้ ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆ ติดอยู่กับบอสบางตัวนานมาก กว่าจะผ่านได้ เล่นจนหัวร้อน แต่พอผ่านได้ ก็รู้สึกภูมิใจสุดๆ และนั่นก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเกม Mega Man ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกท้าทาย และอยากเอาชนะ ความประทับใจ (Impression) Mega Man 4 เป็นเกมที่ผมประทับใจมากที่สุดภาคหนึ่งในซีรีส์ ด้วยความสนุก ท้าทาย และความทรงจำดีๆ ที่ผมมีร่วมกับเกมนี้ การได้กลับมาเล่นอีกครั้ง ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ได้สัมผัสกับความสนุกแบบเดิมๆ และได้เห็นคุณค่าของเกมคลาสสิก ที่ยังคงความสนุก และน่าเล่น แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม สำหรับใครที่ชอบเกมแนว Action Platformer หรืออยากสัมผัสกับเกมคลาสสิก ผมขอแนะนำ Mega Man 4 เลยครับ รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวัง คะแนน 9/10 เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !