กุหลาบอีฟลิน ปัจจุบันนี้หาซื้อค่อนข้างยาก จะมีขายอยู่เพียงไม่กี่สวน เพราะความนิยมลดน้อยลง อีฟลินเป็นสายพันธุ์หนึ่งที่น่าปลูก เลี้ยงง่าย มีลักษณะเป็นทรงพุ่มกึ่งเลื้อย อีฟลินกุหลาบสายพันธุ์อังกฤษ ออกดอกดกตลอดทั้งปี ออกดอกเป็นพวง บาน 2-3 วัน มีกลิ่นหอมผลไม้ หอมแรง ช่วงฤดูร้อน ดอกจะมีสีครีมอมส้มอ่อน ดอกขนาดกลาง กลีบดอกฟู แน่นซ้อนกันหลายชั้น สวยงาม ส่วนในฤดูหนาว ดอกจะมีสีชมพูอมส้มอ่อน ดอกขนาดใหญ่ขึ้นกว่าช่วงฤดูร้อน กลีบดอกฟูแน่นซ้อนกันหลายชั้น รูปทรงดอกของอีฟลิน สวยมากทั้งในขณะตูมและบาน หนามน้อย ทนโรค สามารถปลูกได้ดีในทุกสภาพอากาศ กุหลาบอีฟลินกับโรคเชื้อราในฤดูฝน ช่วงฤดูฝน ในอากาศจะมีความชื้นสูง ต้นและใบกุหลาบอีฟลินจะเปียกน้ำตลอดทั้งวันและได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ กุหลาบก็จะเป็นโรคเชื้อราได้ง่าย และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ลักษณะของโรคเชื้อรา คือ บริเวณใบจะมีจุดดำ หรือเป็นคราบดำ ใบจะเหลือง และร่วง โดยจะทยอยร่วงไปเรื่อยๆจนหมดต้น ดูแลกุหลาบอีฟลินในช่วงฤดูฝน เพื่อป้องกันและกำจัดเชื้อราที่เกิด ให้พ่นยาป้องกันเชื้อรา ทุกๆ 5-7 วัน โดยใช้สารจับใบผสมร่วมกับตัวยา การใส่สารจับใบเพื่อกันไม่ให้น้ำฝนชะล้างตัวยาที่พ่นออกไปจากใบและลำต้นกุหลาบโดยง่าย แนะนำให้เลือกใช้ยาประเภทดูดซึม โดยจะพ่นตัวยาหลายกลุ่มสลับกันไป -ไม่ตัดแต่งกิ่งกุหลาบอีฟลินในช่วงฤดูฝน เพราะมีความชื้นสูง จะทำให้กุหลาบเป็นเชื้อรา โดยเชื้อราจะแพร่กระจายเข้าไปบริเวณแผลของกิ่งกุหลาบที่ตัดแต่งได้ ควรจะตัดแต่งในช่วงผ่านพ้นฤดูฝนไปแล้ว -ในช่วงฤดูฝน ฝนจะตกติดต่อกันนานหลายวัน ควรงดใส่ปุ๋ย เพราะน้ำฝนจะชะล้างปุ๋ยไปจนหมด กุหลาบก็จะไม่ได้รับประโยชน์จากปุ๋ยที่ใส่ -ถ้าฝนตกติดต่อกันนานหลายวัน จะทำให้ดินปลูกแน่น มีน้ำขังในกระถางปลูก รากกุหลาบแช่น้ำเป็นเวลานาน อาจทำให้รากเน่าตายได้ ให้หมั่นตรวจดูดิน พรวนดิน และเติมวัสดุปลูกเพิ่มความร่วนซุยของดินเพื่อให้น้ำระบายได้ดี -ฤดูฝน อากาศจะร้อนชื้น กุหลาบจะเป็นเชื้อราง่าย ควรตั้งกระถางกุหลาบให้ห่างกันประมาณ 30 เซนติเมตร เพื่อให้อากาศถ่ายเท และริดใบบริเวณโคนต้นออกให้โปร่ง จะช่วยลดการเกิดเชื้อราได้ ภาพโดย : Jinnyj(นักเขียน)เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !