รีเซต

ตร.เตือนได้รับ "เงินโอนผิดบัญชี" แต่นำไปใช้เองไม่คืนเจ้าของ มีความผิด!

ตร.เตือนได้รับ "เงินโอนผิดบัญชี" แต่นำไปใช้เองไม่คืนเจ้าของ มีความผิด!
TNN ช่อง16
21 ตุลาคม 2565 ( 13:34 )
64

ตำรวจสอบสวนกลาง เตือน หากได้รับ "เงินโอนผิดบัญชี" แต่นำไปใช้เอง ไม่ยอมคืนเจ้าของ มีความผิดฐานยักยอก


วันนี้( 21 ต.ค.65) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานในสังกัด แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรม เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ นั้น


พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ตามนโยบาย “มืออาชีพ เป็นกลาง เคียงข้างประชาชน” จึงได้สั่งการให้ทีมงานประชาสัมพันธ์สอบสวนกลาง ดำเนินการตามนโยบาย ดังกล่าว


โดยสืบเนื่องจากในปัจจุบัน พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ ได้นำเอาการทำธุรกรรมออนไลน์รูปแบบต่างๆ มาใช้ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือโอนเงินให้กับบุคคลอื่น ผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ หรือผ่านตู้ ATM ซึ่งอาจเกิดความผิดพลาดทำให้โอนเงินผิดบัญชี จากการกรอกเลขบัญชีธนาคารไม่ถูกต้อง ซึ่งบางครั้งอาจเกิดปัญหาว่าเจ้าของบัญชีปลายทางไม่ยอมคืนเงินที่โอนผิดไปคืน นั้น


ตำรวจสอบสวนกลาง ขอเรียนว่า เจ้าของบัญชีปลายทางซึ่งได้ครอบครองทรัพยสินของผู้อื่น เพราะผู้อื่นส่งมอบให้โดยสำคัญผิดไปด้วยประการใด แล้วบุคคลดังกล่าวได้เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ไม่ยอมส่งมอบคืนให้เจ้าของนั้น บุคคลดังกล่าวจะมีความผิดฐานยักยอก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท (ระวางโทษเพียงกึ่งหนึ่งของความผิดฐานยักยอกปกติ)


ตำรวจสอบสวนกลาง จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน กรณีได้รับเงินโอนผิดบัญชี ที่ผู้อื่นโอนเข้ามาที่บัญชีธนาคารของท่าน ห้ามนำเงินดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว และขอให้ดำเนินการดังนี้


1.เมื่อทราบว่ามีรายการโอนเงินที่ไม่ทราบที่มา เข้ามาในบัญชีธนาคารของท่าน ห้ามถอนเงินดังกล่าวมาใช้เด็ดขาด

2.ติดต่อกับทางธนาคารเพื่อตรวจสอบที่มาของเงินดังกล่าว

3.หากได้รับการติดต่อโดยตรงจากเจ้าของบัญชี ห้ามโอนเงินคืนเองเด็ดขาด เพราะอาจตกเป็นเครื่องมือของคนร้ายในการฟอกเงิน

4.ประสานกับทางธนาคารเพื่อให้ธนาคารทำการดึงเงินคืนบัญชีต้นทาง


ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามไปยังสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง




ที่มา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

แฟ้มภาพ TNN Online / AFP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง