"เงินเทอร์โบ" เตรียมนำหุ้นเข้า SET ขาย IPO ไม่เกิน 537 ล้านหุ้น
บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด(มหาชน) จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET จะเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 537 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 20.1%ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยหุ้น IPO ดังกล่าวแบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 447.78 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด หรือ KVISION โดยมีธนาคารทิสโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบล.ทิสโก้ และบล.กสิกรไทย เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
บริษัท เงินเทอร์โบ ได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ดังกล่าว โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ มีแผนที่จะนำไปขยายธุรกิจให้บริการการเงินของกลุ่มบริษัท, เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคาร และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้บริษัท เงินเทอร์โบ ประกอบธุรกิจให้บริการทางการเงินแก่ประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารพาณิชย์หรือสามารถเข้าถึงแต่ได้รับบริการที่ไม่ครบถ้วน (Unbanked/Underbanked) โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า “เงินเทอร์โบ” ผ่านสำนักงานสาขาของกลุ่มบริษัทฯ รวมทั้งสิ้น 892 สาขา ในพื้นที่ 52 จังหวัด ของ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566) ณ ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (“สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน”) สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันหรือหลักประกัน (“สินเชื่อโฉนดที่ดิน”) และสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (“สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์”)
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่น ๆ ได้แก่ ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิต
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 กลุ่มบริษัทฯ ประกอบด้วยบริษัทฯ และบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นรวมร้อยละ 100.0 จำนวน 4 บริษัท ดังต่อไปนี้ บริษัท เอ็นทีบีเอ็กซ์ จำกัด ให้บริการค้ำประกันสินเชื่อ, บริษัท เงินเทอร์โบ อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด ให้บริการนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต , บริษัท เงินเทอร์โบ เพย์ เลเทอร์ จำกัด ปัจจุบันยังไม่ได้ประกอบธุรกิจ และบริษัท เงินเทอร์โบ ดีเวลลอปเม้นท์ เซ็นเตอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจสถานฝฝึกอบรม เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานของลูกจ้างของกลุ่มบริษัท
โครงสร้างผู้ถือหุ้น จะมีกลุ่มครอบครัวตั้งมิตรประชา ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 88.8% รองลงมาได้แก่ บริษัท กสิกร วิชั่นถือหุ้น 10.0% ผู้บริการและบุคลากร ถือหุ้น 1.2%
นายสุธัช เรืองสุทธิภาพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เงินเทอร์โบเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารพาณิชย์หรือสามารถเข้าถึงแต่ได้รับบริการไม่ครบถ้วน ภายใต้ความต้องการที่จะเห็นผู้คนในทุกๆ ชุมชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริการทางการเงินที่มีความน่าเชื่อถือ มีความสมเหตุสมผลที่เข้าใจวิถีชีวิตของคนในชุมชนอย่างแท้จริง โดยในปัจจุบันเงินเทอร์โบ แบ่งการให้บริการออกเป็น 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจสินเชื่อ และ ธุรกิจนายหน้าประกันภัย
ทั้งนี้ เงินเทอร์โบก่อตั้งในช่วงปลายปี 2560 โดยเริ่มต้นกิจการในฐานะ Startup เล็กๆ มีทีมงานในวันแรกเพียง 4 คน ทำงานในห้องเช่าซึ่งเดิมเป็นร้านอาหารขนาดไม่ถึง 100 ตารางเมตร เติบโตจนในปัจจุบันจนมีทีมงานคนรุ่นใหม่กว่า 2,300 คน สำนักงานใหญ่มีพื้นที่กว่า 9,950 ตารางเมตร บนที่ดินกว่า 14 ไร่ ให้บริการผ่านเครือข่ายสาขา 892 สาขา กระจายอยู่ในพื้นที่ 52 จังหวัดทั่วประเทศ โดยกลุ่มธนาคารกสิกรไทยได้เข้ามาลงทุนเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ในช่วงปลายปี 2565
จากการที่ลงทุนในเทคโนโลยีของตนเองอย่างต่อเนื่องแบบ Cloud Native เพื่อยกระดับการให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้ารายย่อย ทำให้ภายในระยะเวลาเพียง 6 ปี เงินเทอร์โบสามารถเติบโตขึ้นเป็นหนึ่งในผู้เล่นแถวหน้าในอุตสาหกรรม โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 เงินเทอร์โบมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 10,598 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมที่ ร้อยละ 51.3 ต่อปี และ สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,088 ล้านบาท หากคิดเป็นรายได้เต็มปีและเทียบกับปี 2563 คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมที่ ร้อยละ 46.1
นอกจากนี้ ธุรกิจนายหน้าประกันภัยก็ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้กว่า 121 ล้านบาท สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 หากคิดเป็นรายได้เต็มปีและเทียบกับปี 2563 คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมที่ร้อยละ 63.5 ต่อปี การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่เงินเทอร์โบสามารถให้บริการทางการเงินที่ง่าย รวดเร็ว และ สะดวก โดยส่วนใหญ่ลูกค้าจะได้รับอนุมัติสินเชื่อและได้รับเงินภายในวัน อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่มีใบอนุญาตให้คำปรึกษาด้านประกันภัยประจำอยู่ที่สาขา เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการทางการเงินที่ครบถ้วน
นอกจากนี้ เงินเทอร์โบยังให้ความสำคัญกับระบบเทคโนโลยี โดยมีทีมเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม และยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เงินเทอร์โบ สามารถนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ภายในองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างขีดจำกัดใหม่ในการทำงานตลอดเวลา เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เงินเทอร์โบจะยังรักษาข้อได้เปรียบในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม รวมถึงมีต้นทุนในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว
โดยเงินเทอร์โบมองว่ายังมีลูกค้ารายย่อยอีกจำนวนมากทั้งในประเทศไทยเองและในภูมิภาคใกล้เคียงที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่ครบถ้วนได้ ซึ่งเงินเทอร์โบมองเห็นโอกาสที่ชัดเจนในการเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว ดังจะเห็นได้จากการเติบโตที่โดดเด่นในอดีตที่ผ่านมาของกลุ่มบริษัทฯ เงินเทอร์โบจึงวางแผนจะระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจผ่านบริการทางการเงินที่หลากหลาย และ พื้นที่บริการที่ครอบคลุม รวมถึงต่อยอดการลงทุนและพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต