สมช. เคาะ 3 มาตรการเข้มคุม "ยุทธปัจจัย”- เร่งพาคนไทย 4 พันคนกลับปท.

วันนี้ (16 ธ.ค. 68) ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นำโดย นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช. แถลงมติสำคัญในการรับมือสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทั้งการคุมเข้มสินค้าส่งออก การช่วยเหลือคนไทย และการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยมีรายละเอียดดังนี้:
1. คุมเข้ม "น้ำมัน-ยุทธปัจจัย" ป้องกันสนับสนุนสงคราม
สมช. มีคำสั่งให้ ศรชล. และ กรมเจ้าท่า เข้มงวดการตรวจเรือไทยที่ขนส่งสินค้าทางทะเล โดยเฉพาะสินค้าที่อาจเอื้อต่อการทำสงครามในกัมพูชา พร้อมมอบหมายให้ กระทรวงกลาโหม กำหนดรายชื่อสินค้า "ยุทธปัจจัย" ที่ต้องควบคุมการส่งออกตาม พ.ร.ก. ปี 2524 เพื่อตัดวงจรการสนับสนุนยุทโธปกรณ์
2. เร่งพา 4,000 คนไทยในปอยเปตกลับบ้าน
มอบหมายให้ กระทรวงการต่างประเทศ เร่งประสานงานส่งคนไทยที่ติดค้างอยู่ในปอยเปต ประมาณ 3,000-4,000 คน กลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด ผ่านการจัดหาเครื่องบินพาณิชย์และเที่ยวบินเช่าเหมาลำ
3. เยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
เตรียมรวบรวมรายชื่อผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ล่าสุด เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการอนุมัติเงินเยียวยาเพิ่มเติมจากหลักเกณฑ์เดิมที่มีอยู่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
พลังงานยัน "ด่านช่องเม็ก" ส่งน้ำมันไปลาวเท่านั้น ไม่ได้ช่วยกัมพูชา
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ชี้แจงกรณีรถน้ำมันติดสะสมที่ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี โดยยืนยันชัดเจนว่า ไม่มีการส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชาทั้งทางบกและทางเรือ ทั้งนี้ น้ำมันที่ด่านช่องเม็กมีปลายทางที่ลาวใต้ เพื่อใช้ในกิจการเหมืองแร่ ซึ่งช่วงหน้าแล้ง (พ.ย.-เม.ย.) จะมีความต้องการใช้สูงกว่าปกติอยู่แล้ว
กระทรวงพลังงานจะหารือกับผู้แทนรัฐบาลลาวในบ่ายวันนี้ เพื่อวางกลไกยืนยันว่าน้ำมันที่ซื้อจากไทยจะถูกใช้ภายในประเทศลาวเท่านั้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนไทยและเตรียมเปิดด่านให้ขนส่งได้ตามปกติ
สุดท้ายปลัดพลังงานระบุว่ากัมพูชานำเข้าน้ำมันจากเวียดนาม จีน และสิงคโปร์เป็นหลัก จึงไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งพาน้ำมันจากไทย พร้อมปฏิเสธข่าวลือเรื่องผู้ค้ารายใหญ่แอบส่งน้ำมันให้กัมพูชา ย้ำว่ากระบวนการศุลกากรมีความเข้มงวดตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
