ก.ล.ต. เผยสถิติหลอกลงทุนพุ่งเท่าตัว มิจฉาชีพยังคุกคามปชช.ต่อเนื่อง

วันนี้ ( 2 พ.ย. 68 )สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยสถิติการดำเนินการของ "สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน" (โทร. 1207 กด 22) ประจำเดือนกันยายน 2568 พบว่ามีจำนวนการแจ้งเบาะแสและให้คำปรึกษารวม 1,500 ครั้ง ซึ่ง เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2568

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก ก.ล.ต. กล่าวว่า สถิติดังกล่าวสะท้อนว่าภัยหลอกลงทุนยังคงคุกคามประชาชนอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่า ประชาชนมีความต้องการรับคำปรึกษามากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนลงทุน หรือเมื่อตกเป็นเหยื่อไปแล้ว

รูปแบบการหลอกลวงที่พบมากที่สุด

ความเสียหายที่ ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแส ส่วนใหญ่มาจากการหลอกลวงผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย โดยมีรูปแบบสำคัญคือ:

1. หลอกลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ: เช่น หุ้น กองทุน และสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโท

2. การแอบอ้างหน่วยงาน: แอบอ้างชื่อหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ก.ล.ต. บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือตลาดหลักทรัพย์ฯ

3. ชวนลงทุนนอกตลาดหลักทรัพย์: แอบอ้างว่าเป็นการลงทุนผ่านระบบซื้อขายหลักทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์

ยกระดับบทบาทเชิงรุกและคำเตือนถึงประชาชน

ก.ล.ต. เปิดเผยว่าได้มีการประสานงานกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เพื่อ ปิดกั้นบัญชีที่เข้าข่ายหลอกลวง แล้ว และจะนำข้อมูลการรับแจ้งเบาะแสมาใช้วางแนวทางเพื่อยกระดับบทบาทของสายด่วนฯ ในเชิงรุกด้านการเป็นผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการป้องกันภัยหลอกลงทุน

คำเตือนถึงประชาชน

ก.ล.ต. ขอย้ำให้ประชาชนระมัดระวังการชักชวนลงทุนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ควรตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน หากไม่แน่ใจสามารถโทรปรึกษาได้ที่ สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน 1207 กด 22

นอกจากนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ให้บริการและผู้ที่ได้รับความเห็นชอบภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ได้ด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์ www.sec.or.th/seccheckfirst หรือติดตั้งแอปพลิเคชัน "SEC Check First เช็กก่อนเชื่อ" เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในตลาดทุนและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล