ยุคใหม่ของการหาคู่! Tinder ใช้ AI รู้ใจผ่าน Camera Roll ให้ AI จับคู่แทนหัวใจคุณ

แอปพลิเคชั่นหาคู่ชื่อดัง ทินเดอร์ (Tinder) เตรียมยกระดับประสบการณ์การจับคู่ด้วยเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ AI ผ่านฟีเจอร์ใหม่ชื่อ เคมิสทรี (Chemistry) ที่จะตั้งคำถามเชิงโต้ตอบและขอเข้าถึง รูปภาพใน Camera Roll ได้เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้ใช้เพื่อเรียนรู้รสนิยม ความสนใจ และบุคลิกภาพ ก่อนใช้ข้อมูลเหล่านี้สร้างโปรไฟล์ “เคมีตรงกัน” เพื่อแนะนำคู่ที่เข้ากันได้ดีกว่าเดิม

ฟีเจอร์ Chemistry คืออะไร ?

แมทช์กรุ๊ป (Match Group) อธิบายว่า ระบบ ปัญญาประดิษฐ์ AI จะเรียนรู้จากคำตอบและรูปภาพ เช่น หากพบภาพปีนเขา เดินป่า หรือเล่นกีฬา ระบบอาจจับคู่กับคนที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้งเช่นเดียวกัน เพื่อสร้างความเข้ากันได้ทั้งเชิงนิสัยและไลฟ์สไตล์

ฟีเจอร์นี้ออกแบบให้ใช้งานง่าย โดย

1. ระบบจะเริ่มจากการถามคำถามแบบเกมหรือแบบทดสอบสั้น ๆ เพื่อเข้าใจ “แนวคิดชีวิต” ของผู้ใช้ เช่น มุมมองความรัก, การใช้เวลา, หรือสิ่งที่ให้ความสำคัญในชีวิตประจำวัน

2. เมื่อผู้ใช้อนุญาต ระบบ AI จะประมวลผลภาพที่ถ่ายไว้ เพื่อวิเคราะห์กิจกรรม ไลฟ์สไตล์ หรือสิ่งที่บ่งบอกความชอบ เช่น ภาพเดินป่า ทำอาหาร เที่ยวทะเล หรือเลี้ยงสัตว์ โดยภาพเหล่านี้จะไม่ถูกเผยแพร่หรือเก็บถาวร

3. สร้างโปรไฟล์ “เคมีความเข้ากัน” (Compatibility Profile) โดย AI จะสรุปบุคลิกและความสนใจ แล้วจับคู่กับผู้ใช้ที่มีแนวโน้มเข้ากันได้ดี โดยจะระบุสาเหตุให้ด้วย เช่น “คุณทั้งคู่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง” หรือ “มีแนวคิดเรื่องเวลาส่วนตัวคล้ายกัน”

4. หากผู้ใช้อัปโหลดรูปใหม่หรือมีการตอบคำถามเพิ่ม ระบบ AI จะเรียนรู้แบบต่อเนื่องเพื่อให้คำแนะนำการจับคู่แม่นยำขึ้น

นอกจาก เคมิสทรี (Chemistry) แล้ว ทินเดอร์ (Tinder) ยังใช้ ปัญญาประดิษฐ์ AI ในระบบเตือนก่อนส่งข้อความไม่เหมาะสม (“Are you sure?”) ระบบช่วยเลือกภาพโปรไฟล์ที่ดีที่สุด รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง “โหมดเดต” (Dating Modes), การออกเดตแบบคู่ (Double Date), ระบบยืนยันใบหน้า (Facial Verification) และการออกแบบโปรไฟล์ใหม่ให้ข้อมูลชัดตั้งแต่ภาพแรก

เริ่มทดลองในออสเตรเลีย ก่อนเปิดใช้งานจริงปี 2026

ฟีเจอร์ เคมิสทรี (Chemistry) กำลังอยู่ในช่วงทดสอบใน ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ โดย สเปนเซอร์ ราซคอฟ (Spencer Rascoff) ซีอีโอของบริษัทแม่ แมทช์กรุ๊ป (Match Group) ระบุว่า นี่จะเป็น “เสาหลักสำคัญของ ทินเดอร์ (Tinder)  เวอร์ชันปี 2026” ขณะเดียวกันบริษัทกำลังเผชิญความท้าทายจากยอดสมาชิกแบบชำระเงินที่ลดลงต่อเนื่องถึง 9 ไตรมาส

การทดสอบฟีเจอร์ใหม่นี้ส่งผลให้รายได้โดยตรงของ ทินเดอร์ (Tinder) ลดลงราว 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 511 ล้านบาท ทำให้แนวโน้มรายได้รวมไตรมาส 4 ลดลงเหลือระหว่าง 865 ถึง 875 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 31,000 ถึง 32,000 ล้านบาท จากที่นักวิเคราะห์คาดไว้ 884.2 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

แนวโน้มใหม่ใช้ AI เข้าถึงภาพส่วนตัว

ไม่เพียงแต่ Tinder เท่านั้นที่นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้ในการวิเคราะห์ภาพจากโทรศัพท์ของผู้ใช้ เพราะล่าสุด บริษัทเมตา (Meta) ก็ได้เปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่ที่สามารถประมวลผลภาพในเครื่องเพื่อแนะนำแนวทางการแต่งรูป ซึ่งสะท้อนแนวโน้มของแพลตฟอร์มดิจิทัลยุคใหม่ที่มุ่ง “ทำความเข้าใจผู้ใช้ผ่านข้อมูลภาพ” มากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนยังเห็นว่า ประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจากฟีเจอร์ลักษณะนี้อาจยังมีขอบเขตจำกัดในระยะเริ่มต้น

คนรุ่นใหม่หันกลับสู่การพบปะในชีวิตจริง

แม้จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ ทินเดอร์ (Tinder) ยังต้องเผชิญพฤติกรรมผู้ใช้ที่เปลี่ยนไป โดยวัยรุ่นบางส่วนเริ่มหันกลับไปพบปะผู้คนในโลกจริงมากกว่าในโลกออนไลน์ ขณะที่ผู้ใช้อเมริกันบางส่วนลดการใช้จ่ายจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย

อย่างไรก็ตามในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา แมทช์กรุ๊ป (Match Group) มีรายได้รวม 914.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิ 160.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 5,900 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์