ศบค.ยังคงเคอร์ฟิวถึงสิ้นก.ย. ชงแผนฉีดวัคซีนต.ค. 24 ล้านโดส พรุ่งนี้

ศบค.ยังคงเคอร์ฟิวถึงสิ้นก.ย. ชงแผนฉีดวัคซีนโควิดช่วงต.ค. 24 ล้านโดส ต่อศบค.พรุ่งนี้ ยันให้ไฟเซอร์เด็ก 12-18 ปี ติดตามอาการหลังฉีดอย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 9 ก.ย.64 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประเมินสถานการณ์หลังปรับมาตรการเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยการประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันที่ 10 ก.ย. เรื่องที่สธ. จะเสนอหลักๆ เช่น 1.แผนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ช่วง ต.ค. ที่จะฉีดขั้นต่ำ 24 ล้านโดส เนื่องจากแผนที่จะได้รับวัคซีนเดือนหน้า

ประกอบด้วยซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส และไฟเซอร์ 8 ล้านโดส ซึ่งไฟเซอร์แจ้งว่าล็อตแรกจะเข้ามาปลายก.ย. นี้ 2 ล้านโดส เพื่อให้ที่ประชุมเห็นชอบ จากนั้นจะประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรายละเอียด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็หารือถึงการกระจายวัคซีนไว้คร่าวๆ แล้ว

2.เสนอการผ่อนคลายมาตรการ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยังคงเดิมไว้ ไม่ได้ผ่อนคลายอะไรมาก เช่น อนุญาตให้เนิร์สซิ่งโฮมรับผู้เข้าไปอยู่ใหม่ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมกำกับอย่างใกล้ชิด ส่วนการประกาศเคอร์ฟิวจะกำหนดตามพื้นที่สี หากเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จะคงมาตรการไว้ คาดว่าจะใช้ถึงสิ้นก.ย.นี้ แต่การปรับจังหวัดตามพื้นที่สีต้องรอความเห็นชอบจาก ศบค.พรุ่งนี้อีกครั้งเพื่อความชัดเจน

เมื่อถามว่า วัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรกจะฉีดให้กลุ่มอื่น นอกจากเด็กอายุ 12-18 ปีหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับกลุ่มอื่นมีวัคซีนอยู่แล้ว เช่น สูตรไขว้ซิโนแวคกับแอสตร้าฯ ที่เป็นสูตรหลัก

เมื่อถามถึงการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุน้อย ที่มีข้อมูลต่างประเทศพบภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จะปรับแผนฉีดใหม่หรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า จริงๆ พูดถึงอาการไม่พึงประสงค์ที่จะเกิดขึ้นได้ภายหลังการรับวัคซีน แต่เจอไม่มาก พบเพียงไม่กี่รายต่อล้านรายที่ฉีด ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ยอมรับได้ และส่วนใหญ่อาการน้อย

ดังนั้น สธ.ก็ยังถือหลักการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กอายุ 12-18 ปี เนื่องจากขณะนี้มีวัคซีนเพียง 2 ยี่ห้อที่ฉีดในผู้อายุมากกว่า 12 ปีลงมาได้ คือ ไฟเซอร์และโมเดอร์นา ส่วนตัวอื่นยังอยู่ในขั้นตอนการขออนุญาต ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนเป็นความสมัครใจ แต่เราก็จะให้ความระมัดระวัง เฝ้าติดตามอาการหลังฉีดอย่างใกล้ชิด ไม่ได้เป็นข้อห้ามในการฉีด และเมื่อเทียบประโยชน์กับอาการไม่พึงประสงค์ ถือว่าประโยชน์มีมากกว่าเยอะ

เมื่อถามถึงการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ประชาชนทั่วไป จะดำเนินการอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า การฉีดบูสเตอร์ต้องคุยกันหลายหน่วย แต่ที่ประชุมเห็นชอบแล้ว สธ. ได้กำหนดนโยบายและบอกแนวทางไป หลังจากนั้นคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จะเป็นผู้ดำเนินการ ขณะนี้ก็เหลือขั้นตอนการปฏิบัติ จำนวนวัคซีนที่มี และความพร้อมของพื้นที่ว่าจะจัดการอย่างไร

เช่น อาจจะประกาศให้มาฉีด นัดมาฉีด ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่จะดำเนินการ หากมีความพร้อม มีวัคซีนเพียงพอก็จะเริ่มฉีดได้ อาจนำร่องบางจังหวัดก่อน ซึ่งกำลังหารือในรายละเอียดอยู่ แต่เบื้องต้นบูสเตอร์เราจะพิจารณาการฉีดเป็นแอสตร้าฯ ก่อนตามด้วยไฟเซอร์ ซึ่งจะมีลำดับการพิจารณาตามความเหมาะสมของวัคซีนที่มีอยู่ในมือขณะนั้นด้วย