เรื่องที่เราอยากนำมาแชร์หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องเล็ก ๆ แต่สำหรับคนเป็นแม่มันคือเรื่องใหญ่มากค่ะ เริ่มจากช่วงที่เราท้องใกล้คลอดเราก็เตรียมของใช้ลูกเสื้อผ้า ผ้าอ้อม ผ้าขนหนู ผ้าห่อตัว ถุงมือ ถุงเท้า หมวกสำหรับเด็กแรกเกิด โดยการนำออกมาซักทำความสะอาดก่อนที่จะได้นำไปใช้งานที่โรงพยาบาลและจัดเก็บใส่ตู้ไว้สำหรับให้ลูกใช้ที่บ้าน เราก็เลือกซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มและน้ำยาซักผ้าสูตรสำหรับเด็กแรกเกิดมาใช้ในการซักทำความสะอาด ทั้งหมดเราซักเองด้วยมือไม่ได้ผ่านเครื่องซักผ้า เราแชร์ผ้าไว้ในน้ำร้อนก่อน 1 คืนเพราะว่าผ้าใหม่เคลือบสารมาเราเลยอยากให้สารหลุดจาผ้าก่อนเมื่อเราแช่ผ้าเรียบร้อยแล้วเราก็ซักด้วยน้ำยาซักผ้าเด็กทารกและล้างน้ำสะอาด จากนั้นก็แช่น้ำยาปรับผ้านุ่มตามขั้นตอนการซักผ้าทั่วไป เมื่อแช่น้ำยาปรับผ้านุ่มก็นำขึ้นมาตากแดดให้แห้งซึ่งผ้าสะอาดและหอมมากคะ แต่พอเรานำไปใช้จริงวันที่ลูกเราคลอดสิ่งที่ต้องใช้คือผ้าห่อตัว เสื้อลูก ถุงมือ ถุงเท้าลูก หลังจากที่เรานำของที่เราเตรียมไปใส่ให้ลูก ประมาณ 3 ชั่วโมงลูกน้อยเริ่มตาบวมคะแต่ยังบวมไม่มาก พร้อมทั้งส่วนต่าง ๆ ของใบหน้าเริ่มเป็นฝืนสีแดง เราเข้าใจว่าลูกน้อยวัยทารกน่าจะแพ้อากาศเพราะอากาศค่อนข้างร้อนอีกซักพักคงหาย แต่ไม่ใช่อย่างที่คิดเพราะยิ่งลูกน้อยขยี้หน้าขยี้ตามากเท่าไหร่ ตาเขาก็เริ่มบวมขึ้นและแดงขึ้นเรื่อย ๆเราเริ่มกังวลใจแล้วเพราะคิดว่าแพ้อากาศไม่กี่ชั่วโมงน่าจะหาย แต่พอข้ามวันมากลับยิ่งเป็นหนักขึ้นช่วงนั้นคือพักฟื้นหลังผ่าคลอดอยู่ที่โรงพยาบาลพอดี เราเลยแจ้งพยาบาลว่าลูกเราน่าจะมีอาการแพ้แต่เราไม่รู้ว่าเขาแพ้อะไร พยาบาลมาดูลูกเราให้เช็ดตัวให้แต่ยังไม่สามารถใช้ยาอะไรทาได้เพราะเขายังเป็นทารกอยู่ แต่ลูกน้อยก็ยังไม่มีท่าทีว่าฝืนและตาที่บวมจะดีขึ้นพยาบาลจึงแจ้งว่าจะมีหมอเด็กมารอบพรุ่งนี้ จะแจ้งให้หมอเด็กมาตรวจให้เราก็เลยรออย่างร้อนใจและสงสารลูกมากคือหัวอกคนเป็นแม่ที่พึ่งคลอดลูกออกมาแล้วลูกเป็นอะไรขึ้นมา แน่นอนว่าถึงมันจะนิดหน่อยแต่เขาอาจจะเจ็บแต่ไม่สามารถบอกเราเป็นคำพูดได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ต้องรอให้หมอเด็กมาตรวจดูให้ก่อนเช้าวันต่อมาหมอเด็กมาตรวจดูอาการให้ลูกและถามเราว่าของใช้ลูกที่เราเตรียมมา เราซักให้ลูกและใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มด้วยหรือเปล่า ถ้าแช่น้ำยาปรับผ้านุ่มได้ล้างซ้ำไหมเราเลยบอกว่าเราใช้และไม่ได้ล้างซ้ำ หมอเลยแจ้งว่าลูกเราแพ้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่เราใช้แช่ผ้าให้ลูก เนื่องจากผิวทารกบอบบางมากจึงไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มแช่เสื้อผ้าให้เขาหรือถ้าใช้ก็ให้ล้างน้ำสะอาดตามหลาย ๆ น้ำก่อนที่จะนำไปตาก อาการแพ้ของลูกน้อยจะหายเองหากไม่สัมผัสกับเสื้อผ้าที่แช่น้ำยาปรับผ้านุ่ม แต่เนื่องจากเรายังต้องอยู่โรงพยาบาลอีก 2 – 3 วันเสื้อผ้าของใช้ลูกที่เตรียมมาก็ต้องยังจำเป็นต้องใช้อยู่ เราเลยต้องแบ่งส่วนหนึ่งให้สามีนำกลับไปซักมาใหม่หลังจากที่ลูกน้อยใส่เสื้อผ้า ถุงมือ ถุงเท้า ที่เราให้สามีเอาไปซักมาใหม่โดยไม่ต้องแช่น้ำยาปรับผ้านุ่ม อาการแพ้ของลูกน้อยก็ค่อย ๆ ดีขึ้น จึงอยากแนะนำคุณแม่ตั้งท้องที่กำลังเตรียมของใช้ให้ลูกการซักทำความสะอาดควรล้างตามด้วยน้ำสะอาดอีก 2 – 3 ครั้งเป็นอย่างน้อย เพราะผิวทารกบอบบางจริง ๆ คะ อะไรที่เลี่ยงได้ควรเลี่ยงไปก่อนขนาดตัวเราที่พยายามเลือกสูตรพวกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ใช้กับเด็กแรกเกิดได้มาใช้ ลูกเรายังแพ้เลยดังนั้นคุณแม่ทั้งหลายไม่สามารถรู้ได้เลยว่าลูกเราจะแพ้หรือไม่แพ้ เราเลยอยากให้คุณแม่ทุกคนระวังไว้คะแม้ว่าลูกเราจะแพ้ไม่มากแต่ก็สงสารเขามากคะตาบวมแดงมากเขาคงคันกับฝืนที่ขึ้นจากการแพ้ เขาเลยพยายามถูขยี้ตาอยู่ตลอดก็ยิ่งทำให้ตาเข้าบวมขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนแรก แต่ตอนนี้เขาปกติดีคะเราพยายามเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เขาแพ้และจดบันทึกไว้ตลอดว่าลูกเราแพ้อะไรบ้าง เครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน