9 วิธีลดควันและเขม่า ก่อไฟเตาถ่าน เพื่อบ้านปลอดภัย จากมลพิษ เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ควันและเขม่าจากเตาถ่านเป็นสิ่งที่หลายบ้านคุ้นเคยจนเผลอมองว่าเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้คือมลพิษทางอากาศที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรงค่ะ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานใกล้พื้นที่อยู่อาศัยหรือในช่วงที่อากาศถ่ายเทไม่ดี ซึ่งภาพของควันลอยคลุ้ง กลิ่นฉุนติดบ้าน และคราบดำที่เกาะตามผนัง ล้วนสะท้อนให้เห็นว่าการใช้เตาถ่านไม่ได้กระทบแค่ความสะดวกในการทำอาหาร แต่เชื่อมโยงไปถึงคุณภาพอากาศและความปลอดภัยของคนในบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นะคะ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้กันว่า จะทำยังไงดีให้เตาถ่านในฐานะแหล่งกำเนิดมลพิษ ลดผลกระทบจากควันและเขม่า โดยเมื่ออ่านจบแล้วคุณผู้อ่านแล้วจะสามารถมองออกเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องจัดการตั้งแต่ต้นจนจบคะ ซึ่งภาพทั้งหมดจะเปลี่ยนไปในทันที ตั้งแต่การเตรียมถ่าน การควบคุมไฟ ไปจนถึงการจัดการหลังใช้งาน เพราะทุกขั้นตอนมีผลต่อควัน เขม่า และความเสี่ยงที่เกิดขึ้น และต่อไปนี้คือแนวทางที่จะทำให้การใช้เตาถ่านไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไป และเป็นสิ่งที่ควรรู้เพราะสามารถนำไปใช้จริงได้ในทุกบ้านค่ะ 1. หลีกเลี่ยงถ่านเปียกหรือเก็บถ่านให้แห้งเสมอ การหลีกเลี่ยงถ่านเปียกและการเก็บถ่านให้แห้งเสมอ เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการลดควันและเขม่าจากเตาถ่านอย่างได้ผลค่ะ เพราะถ่านที่มีความชื้นสูงจะเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดควันดำ เขม่าลอยตัว และกลิ่นระคายเคืองมากกว่าปกติ โดยในมุมมองด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์หมายถึงการปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็กและก๊าซที่กระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยตรง โดยเฉพาะในบ้านที่ใช้งานเตาถ่านใกล้พื้นที่อยู่อาศัยหรือมีเด็กและผู้สูงอายุ ดังนั้นการเริ่มต้นจากถ่านที่แห้งจึงไม่ใช่แค่เรื่องความสะดวก แต่คือการลดแหล่งกำเนิดมลพิษตั้งแต่ต้นทาง ทำให้ไฟติดง่าย ความร้อนสม่ำเสมอ และควันลดลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ช่วงก่อไฟ โดยในทางปฏิบัติเราควรเก็บถ่านไว้ในภาชนะปิดมิดชิด หลีกเลี่ยงพื้นที่ชื้น ใกล้ดิน หรือโดนฝน เพราะถ่านสามารถดูดความชื้นจากอากาศได้โดยไม่รู้ตัว ถ่านที่ดูแห้งภายนอกแต่มีความชื้นสะสมภายใน มักสร้างควันหนาในช่วงแรกของการใช้งาน การเก็บถ่านให้แห้งอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้การเผาไหม้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการเกิดเขม่าเกาะเตาและตะแกรง และลดภาระการทำความสะอาดภายหลัง เมื่อเราควบคุมความชื้นของถ่านได้ดี การใช้เตาถ่านก็จะปลอดภัยต่อสุขภาพมากขึ้น และทำให้การใช้งานในบ้านเป็นเรื่องที่ควบคุมความเสี่ยงได้จริงค่ะ 2. ใช้เชื้อไฟจากธรรมชาติ แทนการใช้น้ำมันหรือสารเคมี การใช้เชื้อไฟจากธรรมชาติแทนการใช้น้ำมันหรือสารเคมี เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ช่วยลดควันและเขม่าจากเตาถ่านได้อย่างชัดเจนค่ะ เพราะสารเร่งไฟอย่างน้ำมันก๊าด แอลกอฮอล์ หรือสเปรย์ติดไฟ แม้จะทำให้ไฟติดเร็ว แต่กลับสร้างควันหนา กลิ่นฉุน และสารตกค้างจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งในด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมถือเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศภายในบ้านโดยตรง อีกทั้งการเผาไหม้ของสารเคมีเหล่านี้ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจและการสะสมเขม่าบนพื้นผิวรอบเตา แต่การเลือกใช้เชื้อไฟจากธรรมชาติ เช่น กระดาษแห้ง เศษไม้แห้ง หรือกาบมะพร้าว ช่วยให้การก่อไฟสะอาดขึ้น ควันลดลง และควบคุมความปลอดภัยได้ดีกว่าค่ะ โดยในสถานการณ์จริงเชื้อไฟจากธรรมชาติจะช่วยให้ไฟค่อยๆ ลุกอย่างสม่ำเสมอ เปิดโอกาสให้อากาศไหลผ่านได้ดี ทำให้ถ่านติดไฟอย่างเป็นระบบ ไม่เกิดการลุกไหม้ฉับพลันที่สร้างควันจำนวนมาก เมื่อไฟตั้งตัวได้เร็วโดยไม่พึ่งสารเคมี การเผาไหม้จะมีเสถียรภาพ ลดการเกิดเขม่าดำและกลิ่นตกค้างในบ้าน อีกทั้งยังลดความเสี่ยงไฟลามหรืออุบัติเหตุจากการกระเด็นของสารไวไฟ เมื่อเราควบคุมขั้นตอนก่อไฟตั้งแต่ต้นด้วยวิธีธรรมชาติ การใช้เตาถ่านก็จะเป็นมิตรต่อสุขภาพมากขึ้น และช่วยให้บ้านปลอดภัยจากมลพิษอย่างยั่งยืนค่ะ 3. เลือกถ่านคุณภาพดี รู้ไหมคะว่า การเลือกถ่านคุณภาพดีคือพื้นฐานสำคัญของการลดควันและเขม่าจากเตาถ่านอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ เนื่องจากถ่านที่ได้มาตรฐานจะเผาไหม้ได้สม่ำเสมอ ให้ความร้อนคงที่ และปล่อยควันน้อยกว่าถ่านที่แตกหัก ที่มักมีสิ่งปนเปื้อน หรือผ่านกระบวนการผลิตที่ไม่ได้ควบคุม ซึ่งถ่านคุณภาพต่ำมักเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดควันดำและฝุ่นเขม่าขนาดเล็กซึ่งสามารถลอยสะสมในอากาศภายในบ้านได้ง่าย การเริ่มต้นจากถ่านที่ดีจึงช่วยลดแหล่งกำเนิดมลพิษตั้งแต่ต้นทาง ทำให้การก่อไฟง่ายขึ้นและลดภาระต่อระบบทางเดินหายใจของคนในบ้านค่ะ โดยเราควรเลือกถ่านที่แห้ง สะอาด สีสม่ำเสมอ ไม่มีกลิ่นผิดปกติ และไม่แตกเป็นผงง่าย ซึ่งถ่านไม้เนื้อแข็งหรือถ่านอัดแท่งที่ผลิตตามมาตรฐาน มักให้ความร้อนยาวนานและควันน้อยกว่าถ่านที่ไม่ทราบแหล่งที่มาค่ะ การเลือกถ่านที่มีคุณภาพยังช่วยลดการเกิดเขม่าเกาะเตา ตะแกรง และพื้นผิวรอบข้าง ทำให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นและยืดอายุการใช้งานของเตา เมื่อเราคัดเลือกถ่านตั้งแต่แรกได้เหมาะสม การใช้เตาถ่านในบ้านก็จะปลอดภัย สะอาด และควบคุมมลพิษได้มากขึ้นอย่างเห็นผลนะคะ 4. ก่อไฟด้วยวิธีไหลอากาศดี คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การก่อไฟด้วยวิธีที่อากาศไหลเวียนได้ดี เป็นหัวใจของการลดควันและเขม่าจากเตาถ่านอย่างแท้จริงค่ะ โดยในสถานการณ์จริงหากถ่านถูกอัดแน่นเกินไป ออกซิเจนจะเข้าไม่ถึง ทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์และเกิดควันหนาทันที ซึ่งในด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมย้ำว่า การเผาไหม้ที่ขาดอากาศจะเพิ่มการปล่อยฝุ่นเขม่าขนาดเล็กและก๊าซระคายเคือง ซึ่งสามารถสะสมในพื้นที่ใช้งานและกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของคนในบ้าน แต่การจัดเรียงถ่านให้มีช่องอากาศตั้งแต่เริ่มก่อไฟ จึงเป็นการควบคุมมลพิษตั้งแต่ขั้นตอนแรกโดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เพิ่มเติมค่ะ โดยเราควรเรียงถ่านให้โปร่ง ไม่ซ้อนทับแน่นเกินไป และเว้นช่องตรงกลางหรือด้านล่างของเตาเพื่อให้อากาศไหลผ่านได้สะดวก ซึ่งหลักง่ายๆ คือ ไฟต้องหายใจได้ การทำแบนี้จะช่วยให้ถ่านติดไฟเร็ว ความร้อนกระจายสม่ำเสมอ และควันลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่ออากาศไหลดี ไฟจะค่อยๆ ลุกอย่างเสถียร ไม่เกิดการลุกไหม้ฉับพลันที่สร้างเขม่าดำสะสม การก่อไฟด้วยวิธีนี้ไม่เพียงทำให้ใช้งานเตาถ่านได้สะอาดขึ้น แต่ยังช่วยให้บ้านปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศในระยะยาวค่ะ 5. รอให้ถ่านติดไฟดีและมีเถ้าขาวก่อนเริ่มใช้งาน หลายคนยังไม่รู้ว่า การรอให้ถ่านติดไฟดีและเริ่มมีเถ้าขาวเคลือบผิวก่อนเริ่มใช้งาน เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยลดควันและเขม่าได้อย่างชัดเจน เพราะในช่วงที่ถ่านเพิ่งติดไฟใหม่ๆ จะยังมีการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดควันหนา กลิ่นแรง และฝุ่นเขม่าลอยฟุ้ง ซึ่งในด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมระบุว่า ระยะนี้ถือเป็นช่วงที่ปล่อยสารมลพิษมากที่สุด หากเริ่มใช้งานทันที ควันจะกระจายเข้าสู่พื้นที่อยู่อาศัยได้ง่าย แต่การรอให้ถ่านตั้งตัวจนไฟเสถียร จึงเป็นการลดความเสี่ยงต่อระบบทางเดินหายใจของคนในบ้านตั้งแต่ต้น ถ้าสังเกตเห็นว่ามีเถ้าขาวเคลือบผิวถ่าน นั่นเป็นสัญญาณว่าการเผาไหม้เริ่มสมบูรณ์ ความร้อนจะสม่ำเสมอ และควันลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเริ่มใช้งานในช่วงนี้ เขม่าดำจะเกาะอุปกรณ์และอาหารน้อยลง กลิ่นควันฉุนลดลง และควบคุมไฟได้ง่ายกว่า ดังนั้นการให้เวลากับถ่านเพียงเล็กน้อยก่อนเริ่มใช้งาน จึงช่วยให้การใช้เตาถ่านสะอาด ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในบ้านที่ต้องคำนึงถึงคุณภาพอากาศภายในเป็นหลักค่ะ 6. เลี่ยงการเติมถ่านระหว่างใช้งานบ่อยเกินไป การเลี่ยงการเติมถ่านระหว่างใช้งานบ่อยเกินไป เป็นวิธีง่ายแต่ได้ผลในการลดควันและเขม่าจากเตาถ่านค่ะ เพราะถ่านใหม่ที่ถูกเติมเข้าไปจะยังไม่ผ่านการเผาไหม้เต็มที่ ทำให้เกิดควันหนาและเขม่าดำในทันที โดยเฉพาะเมื่อเติมลงไปขณะไฟกำลังแรง ซึ่งในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมมองว่า การเติมถ่านถี่ๆ จะทำให้เกิดการปล่อยฝุ่นละอองและก๊าซระคายเคืองซ้ำๆ ซึ่งส่งผลให้คุณภาพอากาศในบ้านให้แย่ลงโดยไม่รู้ตัว การควบคุมจังหวะการเติมถ่านจึงเป็นการลดแหล่งกำเนิดมลพิษที่มักถูกมองข้ามค่ะ และการนำวิธีนี้ไปใช้จริงนั้น เราควรวางแผนปริมาณถ่านให้เหมาะสมตั้งแต่เริ่มก่อไฟ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานโดยไม่ต้องเติมบ่อย หากจำเป็นต้องเติม ควรรอให้ถ่านเดิมเริ่มอ่อนกำลัง และเติมในปริมาณน้อยเพื่อไม่กระตุ้นให้เกิดควันมากเกินไป การจัดการถ่านอย่างมีระบบจะช่วยให้ไฟนิ่ง ความร้อนสม่ำเสมอ และลดการเกิดเขม่าเกาะเตาและพื้นที่รอบข้าง เมื่อเราเติมถ่านเท่าที่จำเป็น การใช้เตาถ่านก็จะปลอดภัย สะอาด และควบคุมมลพิษได้ดีขึ้นอย่างเห็นผลค่ะทุกคน 7. ตั้งเตาถ่านในจุดอากาศถ่ายเท การตั้งเตาถ่านในจุดที่อากาศถ่ายเทได้ดี เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดการสะสมของควันและเขม่าภายในบ้านอย่างชัดเจน แม้จะก่อไฟถูกวิธีและใช้ถ่านคุณภาพดี หากใช้งานในพื้นที่อับอากาศ ควันและมลพิษก็ยังคงสะสมและส่งผลต่อสุขภาพได้ เนื่องจากควันจากเตาถ่านประกอบด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็กและก๊าซที่สามารถระคายเคืองระบบทางเดินหายใจได้ การเลือกตำแหน่งเตาที่เปิดโล่งหรือมีลมผ่าน จึงเป็นการลดความเข้มข้นของมลพิษก่อนที่ควันจะกระจายเข้าสู่พื้นที่อยู่อาศัยค่ะ โดยเราควรตั้งเตาถ่านบริเวณนอกบ้าน ระเบียง หรือพื้นที่กึ่งเปิดที่มีการไหลเวียนของอากาศอย่างต่อเนื่อง และหลีกเลี่ยงการใช้งานใกล้ผนังหรือในห้องปิด การมีอากาศถ่ายเทดีจะช่วยให้ควันลอยออก ไม่ย้อนกลับมาสะสมรอบตัวผู้ใช้งาน ลดการสูดดมเขม่าโดยไม่จำเป็น เมื่อเราเลือกตำแหน่งเตาอย่างเหมาะสม การใช้เตาถ่านก็จะปลอดภัยขึ้น ทั้งต่อสุขภาพของคนในบ้านและต่อคุณภาพอากาศโดยรวมค่ะ 8. ทำความสะอาดเตาและตะแกรงสม่ำเสมอ หลายคนยังไม่รู้ว่า การทำความสะอาดเตาและตะแกรงอย่างสม่ำเสมอ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยลดควันและเขม่าจากเตาถ่านได้มากกว่าที่คิด ปกตินั้นคราบไขมัน เศษอาหาร และเขม่าที่สะสมอยู่ในเตา เมื่อโดนความร้อนซ้ำ จะเกิดการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์และปล่อยควันดำออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งตกค้างเหล่านี้ไม่เพียงเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศค่ะ แต่ยังอาจปนเปื้อนกลับสู่อาหารได้ การดูแลความสะอาดของเตาจึงเป็นการลดความเสี่ยงทั้งด้านสุขภาพและความปลอดภัยไปพร้อมกันนะคะ ในทางปฏิบัติเราควรทำความสะอาดเตาและตะแกรงหลังการใช้งานทุกครั้ง เมื่อคราบยังไม่แข็งตัวจนฝังแน่น การขจัดเขม่าและไขมันออกจะช่วยให้ความร้อนกระจายดีขึ้น และลดการเกิดควันในครั้งต่อไป เตาที่สะอาดยังช่วยควบคุมไฟได้ง่าย ลดกลิ่นควันตกค้าง และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ เมื่อเราดูแลเตาถ่านอย่างสม่ำเสมอ การใช้งานก็จะสะอาด ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อคุณภาพอากาศภายในบ้านมากขึ้นค่ะ 9. ดับไฟและจัดการเถ้าถ่านอย่างถูกวิธี คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การดับไฟและจัดการเถ้าถ่านอย่างถูกวิธี เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ช่วยลดความเสี่ยงจากควัน เขม่า และอันตรายที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการใช้งานเตาถ่าน เพราะเถ้าถ่านที่ยังไม่มอดสนิทสามารถปล่อยควัน ฝุ่นเขม่า และความร้อนแฝงออกมาได้โดยไม่รู้ตัว โดยในด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ฝุ่นจากเถ้าถ่านมีขนาดเล็ก สามารถฟุ้งกระจายในอากาศและเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้ง่าย หากจัดการอย่างไม่เหมาะสมยังเพิ่มความเสี่ยงไฟไหม้และการปนเปื้อนในพื้นที่อยู่อาศัย การใส่ใจขั้นตอนหลังใช้งานจึงสำคัญไม่แพ้ช่วงก่อไฟนะคะ ดังนั้นเราควรรอให้ถ่านมอดสนิทและเย็นลงก่อนทำการเก็บหรือทิ้งเถ้าถ่าน และควรใช้ภาชนะที่ทนความร้อน มีฝาปิด เพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่น การหลีกเลี่ยงการเทเถ้าร้อนลงถังขยะหรือใกล้วัสดุติดไฟ จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุและลดการเกิดควันซ้ำโดยไม่จำเป็น เมื่อเราจัดการเถ้าถ่านอย่างเป็นระบบ การใช้เตาถ่านก็จะจบลงอย่างปลอดภัย ลดมลพิษตกค้าง และไม่สร้างปัญหาต่อสุขภาพของคนในบ้านค่ะ จบแล้วค่ะ พอจะมองภาพออกแล้วใช่ไหมคะ โดยภาพรวมของการจัดการเตาถ่านอย่างปลอดภัย เราต้องมองภาพรวมให้ครบตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ ที่ไม่ใช่เพียงช่วงก่อไฟหรือระหว่างใช้งาน แต่รวมถึงขั้นตอนหลังใช้งานที่เป็นจุดตัดความเสี่ยงสำคัญที่สุด หากถ่านยังมีความร้อนแฝง ควันและเขม่ายังคงเกิดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัวนะคะ โดยในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ช่วงเวลานี้คือแหล่งกำเนิดมลพิษตกค้างที่มักถูกละเลย ดังนั้นการคิดแบบภาพใหญ่จึงช่วยให้เราเข้าใจว่าความปลอดภัยของบ้านไม่ได้จบเมื่อเลิกใช้เตา แต่จบเมื่อความร้อนและมลพิษถูกจัดการจนหมดจริงค่ะ ซึ่งการดับถ่านอย่างถูกวิธีคือการหยุดการเผาไหม้ให้สิ้นสุด ไม่เปิดโอกาสให้เกิดควันซ้ำหรือการปะทุโดยไม่ตั้งใจ เมื่อจัดการถ่านอย่างเป็นระบบ ฝุ่นเถ้าถ่านจะไม่ฟุ้งกระจายในอากาศ และไม่ย้อนกลับมากระทบต่อคุณภาพอากาศภายในบ้าน การแยกถ่านออกจากพื้นที่ใช้งานและควบคุมการแพร่กระจายของเขม่า ถือเป็นการจัดการมลพิษที่ปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงทั้งด้านสุขภาพและอุบัติเหตุในชีวิตประจำวัน เมื่อเรามองในภาพรวมออกการจัดการหลังใช้งานที่ดี มีส่วนช่วยปิดวงจรความเสี่ยงของเตาถ่านอย่างสมบูรณ์ แม้จะเป็นขั้นตอนสุดท้าย แต่กลับส่งผลต่อความปลอดภัยระยะยาวของคนในบ้านโดยตรง การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ช่วงท้าย ทำให้การใช้เตาถ่านไม่กลายเป็นปัญหาสุขภาพสะสม และช่วยให้บ้านกลับสู่สภาพปลอดภัย สะอาด และควบคุมมลพิษได้จริงในทุกครั้งที่ใช้งานค่ะ สำหรับที่นี่ยังก่อไฟด้วยเตาถ่านเหมือนกันค่ะ ปกติในสถานการณ์จริงผู้คนแถวนี้ไม่ชอบถ่านจากไม้เนื้ออ่อนค่ะ เพราะไฟดับเร็ว สะเก็ดไฟแตกจนต้องกระโดดหนีก็มี ซึ่งถ่านจากไม้เนื้อแข็งคือตัวเลือกที่ดีที่สุด และที่นี่ยังสามารถหาซื้อได้ค่ะ ซึ่งในปัจจุบันถ่านหุงต้มมีขายออนไลน์แล้วนะคะ ให้ซื้อกันได้เลย โดยในส่วนของการตั้งเตาถ่านที่นี่ผู้เขียนสามารถวางตั้งได้ในจุดที่อากาศโล่งค่ะ ที่มักจะยืนอยู่เหนือลมเสมอเวลาก่อไฟ หากมีขี้ไต้ผู้เขียนจะนำมาใช้ค่ะ จากนั้นใช้ไม้ขนาดเล็กวางลงไปแบบเบามือให้เป็นรูปกระโจม และวางด้วยถ่านทีละก้อนแบบยังเปิดช่องว่างให้ลมไหลเวียนได้ค่ะ ในต่างจังหวัดการหาฝาหม้อ กระดุ้ง หรือหมวกมาพัดให้ลมไหลเวียนดีคืออีกหนึ่งภูมิปัญหาชาวบ้านที่ได้ผลนะคะ พัดลมใช้ได้ค่ะ แต่ถ้าในเมืองบ้านติดๆ กันอาจต้องระวังหน่อย และในส่วนของการทำให้ถ่านที่ยังติดไฟอยู่ดับหลังใช้งานนั้น ผู้เขียนใช้จริงมี 3 วิธีการค่ะ อย่างแรกหากถ่านที่ติดมีน้อยมากเพียงบางๆ ที่ก้นเตา แบบนี้จะปล่อยให้ถ่านค่อยๆ มอดไปเองค่ะ ส่วนวิธีถัดมาคือการเทน้ำราดถ่านที่ยังแดงอยู่ให้ไฟดับไป โดยวิธีนี้ในชนบทยังนิยมทำกันอยู่นะคะ แต่จะต้องคีบถ่านที่ยังติดไปออกมาจากเตาและวางไว้ที่พื้นก่อน อาจเป็นพื้นดิน พื้นหญ้าหรือพื้นคอนกรีตก็ได้ จากนั้นใช้น้ำดับไฟค่ะ และวิธีการสุดท้ายที่โบราณหน่อยแต่อิงวิทยาศาสตร์ นั่นคือผู้เขียนใช้ไหเก่ามาตั้งไว้ข้างเตาค่ะ จากนั้นคีบถ่านที่ยังแดงๆ อยู่ใส่ลงไป และปิดปากไหไว้ไม่ให้มีอากาศเข้าไป เพียงเท่านั้นก็สามารถมอดไฟได้และไม่มีเขม่าหรือควันเล็ดลอดออกมาแล้วรบกวนแล้ว ก็ลองนำไปเป็นไอเดียได้ค่ะทุกคน #ควันและเขม่า #มลพิษทางอากาศ #เตาถ่าน #อนามัยสิ่งแวดล้อม #วิธีลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก ถ่ายภาพโดย Freepik จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1,3-4 ถ่ายภาพโดยผู้เขียน และภาพที่ 2 ถ่ายภาพโดย Pvproductions จาก FREEPIK เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล เลือกถ่านหุงต้ม แบบไหนดี ติดไฟนาน ไม่แตกเป็นสะเก็ด 9 วิธีลดการเกิดสารก่อมะเร็ง จากการย่างและปิ้ง ต้องทำยังไงดี วิธีก่อไฟในเตาถ่าน ด้วยไม้ขี้ไต้ แบบโบราณ ทำยังไงมาดูกัน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !