ปีทองของการลงทุนหุ้นไทยสมัยหนึ่ง คือ ปี พ.ศ.2552-2553 หลังจากเพิ่งผ่านพ้นวิกฤติมาหมาดๆ ก็กลายเป็นปีทองของการลงทุน โดยเฉพาะกับนักลงทุนสาย VI ถึงกระนั้น บทเรียนในอดีตก็ยังเรื่องราวให้นักลงทุนรุ่นหลังได้เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เขียนบทความภายในเล่มก็ได้เปิดเผยแนวคิดของตนเองในการลงทุนหุ้นในช่วงนั้นว่าจะต้องมีการปรับกลยุทธ์อย่างไรเพื่อรักษาผลตอบแทนและความเสี่ยงให้เป็นไปอย่างเหมาะสม เนื้อหาภายในเล่มValue ของ Value Investmentทฤษฎี VI (1)ทฤษฎี VI (2)ทฤษฎี VI (3)บัญญัติ 10 ประการของการเล่นหุ้นแบบ VIวิเคราะห์หุ้นแบบ VIมาร์ก โมเบียสบิลล์ กรอสส์สไตล์ของนักลงทุนหนทางสู่ความสำเร็จในการลงทุนซื้อขายหุ้นในยามวิกฤติบทเรียนหลังวิกฤติมองไปข้างหน้ากระทิงดุซื้อหุ้นต่างประเทศปราสาททรายกองทุนรวมหุ้นIdeas Dinnerมั่วด้วยสถิติHalo EffectMerry Go Roundคิดเชิงกลยุทธ์ชีวิตชีวาของหุ้นใช้มาร์จินลงทุนเดินสุ่มในวอลล์สตรีตนักธุรกิจร้อยล้านแนวรบด้านตะวันออกแรงจูงใจของเจ้าของหุ้นบ้านจัดสรรหุ้นรัฐวิสาหกิจการตัดสินใจครั้งสำคัญเกษียณก่อนกำหนดความน่าจะเป็นบ้าน VIเงินกับกล่องชายกลางกับครูกุ๊กชีวิตแบบชนชั้นกลางชีวิตหลังเกษียณท่องเที่ยวเดินทางทำน้อยได้มากเลือกเสี่ยงวิถีมหาเศรษฐีสูตรเศรษฐีปีทองปีทองของตลาดหุ้นเล่นหุ้นหลังปีทอง ความรู้ความประทับใจที่ได้จากมุมมองครีเอเตอร์ ได้เรียนรู้ว่าหุ้นที่มีคุณภาพสูงมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้1.กิจการมี ROE หรือผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูงกว่าปกติ เช่น มากกว่า 20% ต่อปีต่อเนื่องยาวนาน2.กิจการมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานสูง3.บริษัทเป็น Dominant Firm หรือเป็นบริษัทใหญ่กว่าอันดับสองมาก 2-3 เท่าขึ้นไป4.บริษัทสามารถขยายงานโดยใช้เงินลงทุนน้อยมาก5.บริษัทสามารถปรับราคาขายสินค้าตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ทันทีโดยไม่เสียลูกค้าไป6.บริษัทมีการเติบโตเร็วอย่างน้อย 3 เท่าของอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ได้เรียนรู้ว่าเวลาที่นักลงทุน VI ขายหุ้น จะพิจารณาจาก....1.กิจการหรือหุ้นที่ซื้อมา ตนเองวิเคราะห์ผิดพลาด2.พื้นฐานของกิจการเปลี่ยนไป3.ราคาหุ้นขึ้นไปเกินมูลค่าพื้นฐานแล้ว4.มีหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจที่มี Margin of Safety สูงกว่ามาก แต่เราไม่มีเงินสดเหลือ จึงต้องขายหุ้นตัวเก่าไปซื้อหุ้นตัวใหม่5.ภาวะเศรษฐกิจ การเมือง สังคมเปลี่ยนแปลงจนทำลายพื้นฐานของกิจการ ได้เรียนรู้ว่าการควบคุมความเสี่ยงในแบบของ VI เป็นดังนี้1.รู้จักธุรกิจที่จะลงทุนเป็นอย่างดี2.ลงทุนในสิ่งที่มี Margin of Safety สูง3.หลีกเลี่ยงการเก็งกำไร คือ อย่าลงทุนในกิจการที่ไม่ได้สร้างเงินให้กับผู้ที่ถือมัน เช่น ทองคำ ตราสารอนุพันธ์ต่างๆ4.มีการ Diversify หรือกระจายความเสี่ยงของการถือครองทรัพย์สินอย่างเหมาะสม เช่น มีการถือพันธบัตร เงินสด หุ้น 5-6 ตัวในหลากหลายอุตสาหกรรมในพอร์ตโฟลิโอตามความเหมาะสม หากถือหุ้นมากกว่านั้นเราอาจติดตามได้ไม่ทั่วถึง ได้เรียนรู้ถึงบัญญัติ 10 ประการของการเล่นหุ้นที่ ดร.นิเวศน์ ตกตะกอนแนวคิดและประสบการณ์ของตัวเองจนครีเอเตอร์รู้สึกว่ามันปรับใช้กับการลงทุนของตัวเองให้ดีขึ้นได้1.ศึกษาข้อมูลหุ้นก่อนตัดสินใจลงทุน อย่าซื้อหุ้นด้วยอารมณ์2.อย่าสนใจข่าวลือหรือหุ้นเด็ดประจำวันที่เราได้ยินได้ฟังมา เพราะคนอื่นก็รับรู้เหมือนกัน3.ให้ความสำคัญกับตัวกิจการหรือหุ้นมากกว่าสภาพตลาดหรือภาวะเศรษฐกิจ4.หุ้นดูแย่ในยามที่ตลาดตกต่ำและดูดีกว่าที่คิดในช่วงที่ตลาดวิ่งถึงจุดสูงสุด5.เป็นเรื่องยากที่เราจะซื้อหุ้นในราคาพื้นฐานและขายหุ้นได้ที่จุดสูงสุด6.อย่าขายเพียงเพราะราคาหุ้นดูเหมือนว่าสูงเกินไป เพราะถ้าเราพลาด เราอาจซื้อกลับมาไม่ได้ที่ราคาเดิม ยิ่งถ้าเป็นหุ้นพื้นฐานดียิ่งน่าเสียดาย7.อย่าหลงรักหุ้น เพราะมันทำให้เรามีความลำเอียงในการประเมินมูลค่าหุ้น8.อย่าสนใจว่าหุ้นเคยอยู่จุดไหนมาก่อน สนแค่ว่าหุ้นจะไปต่อที่ไหน9.เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพสูง เพื่อผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวที่ความเสี่ยงต่ำ10.ใช้เวลาไปกับการตรวจสอบกิจการและหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ได้เรียนรู้ข้อคิดในการกู้เงินซื้อหุ้นหรือใช้มาร์จินจาก ดร.นิเวศน์ ว่า...มันไม่ควรเกิน 10-20% ของมูลค่าพอร์ต โดยหุ้นที่ซื้อต้องมีสภาพคล่องที่ดี เผื่อขายทิ้งได้หากจำเป็น และหุ้นนั้นต้องมีราคาต่ำมาก กำไรของบริษัทไม่ได้อยู่ในภาวะสูงผิดปกติ นอกจากนี้ยังต้องมีทางออกจากหนี้ (Exit Strategy) คือการนำเงินปันผลที่จะได้มาลดหนี้ ทยอยขายหุ้นเมื่อมีราคาเพิ่มขึ้นเพื่อลดหนี้ หากจำเป็นอาจต้องขายหุ้นตัวอื่นเพื่อมาล้างหนี้ด้วย ทั้งหมดนี้คือแนวคิดที่ได้ซึ่งถือว่าเป็นความรู้ที่น่าสนใจเลยทีเดียวกับการลงทุนหุ้นไทย แม้จะเป็นแนวคิดที่เก่า แต่ถ้ารู้จักปรับประยุกต์ใช้ แน่นอนว่าความรู้ที่ได้ไม่ถือว่าเสียของอย่างแน่นอน เพราะประวัติศาสตร์มักซ้ำรอยเสมอ ต่างกันก็เพียงแค่บริบท ยุคสมัยและเหตุการณ์เท่านั้น หนังสือเล่มนี้อาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่ลงทุนหุ้นเท่าไรนัก เพราะเนื้อหาไม่ได้เรียบง่ายหรือ Simplify พอที่จะอธิบายที่มาที่ไปสำหรับมือใหม่ แต่สำหรับคนที่ติดตามภาวะของหุ้นอยู่แล้ว เล่มนี้จะเหมาะมาก โดยเฉพาะคนที่อยากรู้ว่า ปี พ.ศ.2552-2553 หุ้นไทยเกิดเหตุการณ์อะไรที่มากระทบบ้าง แล้ว ดร.นิเวศน์ ให้ความเห็นว่าอย่างไร จากนี้ไปแม้การลงทุนหุ้นจะไม่มีปีทองอีกต่อไปแล้ว ก็ใช่ว่าจะต้องสิ้นหวังกับการลงทุน มันอาจจะยากขึ้นในการรักษาผลตอบแทนให้เท่าเดิม แต่การลงทุนหุ้นก็ยังเป็นเครื่องมือทางเลือกที่น่าสนใจในการรักษาค่าของเงินและใช้พอร์ตหุ้นมาเป็นแผนเกษียณของเราเองได้ ซึ่งการลงทุนระยะยาวอย่างถูกต้องคือคำตอบของชีวิตวัยทำงาน นี่คือสิ่งที่ครีเอเตอร์ตระหนักในการลงทุนหุ้นของตัวเองอยู่เสมอ เครดิตภาพภาพปก โดย Sketchepedia จาก freepik.com ภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย user20966292 จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย freepik จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ เด็กวัดดอน ชีวิต ความฝัน และการลงทุน โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรรีวิวหนังสือ ตีแตก กลยุทธ์การเล่นหุ้นในภาวะวิกฤติรีวิวหนังสือ วิกฤติหุ้น วัน Corner แตก โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรรีวิวหนังสือ Super Stock ในตลาดหุ้นเวียดนามรีวิวหนังสือ ลงทุนหุ้นท่ามกลางวิกฤติ โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !