รีเซต

‘ทิสโก้’ อัพเป้า ‘SAPPE’ แนะซื้อ คาดกำไร Q4/65 อ่อนตัว แต่ทั้งปีเติบโตแรง

‘ทิสโก้’ อัพเป้า ‘SAPPE’ แนะซื้อ คาดกำไร Q4/65 อ่อนตัว แต่ทั้งปีเติบโตแรง
ทันหุ้น
30 มกราคม 2566 ( 14:11 )
37
‘ทิสโก้’ อัพเป้า ‘SAPPE’ แนะซื้อ คาดกำไร Q4/65 อ่อนตัว แต่ทั้งปีเติบโตแรง

#ทันหุ้น - บล.ทิสโก้ ประเมินหุ้นSAPPE - บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ  SAPPE มองแนวโน้ม Q4/65 อ่อนตัว QoQ จาก low season แต่ทั้งปีเติบโตก้าวกระโดด +56%YoY ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดกำไรสุทธิ Q4/65 เพิ่มขึ้น YoY แต่อ่อนตัว QoQ จากช่วง low season และคาดกำไรทั้งปี 2565 เติบโตแรง จากยอดขายการส่งออกที่เติบโตทั้งเอเชียและยุโรปจากการมุ่งเน้นทำการตลาด

 

โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ฝรั่งเศส เข้าถึงตลาด modern trade (MT) และ tradition trade (TT) มากขึ้นแนวโน้มกำไรสุทธิยังเติบโตได้ต่อเนื่อง คาดเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 26% (CAGR3y) มูลค่าที่เหมาะสม 61 บาท

 

คาดกำไรสุทธิ Q4/65 เติบโต YoY แต่ลดลง QoQ จาก low season ฝ่ายวิจัยคาด SAPPE จะมีกำไรสุทธิ Q4/65 ที่ 142 ล้านบาท (+157%YoY, -21%QoQ) คาดกำไรปี2565 จะมากกว่าที่ฝ่ายคาดไว้เดิมราว 3% อยู่ที่ 641 ล้านบาท +56%YoY โดยคาดรายได้รวม Q4/65 อยู่ที่ 1,085 ล้านบาท (+33%YoY และ -15%QoQ) และรายได้ทั้งปี 2565 คาด 4,620 ล้านบาท เติบโต 34%YoY จาก 1) คาดยอดขายในประเทศปี 2566 ลดลง -13% YoY เนื่องจากบริษัทเน้นทำการตลาดต่างประเทศแทนในประเทศและมีสินค้าใหม่เพียง 4 SKU เช่น เพรียว และ Beuti Shot รวมถึงแบรนด์ Blue

 

2) คาดยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 59%YoY จากการทำการตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น และ ฐานลูกค้าของบริษัทกว่า 90 ประเทศ โดยประเทศหลักการส่งออกได้แก่ ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และกลุ่มตะวันออกกลาง คาดอัตรามาร์จิ้นปี 2566-2567 อยู่ที่ 41% เพิ่มขึ้นจากอัตรากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นตามยอดขาย และคาดค่าใช้จ่ายและบริหารต่อยอดขายลดลงเนื่องจากบริษัท เนื่องจากใน Q4/65 บริษัทมีการรับรู้รายได้จากการช่วยจัดหาเรือให้ ลูกค้าลดลงจากสถานการณ์ขนส่งทางเรือเริ่มดีขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายลดลง

 

ปรับประมาณการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามการปรับโครงสร้างค่าใช้จ่าย แนวโน้มผลประกอบการ Q1/66 คาดจะเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องจากคาดการส่งออกเริ่มกลับมาออเดอร์ สินค้าหลังจากที่ชะลอคำสั่งซื้อในไตรมาส 4 ฝ่ายปรับประมาณการปี 2566-67 เพิ่มขึ้ นจากเดิม 5%-6% จากคาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 746 ล้านบาท (+16% YoY) และ 863 ล้านบาท (+16% YoY) ตามลำดับ 

 

จากการปรับโครงสร้างรายได้อื่นๆ และค่าใช้จ่ายจากการให้บริการจัดหาเรือขนส่งสินค้า ให้กับลูกค้าที่ลดลง เนื่องจากสถานการณ์การขาดแคลนเรือเริ่มคลี่คลาย ฝ่ายวิจัยคาด 1) ยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นปีละ 5% จากการทำการตลาดและออกสินค้าใหม่มากกว่า 20SKU

 

2) คาดยอดส่งออกเพิ่มขึ้นปีละ 15% จากการทำการตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น จากการเพิ่มช่องทางจำหน่าย ร่วมกับ distributor ให้ครอบคลุมมากขึ้น คาดอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นตามกำลังการผลิตที่เพิ่มตาม ยอดขาย ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 14.3%-14.7% บริษัทมีแผนปรับไลน์ผลิตที่มีอยู่ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้ 30% จากการปรับไปใช้ OEM และเพิ่มไลน์ใหม่ในประเทศ และปี 2567 บริษัทมีแผนเพิ่มไลน์ผลิตใหม่ในต่างประเทศงบลงทุนปี 2566-67 รวม 700-800 ล้านบาท

 

ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดแนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากการทำตลาด และ พัฒนาสินค้าใหม่ และการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ราคาเป้าหมายใหม่จากการปรับประมาณการ อยู่ที่ 61 บาท จาก 58.50 บาท อ้างอิง PER เฉลี่ยที่ 25X ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย PER23F อยู่ที่ 18.6x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมอยู่ที่ 26x, คาด Dividend Yield 23F อยู่ที่ 4% ฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ (net cash) และปัจจัยความเสี่ยงจากเศรษฐกิจและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น

 

 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง