KWM กำไร Q2 เด้งแรง 222% ขายสินค้ามาร์จิ้นสูงทำเงิน

#KWM #ทันหุ้น – KWM อวดกำไรไตรมาส 2/2567 กระฉูด 222% กวาดเงินเข้ากระเป๋า 31 ล้านบาท ดันยอด 6 เดือนแรกแตะ 295 ล้านบาท ชี้สินค้าแบรนด์ “Pegasus” ขายดี มาร์จิ้นทะลุ 30% ฟากบิ๊กบอส “เอกพันธ์   วนโกสุม” ปลื้มยอดขายครึ่งปีแรกอยู่ที่ 60 ล้านบาท

นายเอกพันธ์  วนโกสุม  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/2567 บริษัททำกำไรสุทธิได้ที่ 15.15 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 4.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.45 ล้านบาท หรือเติบโต 222.34% ส่งผลให้ 6 เดือนแรกปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 31.59 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 15.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.91 ล้านบาท หรือเติบโต 101.47%

// โชว์ผลงานเด่น

ขณะที่รายได้จากการขายและการบริการไตรมาส 2/2567 ทำได้ 141.99 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 109.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.30 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 29.45% ส่งผลให้ 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้จากการขายและการบริการเพิ่มขึ้นเป็น 295.29 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 277.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.93 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 6.46%

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2/2567 และครึ่งปีแรก 2567 มีอัตราการเติบโตสูง เนื่องจากบริษัทมียอดขายนอกกลุ่มคูโบต้า หรือการขายแบรนด์สินค้าของบริษัทเอง แบรนด์ “Pegasus” มากขึ้น ซึ่งสินค้าที่ขายกลุ่มนี้มีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการขายกลุ่มนอกคูโบต้าเพิ่มขึ้นแตะระดับ 25% จากปีก่อนมีสัดส่วนอยู่ที่ 12-13% และมีสัดส่วนการขายสินค้าให้กับ บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ 75%

// สินค้ามาร์จิ้นสูง

และสัดส่วนการขายนอกกลุ่มคูโบต้ามีมาร์จิ้น หรืออัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เกิน 30% ส่วนยอดขายครึ่งปีแรก 2567 อยู่ที่ประมาณ 60 ล้านบาท จากปีก่อนมียอดขายทั้งปีที่ 50-60 ล้านบาท

บริษัทตั้งเป้าอยากเพิ่มสัดส่วนยอดขายให้กลุ่มนอกคูโบต้า และคูโบต้าให้เป็น 50:50 คาดจะเห็นสัดส่วนขยับได้ตามเป้าราวๆ ปลายปี 2568 ส่วนทิศทางการเติบโตในช่วงที่เหลือปีนี้ คาดจะดีต่อเนื่องเพราะมีปริมาณน้ำฝนมากขึ้น ส่งผลให้การทำเกษตรมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าปีก่อน

นายเอกพันธ์ กล่าวต่อว่า ในแง่ผลประกอบการทั้งปี 2567 คาดจะดีกว่าปี 2566 เพราะครึ่งปีแรกบริษัททำกำไรได้สูงกว่าปี 2566 ทั้งปี โดยมีกำไรสุทธิ 33.47 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 23.22 ล้านบาท ส่วนยอดขายคาดว่าปีนี้น่าจะใกล้เคียงปีก่อนที่ 462.95 ล้านบาท เพราะบริษัทไม่มีตลาดหรือลูกค้าใหม่ในประเทศ

ปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตใบผานเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2-1.5 พันใบต่อวัน ส่วนใบเกลียวอยู่ที่ 2-3 หมื่นเส้นต่อเดือน แม้กำลังผลิตจะยังไม่เต็ม Capacity แต่เชื่อว่ากำลังผลิตจะค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามกลยุทธ์ทางการตลาดและการขยายฐานลูกค้าตามแผน