สวัสดีครับทุกคน! บทความนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำวิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน iPhone แบบละเอียด เพื่อให้ข้อมูลของเราปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการถูกละเมิดหรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตครับผม หลายคนอาจไม่ทราบว่า iPhone มีฟีเจอร์หลายอย่างที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ถ้าเรารู้วิธีตั้งค่าให้ถูกต้อง จะช่วยให้เราสบายใจเวลาใช้งานแน่นอนครับ มาดูกันเลย! 1. ปิดการติดตามจากแอป (App Tracking Transparency) ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันไม่ให้แอปต่าง ๆ ติดตามกิจกรรมของเราเพื่อนำไปใช้สำหรับโฆษณาแบบเจาะจงครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy & Security) 3. เลือก การติดตาม (Tracking) 4. ปิดสวิตช์ อนุญาตให้แอปติดตาม (Allow Apps to Request to Track) รีวิวในมุมมองผู้เขียน: หลังจากที่ผู้เขียนได้ลองปิดฟีเจอร์นี้ รู้สึกว่าการโฆษณาที่เจอบนแอปหรือเว็บไซต์ลดความเจาะจงลง ทำให้รู้สึกว่าไม่ถูกติดตามตลอดเวลา ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดีครับผม 2. จัดการสิทธิ์การเข้าถึงของแอป (App Permissions) บางแอปอาจขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่จำเป็น เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง กล้อง หรือไมโครโฟน เราสามารถตรวจสอบและจำกัดสิทธิ์เหล่านี้ได้ครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy & Security) 3. แตะหมวดหมู่ที่ต้องการ เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง (Location Services), กล้อง (Camera) หรือ ไมโครโฟน (Microphone) 4. เลือกแอปที่ต้องการ และตั้งค่าสิทธิ์ให้เหมาะสม เช่น "ไม่อนุญาต (Never)", "ถามทุกครั้ง (Ask Next Time)" หรือ "ขณะใช้แอป (While Using the App)" รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนแนะนำให้ตั้งค่าเป็น "ถามทุกครั้ง" สำหรับข้อมูลสำคัญ เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง เพราะช่วยให้เราควบคุมการใช้งานได้ดียิ่งขึ้นครับ 3. ใช้ฟีเจอร์ "ซ่อนที่อยู่อีเมล" (Hide My Email) ฟีเจอร์นี้สำหรับผู้ที่สมัครใช้บริการหรือเว็บไซต์บ่อย ๆ แต่ไม่อยากเปิดเผยที่อยู่อีเมลจริงของตัวเองครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. แตะที่ชื่อ Apple ID ของคุณ (ที่ด้านบนสุด) 3. เลือก iCloud 4. แตะ ซ่อนที่อยู่อีเมล (Hide My Email) 5. สร้างที่อยู่อีเมลสุ่มเพื่อใช้แทนที่อยู่อีเมลจริงของคุณ รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนใช้ฟีเจอร์นี้บ่อยมากครับ ช่วยลดความเสี่ยงจากอีเมลสแปมและการละเมิดความเป็นส่วนตัวได้ดีเยี่ยม แถมใช้งานง่ายมากด้วยครับผม 4. ปิดการแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (Location Sharing) การแชร์ตำแหน่งที่ตั้งแบบเรียลไทม์อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย หากไม่จำเป็นควรปิดไว้ครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy & Security) 3. แตะ บริการตำแหน่งที่ตั้ง (Location Services) 4. ปิด แชร์ตำแหน่งที่ตั้งของฉัน (Share My Location) รีวิวในมุมมองผู้เขียน: หลังจากที่ผู้เขียนปิดฟีเจอร์นี้ รู้สึกว่าสบายใจขึ้น เพราะไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งจะถูกแชร์โดยไม่รู้ตัวครับ 5. ปรับการตั้งค่า Safari เพื่อความปลอดภัย สำหรับคนที่ใช้งาน Safari บ่อย ๆ การตั้งค่าให้ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก Safari 3. เปิด ป้องกันการติดตามข้ามเว็บไซต์ (Prevent Cross-Site Tracking) 4. เปิด ซ่อนที่อยู่ IP (Hide IP Address) และเลือก ผู้ติดตาม (Trackers) รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนชอบฟีเจอร์นี้มากครับ เพราะช่วยป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ติดตามพฤติกรรมการท่องเว็บของเรา ลดโอกาสถูกเจาะข้อมูลส่วนตัวได้ดีเลยครับ 6. เปิดใช้งานโหมดล็อกดาวน์ (Lockdown Mode) โหมดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด เช่น นักข่าวหรือคนที่มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy & Security) 3. เลื่อนลงมาที่ โหมดล็อกดาวน์ (Lockdown Mode) 4. แตะ เปิดใช้งาน (Turn On) และอ่านคำอธิบายก่อนยืนยัน รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนลองเปิดใช้งานแล้ว พบว่าฟีเจอร์นี้เพิ่มความปลอดภัยระดับสูงสุด แต่ข้อเสียคือฟังก์ชันบางอย่างในเครื่องจะถูกจำกัดครับ ดังนั้นควรเปิดใช้เฉพาะในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ 7. ใช้ Face ID หรือ Touch ID ให้เต็มประสิทธิภาพ การตั้งค่าการปลดล็อกด้วย Face ID หรือ Touch ID ช่วยให้ข้อมูลของเราปลอดภัยจากการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตครับ วิธีตั้งค่า: 1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings) 2. เลือก Face ID และรหัสผ่าน (Face ID & Passcode) หรือ Touch ID และรหัสผ่าน (Touch ID & Passcode) 3. ตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย (ควรเป็นตัวเลข 6 หลักหรือตัวอักษรผสมตัวเลข) 4. เปิดการใช้งาน Face ID หรือ Touch ID สำหรับการปลดล็อกแอปและการชำระเงิน รีวิวในมุมมองผู้เขียน: ผู้เขียนคิดว่านี่เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นมากครับ แถมยังเพิ่มความปลอดภัยได้ดีด้วย ทั้งหมดนี้คือทริคง่าย ๆ สำหรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน iPhone ที่ผู้เขียนอยากแนะนำครับ การตั้งค่าเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกละเมิดข้อมูล และทำให้เราใช้งาน iPhone ได้อย่างสบายใจมากขึ้นครับผม หากใครยังไม่ได้ลองตั้งค่าตามนี้ แนะนำให้ลองทำตามดูเลยนะครับ เพราะความปลอดภัยของข้อมูลเป็น ภาพหน้าปก โดย ผู้เขียน ภาพที่ 1 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 2 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 3 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 4 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 5 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 6 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 7 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 8 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 9 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 10 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 11 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 12 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 13 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 14 โดย ผู้เขียน ภาพที่ 15 โดย ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !