ยังจับตัวไม่ได้! เก๋งแหกด่านหนีตำรวจ พบมีหมายจับเพียบ พรากผู้เยาว์-ยาเสพติด
ยังจับตัวไม่ได้ เก๋งแหกด่านหนีเข้าป่า พบมีหมายจับ 3คดี พรากผู้เยาว์และยาเสพติด ชาวบ้านเผยพบมีรถมารับหลบหนี ด้านตร.ตั้งด่านสกัดจับทั่วจังหวัด
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองตราด ไล่ล่าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่ขับฝ่าจุดสกัดเสียหลักพุ่งชนต้นไม้และป้ายบอกทางริมถนน จากนั้นไม่พบคนอยู่ภายในรถ ซึ่งคาดว่าอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า ก่อนจะเข้าทำการตรวจค้น ซึ่งพบสิ่งของหลายอย่าง และได้นำกลับไปเพื่อตรวจสอบ ขณะที่ด้านท้ายรถเมื่อเปิดขึ้นมาพบมีเพียงกระเป๋าเสื้อผ้า ตามที่ข่าวนำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 15 ธ.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยชื่อผู้ต้องหาคือ นายวิวัฒน์ ชัยนันท์ หรือ ตู๋ อายุ 32 ปี โดยถูกศาลออกหมายจับจำนวน 3 คดี คือ คดีพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี เมื่อปี พ.ศ.2564 คดียาเสพติด 2 คดี เมื่อปี พ.ศ.2562 และ ปี พ.ศ.2563
ต่อมา พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประเสริฐ ฤทธิราช รอง ผกก.ป.สภ.เมืองตราด ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า เบื้องต้นได้สั่งให้กำลังตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตราด ตำรวจสืบสวนสวน สภ.เมืองตราด ติดตามหาข่าวจากชาวบ้านและเส้นทางการหลบหนี
ขณะที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองตราด ได้ตั้งด่านสกัดตรวจสอบรถต้องสงสัยที่อาจจะเข้ามารับผู้ต้องหาหลบหนี โดยมีกำลังอาสากู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด ร่วมสนับสนุนกำลังพลซึ่งตำรวจชุดสืบสวนได้แกะรอยเส้นทางหลบหนี จนทราบว่า หลังจากที่รถของ นายวิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุแล้ววิ่งตรงเข้าไปมุ่งหน้าไปยังป่าชายเลนที่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร โดยมีธนบัตรฉบับ 20 บาท ที่เปียกน้ำตกอยู่บนพื้น จึงเก็บเอาเป็นหลักฐาน ทำให้ตำรวจต้องให้อาสากู้ภัยเฝ้าจุดบริเวณนี้เอาไว้ เพื่อสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของคนร้าย
ระหว่างนั้นศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 สถานีตำรวจภูธรจังหวัดตราดได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีผู้ต้องสงสัยคล้ายกับ นายวิวัฒน์ เดินผ่านหน้าบ้าน ในสภาพตัวเปียก สวมกางเกงขาสั้น และศีรษะแตกมีเลือดไหลออกมา โดยมีรถกระบะสีขาว มารับตัวไป ทำให้ตำรวจเชื่อว่าน่าจะออกจากพื้นที่จุดเกิดเหตุไปแล้ว
หลังจากที่ได้เบาะแสของคนร้าย พ.ต.อ.สมชาย สั่งการทุกตำรวจทุกสถานี ตั้งด่านตรวจตามเส้นทางหลัก ซึ่งคาดว่าจะเป็นเส้นทางการหลบหนีของผู้ต้องหา พร้อมทั้งแบ่งกำลังชุดสืบสวนเฝ้าติดตามพฤติกรรมคนใกล้ชิด นายวิวัฒน์ เพื่อดูความเคลื่อนไหวด้วย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือหลบหนีหรือไม่