อ่านน่ะอ่านได้ แต่อ่านแล้วจำเนี้ยยาก ! ใครต่อหลายคน มีปัญหากับการอ่านที่อ่านเท่าไหร่ สมองเจ้ากรรมก็ปิดประตูไม่ให้เข้าซะงั้น ลองมาแล้วก็หลายวิธี แต่เมมโมรี่ไม่เพิ่มขึ้นเลย ถ้าใครมีปัญหาการอ่านที่พยายามแล้วพยายามเล่า อ่านจนมึนก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี มาลอง 5 เทคนิคส่วนตั้วส่วนตัวที่อาจจะช่วยให้เมมโมรี่เพิ่มขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย ๆ มาดูสิว่าประสิทธิภาพการจำของคุณจะดีขึ้นหรือไม่1. แบบฝึกหัด วิธีที่จะวัดได้ว่าเนื้อหาที่อ่านไปนั้น มีประสิทธิภาพมากแค่ไหนก็คือการทำแบบทดสอบ แบบทดสอบในที่นี้อาจจะเป็นโจทย์ที่เราตั้งขึ้นเองหรือโจทย์ที่เราสามารถหาได้ตามอินเทอร์เน็ตที่ตรงกับเนื้อหาที่เราจะสอบ การทำแบบทดสอบหลังจากอ่านนั้นจะทำให้เราทราบถึงประสิทธิภาพการจดจำ และประเมินความเป็นไปได้ในการสอบจริง บอกเลยว่ายิ่งทำมากเปอร์เซ็นต์ในการทำข้อสอบได้ของเรายิ่งมากแถมทำให้เราคุ้นเคยกับข้อสอบเวลาสอบจริงก็จะไม่ตื่นเต้นและลดอาการประหม่าได้ด้วย2. อ่านรอบเดียว ไม่พอหรอก บางทีการอ่านแค่รอบเดียวอาจจะทำให้เราไม่สามารถเก็บรายละเอียดเนื้อหาได้ทั้งหมดทำให้พลาดในการตอบคำถามไปอย่างน่าเสียดายโดยเทคนิคนี้ก็คือเราจะแบ่งการอ่านเป็นอย่างน้อย 3 รอบ- อ่านคร่าว ๆ อ่านผ่านตาไม่ต้องโฟกัสมาก- อ่านพร้อมไฮไลท์เน้นเก็บรายละเอียดที่สำคัญอันไหนที่ไม่คิดว่าจะออกสอบไม่ต้องโฟกัส- อ่านที่ไฮไลท์ไว้อย่างตั้งใจและอ่านอย่างละเอียด3. สรุปเนื้อหาเป็นภาษาตัวเอง วิธีนี้เป็นอีกเทคนิคหนึ่ง ที่จะช่วยให้เนื้อหาที่เราอ่านนั้นจำง่าย และสามารถทบทวนได้ โดยเราอาจจะนำเนื้อหาที่ไฮไลท์ไว้หรือที่เห็นว่าสำคัญโน้ตลงสมุดไว้ทบทวนโดยไม่ต้องคัดลอกมาหมดทุกตัวอักษร แต่เลือกเอาที่สำคัญ ๆ เท่านั้น โดยจดเป็นภาษาตัวเองที่อ่านแล้วเข้าใจ ส่วนคำที่ยาวมาก ๆ การจดเต็มๆคำจะทำให้เราไม่อยากเขียนและนำมาซึ่งความเบื่อหน่าย เราอาจใช้วิธีการย่อคำ เช่น " ความสำคัญของประวัติศาสตร์ยุคนี้คือ" เป็น "คสค.ของยุคนี้ ="4. สร้างสีสันด้วย mind map เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยผ่านการเขียน Mind Map มาแล้วบ้าง อย่างน้อยก็น่าจะเคยผ่านตามาบ้าง วิธีนี้จะช่วยให้เราแยกความคิดออกเป็นระบบเป็นขั้นเป็นตอน และยังช่วยให้เราจำได้ง่ายขึ้นด้วย โดยเราอาจตกตะกอนสาระสำคัญก่อนโดยการเน้นข้อความสำคัญนั้นด้วยไฮไลท์แล้วนำข้อความที่ไฮไลท์นั้นมาเขียนเป็น Mind Map วิธีนี้จะทำให้เนื้อหาเข้าหัวเรามากขึ้น เพราะการจดจะทำให้สมองจำได้แม่นกว่าการอ่านเพียงอย่างเดียว นอกจากนั้นเรายังสามารถเก็บ Mind Map นี้ไว้ทบทวนตอนไหนก็ได้ โดยที่ไม่ต้องมาเปิดอ่านทีละบททีละเรื่องจากหนังสือเล่มใหญ่ แถมยังสามารถตกทอดไว้ให้คนอื่นได้นำไปอ่านต่อได้อีก5. อัดเสียงสรุปเนื้อหา สร้างความจำขั้นสุด วิธีที่ทำให้เนื้อหาเข้าสมองได้ดีนอกจากวิธีการเขียน Mind Map แล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เนื้อหาที่เราอ่านนั้นฝังอยู่ในหัวเราได้นานยิ่งขึ้น ก็คือ การอัดเสียงไว้ฟังนั่นเอง สงสัยไหมคะว่าทำไมเราถึงสามารถจำเนื้อเพลงยาว ๆได้ แม้แต่เพลงเก่าๆเป็น 10 ปีเรายังจำได้จนถึงทุกวันนี้ ก็เพราะเกิดจากการฟังซ้ำจนเข้าหัวสั่งเป็นเมมโมรี่ถาวร ซึ่งในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีการอ่านหนังสือเสียงที่เป็นที่นิยมมากขึ้น ด้วยผู้ฟังไม่ต้องเสียเวลาอ่านเองไม่ต้องพกหนังสือ อาจเป็นเพราะปัญหาด้านเวลาที่เร่งรีบของคนยุคใหม่ หรือความชอบส่วนตัวก็แล้วแต่ วิธีนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ความทรงจำของเราอยู่คงทนมากยิ่งขึ้น เพราะแม้แต่ตอนอาบน้ำนั่งรถหรือก่อนนอนเราก็สามารถฟังเสียงที่เราอาจไปได้ทุกที่ทุกเวลาเครดิตหน้าปก จาก Ron Lach /Pexelsเครดิตภาพ 1 จาก Jessica Lewis Creative /Pexelsภาพ2 จาก Andrea Piacquadio /Pexelsภาพ3 จาก Mikhail Nilov /Pexelsภาพ4 จาก cottonbro studio /Pexelsภาพ5 จาก Karolina Grabowska /Pexels เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !