9 วิธีป้องกันขยะพลาสติกอุดตัน ทำให้น้ำท่วมขัง ในชุมชนและถนน อ่านกันเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ทุกวันนี้หลายชุมชนต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซาก โดยเฉพาะเวลาฝนตกหนัก และสาเหตุสำคัญไม่ใช่เพียงปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไป แต่เกิดจากขยะพลาสติกที่ถูกทิ้งไม่ถูกที่ แล้วไหลไปอุดตันท่อระบายน้ำ ซึ่งหลายคนยังไม่รู้ว่า ถุงพลาสติกเพียงใบเดียวสามารถไปขวางทางน้ำ และทำให้ท่อที่ควรระบายน้ำออกได้ดี กลับกลายเป็นจุดอุดตันจนเกิดน้ำล้นได้ นี่ไม่ใช่ปัญหาไกลตัวอีกต่อไปแล้วค่ะ แต่คือสิ่งที่ทุกคนในชุมชนกำลังเผชิญอยู่จริง ทั้งบ้านเรือนที่เสียหาย ถนนที่ใช้การไม่ได้ และสุขอนามัยที่เสี่ยงจากน้ำเน่าเสียในระหว่างนั้น ซึ่งคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การป้องกันขยะพลาสติกไม่ให้ลงไปอุดตันท่อนั้น เป็นเรื่องที่ทุกครัวเรือนและทุกชุมชนควรให้ความสำคัญ เพราะหากเราลดขยะตั้งแต่ต้นทางและจัดการอย่างถูกวิธีได้ ก็จะช่วยให้ท่อระบายน้ำทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมาก ปัญหาน้ำท่วมขังก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัดนะคะ ดังนั้นในบทความนี้ผู้เขียนจะมาบอกต่อแนวทางที่ทำได้จริง ที่ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาท่อน้ำอุดตัน แต่ยังช่วยให้ชุมชนสะอาดน่าอยู่ และสร้างวินัยที่ดีในการดูแลสิ่งแวดล้อมร่วมกันอย่างยั่งยืน กับแนวทางที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 1. ทำตะแกรงดักขยะที่ปากท่อ การติดตั้งตะแกรงดักขยะที่ปากท่อในหลายๆ จุดภายในบ้านเราเอง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เพราะตะแกรงจะทำหน้าที่กักเศษพลาสติก เส้นผม ขวดน้ำ และถุงต่างๆ ไม่ให้ไหลลงไปอุดตันในท่อด้านในของทางชุมชน ทำให้การไหลเวียนของน้ำยังคงสะดวกและป้องกันน้ำขังที่เกิดจากท่อตันได้ทันที นอกจากนี้การมีตะแกรงยังช่วยให้เห็นปริมาณขยะที่สะสมจริงๆ ในแต่ละวัน หากเป็นอื่นๆ ที่ทางเทศบาลทำขึ้นเพื่อดักขยะ จะทำให้คนในชุมชนตระหนักมากขึ้นว่าขยะพลาสติกที่ทิ้งโดยไม่คิดนั้นมีจำนวนมหาศาลแค่ไหน อย่างไรก็ตามการติดตั้งตะแกรงเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอค่ะ จำเป็นต้องมีการดูแลและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอด้วย หากปล่อยให้ขยะกองทับถมอยู่บนตะแกรงนานเกินไป จะทำให้น้ำระบายไม่ทันและเกิดการล้นออกมาอยู่ดี ดังนั้นควรจัดเวรหรือมีผู้รับผิดชอบตรวจสอบและเก็บขยะออกเป็นประจำ หากเป็นจุดต่างๆ ในแนวท่อรวบรวมน้ำเสียของหน่วยงานในท้องถิ่นที่รับผิดชอบ แต่ถ้าเป็นที่บ้านเราก็ให้เก็บขยะไปทิ้งให้ถูกที่ เพื่อนำไปจัดการอย่างเหมาะสม ซึ่งวิธีนี้ไม่เพียงช่วยป้องกันปัญหาน้ำท่วม แต่ยังสร้างความร่วมมือในชุมชนให้ทุกคนมีส่วนในการดูแลสิ่งแวดล้อมร่วมกันอีกด้วยค่ะ 2. ส่งเสริมร้านค้าและตลาดปลอดถุงพลาสติก หลายคนอาจไม่ได้สังเกตเห็นว่า ตลาดและร้านค้าชุมชนเป็นจุดที่พลาสติกถูกใช้มากที่สุด ทั้งถุงหูหิ้ว กล่องใส่อาหาร และแก้วพลาสติก เมื่อของเหล่านี้ถูกทิ้งไม่ถูกที่ ก็มักไหลไปตามน้ำฝนและอุดตันในท่อ ซึ่งการส่งเสริมให้ร้านค้าเริ่มใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ หรือกระตุ้นให้ลูกค้านำถุงผ้าและภาชนะมาเอง เป็นวิธีลดปริมาณพลาสติกที่มีโอกาสกลายเป็นขยะสะสมในชุมชนโดยตรงค่ะ ซึ่งการทำให้ตลาดปลอดถุงพลาสติกยังช่วยสร้างวัฒนธรรมใหม่ในพื้นที่ ผู้คนที่มาจับจ่ายจะเห็นว่าการไม่ใช้พลาสติกเป็นเรื่องปกติและน่าทำตาม ยิ่งหากมีการสนับสนุนจากหน่วยงานท้องถิ่น เช่น แจกถุงผ้าฟรีในบางโอกาส หรือให้ส่วนลดสำหรับผู้ที่นำถุงมาเอง ก็จะช่วยให้พฤติกรรมนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ที่สุดท้ายแล้วชุมชนจะได้ทั้งความสะอาด ภาพลักษณ์ที่ดี และลดปัญหาท่อน้ำอุดตันได้ในระยะยาวค่ะ 3. แยกขยะตั้งแต่ต้นทาง รู้ไหมคะว่า การแยกขยะตั้งแต่ในบ้านถือเป็นวิธีพื้นฐานแต่ได้ผลมากที่สุด เพราะหากเรานำพลาสติก ขวดน้ำ และบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายยากออกจากเศษอาหารตั้งแต่แรก จะช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้พลาสติกเหล่านี้ ไหลไปปะปนกับน้ำเสียแล้วลงท่อโดยตรง การแยกประเภทตั้งแต่ต้นยังทำให้ขยะที่ย่อยสลายได้ เช่น เศษผักหรืออาหาร สามารถจัดการได้ง่ายขึ้น ขณะที่พลาสติกก็จะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล และไม่ถูกทิ้งไปและทำให้เกิดกีดขวางท่อน้ำเสียค่ะ นอกจากนี้การแยกขยะยังเป็นการสร้างวินัยในครัวเรือน เด็กๆ และคนในบ้านจะเรียนรู้ว่าขยะทุกชิ้นมีที่ไปที่เหมาะสม เมื่อทุกครอบครัวช่วยกันทำอย่างต่อเนื่อง ปริมาณพลาสติกที่ถูกทิ้งลงท่อโดยไม่ตั้งใจจะลดลงอย่างชัดเจน ชุมชนก็จะสะอาดขึ้น ระบบระบายน้ำทำงานได้เต็มที่ และปัญหาน้ำท่วมขังจากท่ออุดตันก็ลดลงไปพร้อมๆ กันค่ะ 4. ไม่ทิ้งขยะลงท่อหรือคลอง ยังมีอีกหลายคนมองไม่ออกว่า หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ท่อน้ำอุดตัน คือ การทิ้งขยะลงท่อหรือคลองโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นถุงพลาสติก ขวดน้ำ หรือเศษซองขนม โดยหลายคนคิดว่าพอทิ้งลงไปแล้วเดี๋ยวจะหายไป แต่แท้จริงแล้วขยะเหล่านี้จะไปกองสะสมอยู่ในท่อด้านใน เมื่อฝนตกหนัก น้ำจะไม่สามารถไหลผ่านได้ ทำให้เกิดการอุดตันและน้ำท่วมทันที ผลที่ตามมาคือถนนมีน้ำล้นและท่วมขัง บ้านเรือนเสียหาย และคนในชุมชนต้องรับความเดือดร้อนในวงกว้าง ซึ่งการแก้ปัญหานี้ให้เริ่มจากการเปลี่ยนความคิดใหม่ว่า “ท่อรับนำเสียไม่ใช่ที่ทิ้งขยะ และอะไรที่หยิบจับด้วยมือได้ถือว่าเป็นขยะ ให้นำจัดการแบบขยะ” หากทุกคนในชุมชนร่วมมือกันเลิกทิ้งขยะลงท่อหรือคลอง และหันมาใช้ถังขยะที่เตรียมไว้แทน จะช่วยตัดปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุได้ ยิ่งถ้าควบคู่กับการรณรงค์เตือนสติ เช่น ป้ายบอกว่า “ขยะชิ้นเดียว = น้ำท่วมทั้งซอย” ก็จะทำให้คนทั่วไปเห็นภาพชัดเจนว่า พฤติกรรมของตัวเองมีผลกระทบต่อทุกคนในชุมชนอย่างไรค่ะ 5. ใช้ถุงผ้าและกล่องข้าวส่วนตัว คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การพกถุงผ้าและกล่องข้าวส่วนตัวเป็นวิธีง่ายๆ ที่ลดการใช้พลาสติกได้มากกว่าที่คิด โดยทุกครั้งที่เราไปตลาดหรือซื้ออาหารกลับบ้าน หากใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก และใช้กล่องส่วนตัวแทนกล่องโฟมหรือกล่องพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว จะช่วยลดจำนวนขยะที่อาจถูกทิ้งผิดที่และไหลลงท่อโดยไม่ตั้งใจได้ ซึ่งการลดการใช้ตั้งแต่ต้นทาง ทำให้ปริมาณขยะพลาสติกในชุมชนลดลงอย่างเห็นได้ชัด และช่วยป้องกันปัญหาท่ออุดตันได้ตรงจุดอีกแนวทางหนึ่งค่ะ นอกจากนี้การพกถุงผ้าและกล่องส่วนตัว ยังเป็นการสร้างนิสัยที่ดีและเป็นตัวอย่างให้กับคนรอบข้าง ที่ในปัจจุบันหลายร้านค้าเริ่มให้ส่วนลดหรือสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่นำภาชนะมาเอง ที่ทำให้ไม่เพียงแต่ช่วยสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเราได้อีกด้วย เมื่อคนในชุมชนเริ่มทำพร้อมกัน การลดใช้พลาสติกก็จะกลายเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนภูมิใจ และช่วยให้ท่อระบายน้ำในพื้นที่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลาค่ะ 6. จัดกิจกรรมทำความสะอาดท่อระบายน้ำ หลายคนยังไม่เคยเห็นว่า ท่อระบายน้ำในชุมชนมักเต็มไปด้วยถุงพลาสติก ขวดน้ำ และเศษขยะที่สะสมมานาน ซึ่งการจัดกิจกรรมทำความสะอาดท่อ เช่น เดือนละครั้ง หรือก่อนฤดูฝน จะช่วยกำจัดสิ่งอุดตันออกไปก่อนที่น้ำฝนจะพัดพาขยะลงไปเพิ่มได้ และการทำความสะอาดนี้ยังช่วยให้ท่อน้ำเปิดโล่ง น้ำสามารถไหลผ่านได้อย่างสะดวก ลดโอกาสน้ำท่วมขังอย่างเห็นได้ชัดเจน และถือเป็นการแก้ปัญหาเชิงป้องกันที่จับต้องได้และเห็นผลทันทีค่ะ ซึ่งนอกจากประโยชน์เรื่องระบบระบายน้ำแล้ว กิจกรรมนี้ยังช่วยสร้างความร่วมมือและความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกันในชุมชน เมื่อทุกคนได้ลงแรงเก็บขยะด้วยตนเอง จะเกิดความตระหนักว่า ขยะที่เราทิ้งไม่ถูกที่วันนี้ คือสิ่งที่ต้องกลับมาเก็บวันหน้า ผลลัพธ์คือคนในชุมชนจะเริ่มใส่ใจไม่ทิ้งขยะลงท่อ และช่วยกันรักษาความสะอาด เพื่อให้สภาพแวดล้อมน่าอยู่และลดปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว 7. จัดระบบรีไซเคิลและรับซื้อของเก่าในชุมชน จริงๆ แล้วการมีระบบรีไซเคิลที่ชัดเจน เช่น จุดรับซื้อของเก่าในชุมชน หรือจุดรับขวดพลาสติก ขวดน้ำมัน และถุงสะอาด จะช่วยดึงพลาสติกออกจากเส้นทางที่จะไปตกค้างในท่อได้ค่ะ โดยเมื่อคนในชุมชนรู้ว่าพลาสติกที่คัดแยกแล้วมีมูลค่า สามารถนำไปขายหรือนำไปรีไซเคิลได้จริง ก็จะเกิดแรงจูงใจในการเก็บขยะให้ถูกที่ แทนที่จะทิ้งลงพื้นหรือปล่อยให้ไหลตามน้ำไปอุดตันท่อ ยิ่งไปกว่านั้นการรีไซเคิลยังสร้างรายได้เสริมให้ครอบครัวในชุมชน โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเก็บขวดหรือถุงมาขายได้ เป็นการเปลี่ยนขยะให้เป็นโอกาส มีส่วนทั้งลดปริมาณพลาสติกในสิ่งแวดล้อม และช่วยเพิ่มรายได้ไปพร้อมกันค่ะ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่แก้ปัญหาได้ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน 8. ใช้โซเชียลและป้ายรณรงค์ในพื้นที่ ปกติการสื่อสารคือเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนพฤติกรรมค่ะ ซึ่งการติดป้ายเตือนตามจุดต่างๆ ของชุมชน เช่น “ทิ้งขยะลงท่อ = น้ำท่วมบ้านคุณเอง” หรือ “ขยะชิ้นเดียวทำให้ซอยทั้งซอยเดือดร้อน” จะช่วยให้คนเห็นผลกระทบที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันได้โดยตรง ที่ไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อมไกลตัว แต่คือความเดือดร้อนที่จะย้อนกลับมาหาเขาและครอบครัวทันที นอกจากนี้การใช้โซเชียลมีเดียของชุมชน เช่น กลุ่มไลน์ เฟซบุ๊ก หรือเพจท้องถิ่น ก็สามารถช่วยกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจได้ดี การแชร์ภาพกิจกรรมเก็บขยะ หรือภาพก่อน–หลังการทำความสะอาดท่อ จะทำให้คนทั่วไปเห็นผลลัพธ์ชัดเจนและอยากมีส่วนร่วมมากขึ้น วิธีนี้ทำให้การรณรงค์ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ แต่กลายเป็นพลังบวกที่กระตุ้นให้ทุกคนร่วมมือกัน เพื่อป้องกันขยะพลาสติกอุดตันอย่างต่อเนื่องได้ค่ะ 9. รณรงค์ผ่านโรงเรียนและเยาวชน โรงเรียนและศูนย์การเรียนรู้ในชุมชนถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ในการปลูกฝังพฤติกรรมที่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดการขยะพลาสติกค่ะ หากมีการสอดแทรกกิจกรรมง่ายๆ เช่น โครงการ “เด็กดีไม่ทิ้งขยะลงท่อ” หรือ “หนึ่งวันหนึ่งขวดเก็บจากบ้าน” เด็กๆ จะค่อยๆ ซึมซับพฤติกรรมเหล่านี้ และนำไปปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน เมื่อเด็กเรียนรู้และกลับไปเล่าให้ผู้ปกครองฟัง ก็จะเป็นการขยายผลไปสู่ครอบครัวและชุมชนโดยอัตโนมัตินะคะ ซึ่งการรณรงค์ผ่านเยาวชนยังมีข้อดีอื่นๆ อีก เช่น สามารถสร้างแรงบันดาลใจและพลังบวกในสังคมได้ เพราะเด็กๆ มักเป็นแบบอย่างที่ทำให้ผู้ใหญ่รู้สึกอยากทำตาม และยังช่วยสร้างความต่อเนื่องระยะยาว เพราะเมื่อเยาวชนเติบโตขึ้น เขาจะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็ง ดังนั้นการเริ่มต้นจากโรงเรียนจึงไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาขยะ แต่คือการสร้างอนาคตที่ชุมชนจะอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืนค่ะ ก็จบแล้วค่ะ กับแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในชุมชน จากที่มีขยะในระบบรวบรวมน้ำเสียนะคะ ซึ่งในสถานการณ์จริงเราจะเห็นได้ว่า ปัญหาขยะพลาสติกอุดตันในท่อระบายน้ำไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ค่ะ เพราะส่งผลโดยตรงต่อชีวิตประจำวันของทุกคนในชุมชน ทั้งน้ำท่วมขัง ถนนลื่น บ้านเรือนเสียหาย และสุขอนามัยที่เสี่ยงจากน้ำเน่าเสีย แต่ปัญหานี้สามารถป้องกันได้ หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ตั้งแต่ครัวเรือนที่แยกขยะอย่างถูกวิธี ไปจนถึงชุมชนที่มีระบบดูแลท่อและรณรงค์อย่างจริงจัง การสร้างวินัยเล็กๆ ในการไม่ทิ้งขยะลงท่อ หรือการใช้วัสดุที่ลดการสร้างขยะพลาสติก ล้วนเป็นจุดเริ่มต้นที่ทรงพลังในการแก้ปัญหานี้นะคะ โดยเมื่อทุกคนมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ร้านค้า โรงเรียน หรือหน่วยงานท้องถิ่น ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ใช่เพียงแค่การลดน้ำท่วมค่ะ แต่ยังทำให้ชุมชนของเราสะอาดน่าอยู่ สภาพแวดล้อมปลอดภัย และคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างยั่งยืนอีกด้วย เพราะการจัดการขยะพลาสติกไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งที่ทำเพียงคนเดียว แต่คือความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคน และหากทำได้จริง ชุมชนของเราจะกลายเป็นพื้นที่ที่ทั้งคนและสิ่งแวดล้อมอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล ถึงแม้ว่าจะมีน้ำฝนตกลงมา แต่ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วมขังที่เกิดจากขยะค่ะ และสำหรับที่นี่ผู้เขียนจัดการเรื่องขยะตลอดนะคะ โดยได้คัดแยกขยะที่ย่อยสลายได้ออกจากขยะทั่วไป มีการเก็บสะสมขยะรีไซเคิลเอาไว้ขายค่ะ ไม่กวาดเศษมูลฝอยลงในระบบรวบรวมน้ำเสียของทางเทศบาล หากมีขยะถูกทิ้งไม่เป็นที่แถวๆ ปากท่อ แบบนี้ผู้เขียนก็ได้เก็บมาทิ้งในถังขยะเรื่อยๆ ค่ะ และจริงที่ว่าเราต้องช่วยกันค่ะ อะไรทำได้ทำเลย อะไรช่วยได้ช่วยกันค่ะ ซึ่งผู้เขียนเชื่อมั่นว่าการจัดการขยะที่บ้านจะเกี่ยวข้องกับทุกคน และเป็นใกล้ตัวที่ทุกคนทำได้นะคะ ยังไงนั้นให้เริ่มจากจุดนี้ก่อน แล้วค่อยขยับออกไปร่วมกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามโอกาสจะเอื้อค่ะ ก็อย่าลืมนำไปลงมือทำด้วยนะทุกคน ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป ถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดดูโปรไฟล์ได้เลยค่ะ #แนวทางป้องกันน้ำท่วม #ลดขยะพลาสติก #ไม่ทิ้งขยะลงท่อ #ProtectOurPlanet เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย Dibakar Roy จาก Unsplash และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1-3 โดยผู้เขียน และภาพที่ 4 โดย Polina Kuzovkova จาก Unsplash เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 10 ทริคนำถุงซิปล็อกกลับมาใช้ซ้ำ ทำอะไรได้บ้าง เกิดประโยชน์ 10 จุดสังเกตขยะรีไซเคิล มีลักษณะเป็นแบบไหน สามารถเก็บขายได้ 10 แนวทางคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง จากบ้านเรือน ทำอะไรได้บ้าง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !