( Cr. ภาพหน้าปก https://unsplash.com/photos/vluAxrgzaz0 )โลกเรานั้นมีความหลากหลายจนคาดไม่ถึงเลยละค่ะ ภาษาก็เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของแต่ละชนชาติ ภาษาจะยากจะง่ายนั้นแล้วแต่ว่าโครงสร้างภาษาเรานั้นมีความซับซ้อนขนาดไหน และภาษาแม่เราเป็นภาษาในตระกูลใด สำหรับคนไทยนั้น ภาษาอังกฤษที่บ่นว่ายากนักยากหนา แต่จริง ๆ แล้วภาษาอังกฤษนั้นถือว่าเป็นภาษาที่ค่อนไปทางง่ายเลยในระดับสากล สามารถเรียนให้สื่อสารได้ภายใน 6 เดือน ซึ่งยังมีภาษาอื่น ๆ อีกมากมายนักที่ยากจนบางคนท้อและเลิกเรียนไปเลยก็มี วันนี้จะมาแนะนำภาษาที่ขึ้นชื่อว่ายากที่สุดในโลก เผื่อใครสนใจอยากจะท้าทายตัวเอง อยากจะพิชิตเรียนภาษาเหล่านี้ภายใน 6 เดือน หรือ 1 ปี เป็น Challenge ในชีวิตให้ตื่นเต้น หากทำได้ยังได้ประโยชน์แก่การงานด้วยค่ะ จะมีภาษาอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย ภาษาจีน ( Chinese ) ( cr. https://unsplash.com/photos/3JFVNo4ukKQ ) ภาษาจีนนั้นแค่ได้ยินก็ขนลุกกับตัวอักษรเขียนเป็นพัน ๆ คำที่เราต้องจำ สำหรับคนไทยนั้น สิ่งที่ง่ายก็คงเป็นโทนเสียงที่คล้ายคลึงกับภาษาไทย แต่สำหรับชาวตะวันตกนั้น แค่ตัวอักษรให้จำ แถมเจอระบบโทนเสียงที่ไม่ได้อยู่ในระบบของเขาเลยถือเป็นความท้าทายมาก ๆ ภาษาจีนจึงยากมากสำหรับชาวตะวันตกที่จะเรียนให้ถึงขั้นเก่ง ใช้เวลานานแถมยังไม่น่าดึงดูดเพราะตัวเขียนที่เยอะ แถมยังยากในตอนเริ่มต้นมาก ๆ 2. ภาษาอาหรับ ( Arabic ) ( cr. https://unsplash.com/photos/3NLPLfoLM3I ) ภาษาอาหรับเป็นที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในแถบตะวันออกกลางและในคัมภีร์อัลกุรอานของศาสนาอิสลาม ความยากคือ ภาษาเขียนของตัวเอง และเขียนจากขวาไปซ้าย ยังไม่นับเสียงที่มีเอกลักลักษณ์ทำให้ชาวต่างชาตินั้นแยกแยะไม่ออก ต้องใช้การฝึกระยะเวลานาน รากศัพท์ที่ไม่ได้มาจากภาษาละติน ทำให้ภาษาอาหรับนั้นยากสำหรับจะเรียนให้เก่ง ใช้เวลาค่อนข้างนานในการเรียน แต่ภาษาอาหรับเป็นภาษาพูดที่คนใช้เยอะอันดับ 5 ของโลกเชียว ถ้าพูดได้ตลาดงานจากตะวันออกกลางตามตัวกันไปทำงานเลยละค่ะ 3. ภาษาฮังกาเรียน ( Hungarian ) ( cr. freepik )เราเคยมีโอกาสได้เรียนภาษาฮังกาเรียนหนึ่งเทอมตอนไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี บอกได้เลยว่าสำหรับหนึ่งเทอมนั้น แค่สามารถสั่งกาแฟได้ก็ถือว่าเก่งแล้ว เพราะว่าภาษาฮังกาเรียนนั้นแตกต่างจากภาษาประเทศรอบข้าง ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับกลุ่มภาษาที่ใช้รากศัพท์ละติน เช่น ภาษาฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาเลียน ดังนั้นคำศัพท์ต้องเรียนใหม่หมด จำใหม่หมด แถมยากมาก ๆ คือ กฎที่เติมคำศัพท์ prefix หน้าคำ หรือ Suffix ด้านหลัง ทำให้คำยาวไปเรื่อย ๆ แถมการเติมนั้นยังมีกฎที่ต้องให้เสียงสัมพันธ์กันเป็น Harmony คล้องจอง สละสลวย คล้ายการร้องเพลง ภาษาฮังกาเรียนจึงทำให้เป็นภาษาที่แปลกประหลาด ยากสำหรับชาวเอเชีย และชาวตะวันตกด้วยกันค่ะ 4. ภาษาไอซ์แลนด์ ( Icelandic ) ( cr. freepik ) แม้ว่าจะมีรากศัพท์เดียวกับภาษาอังกฤษ แต่ภาษาไอซ์แลนด์นั้นยังคงใช้คำโบราณอยู่มาก ทำให้ไม่สัมพันธ์กับภาษาในยุโรปส่วนใหญ่ซึ่งนั้นไม่ได้ใช้แล้ว หากไม่มีการเชื่อมโยงกับภาษาอื่น ๆ เราก็จะใช้เวลานานในการเรียนค่ะ ทั้งการออกเสียงกับการเขียนดูไม่สัมพันธ์กัน ทำเอาคนเริ่มเรียนเบื้องต้นนั้นงงไปเป็นแถบ ๆ แกรมม่าร์ที่เปลี่ยนรูปแล้วแต่บริบท ซึ่งภาษากลุ่มยุโรปส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ อาจจะยากสำหรับชาวเอเชียที่ไม่เปลี่ยนอะไรมาก ภาษาไอซ์แลนด์ยังใช้แค่ในประเทศเท่านั้น ทำให้การเรียนไม่ต่อเนื่องหากเราไม่ได้ใช้จริง ๆ เหมือนภาษาอื่น ๆ ค่ะ 5. ภาษารัสเซีย ( Russian ) ( cr. freepik ) ภาษารัสเซียมีตัวอักษรเป็นของตัวเองเรียกว่า ตัวอักษรซิริลลิก ( Cyrllic ) ออกเสียงตามตัวอักษร ซึ่งเป็นข้อดี แต่ส่วนที่ยากอยู่ที่โครงสร้างไวยากรณ์ที่ชวนปวดหัวมาก ๆ เปลี่ยนรูปแล้วแต่บริบท ซึ่งมีกฎเยอะแยะตามมาจนหลาย ๆ คนยอมแพ้ในแรกเริ่มค่ะ แต่ภาษารัสเซียนั้นมีประโยชน์มาก ๆ เพราะสามารถใช้ในหลายประเทศนอกรัสเซีย เช่น กลุ่มประเทศโซเวียตเก่า จอร์เจีย อาร์เซอไบจาน มอลโดว่า เบลารุส โปแลนด์บางส่วน รวมไปถึงกลุ่มประเทศบอลติกอย่าง ลิทัวเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย เป็นต้น หากสามารถพูดภาษาเหล่านี้ได้ก็จะทำให้มีประโยชน์ต่อการงานเราแน่นอนในอนาคต