รพ.มหาราชโคราช จี้ทุกฝ่ายตรวจเชิงรุกตลาด 20 แห่ง เตรียมฉีดไฟเซอร์ให้เด็ก 12-17 ปี

เมื่อวันที่ 20 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้แจ้งกำหนดการนัดหมายประชาชนมารับการฉีดวัคซีน ณ จุดฉีดวัคซีนห้องโคราชฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ในวันที่ 20 กันยายน 2564 โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม 2 ช่วงเวลา ได้แก่ ผู้ที่มีคิวฉีดวัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 1 ให้มารับการฉีดวัคซีน เวลา 09.30 น., ผู้ที่มีคิวฉีดวัคซีน แอสตร้าเซเนก้า เข็มที่ 2 ให้มารับบริการฉีดวัคซีน เวลา 12.00 น. และผู้ที่มีคิวฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ให้มารับบริการฉีดวัคซีน เวลา 12.00 น. ซึ่งวันนี้ไม่มีการรับวอร์คอิน เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด และให้บริการได้อย่างทั่วถึง ซึ่งมีประชาชนทยอยเดินทางมารับการฉีดวัคซีนตามนัดกันอย่างคึกคัก

ขณะเดียวกัน นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยถึงมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมาว่า เนื่องจากขณะนี้ได้เกิดคลัสเตอร์ตลาดสุรนารี ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งสินค้าการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน โดยมีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 300 ราย กระจายไปตามตลาดสดต่างๆ ทั้งในตัวเมืองนครราชสีมา และต่างอำเภอ ทำให้ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ต้องรับผู้ติดเชื้อเข้ามารักษาเป็นจำนวนมาก จนต้องเปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มอีก 1 แห่ง คือโรงพยาบาลสนามลิปตพัลลภฮอลล์ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ดังนั้นจึงอยากเสนอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ออกมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ตลาดสดเพิ่มอีก เนื่องจากมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข มีเกณฑ์ว่า ถ้าตลาดสดใดตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวนเกิน 5% ของผู้ค้าในตลาด ควรจะปิดอย่างน้อย 3 วัน เพื่อทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ ทั้งหมด แต่ถ้ามีผู้ติดเชื้อเกิน 10% ต้องให้ปิดอย่างน้อย 14 วัน เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดขยายวงกว้าง อย่างเช่นกรณีของคลัสเตอร์ตลาดสุรนารี ซึ่งมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากเกือบ 300 ราย และส่วนใหญ่เข้ามารักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ซึ่งช่วงแรกก็ปิด 3 วัน และขยายเวลาเป็น 14 วัน เนื่องจากมีการแพร่ระบาดขยายวงกว้างแล้ว ดังนั้น เพื่อให้การควบคุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะตลาดสุรนารี เป็นตลาดสดค้าส่งที่มีพ่อค้า แม่ค้า จากตลาดสดอื่นๆ ในตัวเมืองนครราชสีมา มารับสินค้าการเกษตรจากตลาดแห่งนี้ไปขายต่อ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเสนอให้มีการตรวจตลาดสดเชิงรุกในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา อีกประมาณ 20 แห่งด้วย เพื่อไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ตลาดสดเพิ่มขึ้นอีก รวมทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะเข้ามาจับจ่ายซื้อของภายในตลาดด้วย

ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียน และเยาวชน ที่มีอายุระหว่าง 12 ปี ถึง 17 ปีนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเบื้องต้นได้เริ่มนำร่องฉีดให้กับนักเรียนและเยาวชน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครไปก่อน ส่วนพื้นที่จังหวัดกลุ่มสีแดงเข้ม ซึ่งมี จ.นครราชสีมาอยู่ด้วยนั้น จะพิจารณาในภายหลัง แต่ทั้งนี้ก็มีความกังวลของผู้ปกครองนักเรียน เนื่องจากวัคซีนที่กำลังพิจารณาจะฉีดให้นักเรียน มีอยู่ 2 ชนิด คือวัคซีนไฟเซอร์ ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า แต่มีแอฟเฟคมาก ผู้ปกครองก็กังวลว่าอาจจะไม่ปลอดภัยกับบุตรหลานของตนเอง ส่วนอีกชนิดคือวัคซีนซิโนฟาร์ม ซึ่งมีประสิทธิภาพน้อยกว่า แต่แอฟเฟคน้อยกว่า ดังนั้นจึงต้องมาพิจารณาอีกครั้งว่าในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จะใช้วัคซีนชนิดใดฉีดให้เด็กนักเรียนและเยาวชน เพื่อที่จะเดินหน้าเปิดเทอมในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการวางแผนไว้