หนองคาย น้ำโขงขึ้นสูงในรอบปี ชาวบ้านดีใจจับปลาตัวใหญ่ได้

น้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคาย เริ่มลดลงหลังจากขึ้นสูงต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ถือเป็นระดับน้ำโขงที่ขึ้นสูงสุดในรอบปี 2563 ชาวบ้านริมโขงดีใจจับปลาขนาดใหญ่ ขายสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้เพิ่มขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้จับได้แต่ปลาขนาดเล็ก

ระดับน้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคาย วันนี้เริ่มลดลง หลังจากที่มวลน้ำก้อนใหญ่ที่ไหลมาจากทางตอนเหนือของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ที่ทำให้ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ซินลากู” โดยเฉพาะจากจังหวัดเลย ได้ไหลผ่านพื้นที่จังหวัดหนองคายไปแล้ว ล่าสุดระดับน้ำโขงวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 5.45 เมตรา ลดลงจากช่วงเดียวกันของเมื่อวานนี้ 73 ซม. ต่ำกว่าตลิ่ง 6.75 เมตร และมีแนวโน้มลดลงอีก เนื่องจากวันนี้ที่สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย น้ำโขงมีระดับลดลง 16 ซม. แต่คาดว่าระดับน้ำโขงจะมีระดับสูงขึ้นอีกครั้ง เมื่อมวลน้ำจากจังหวัดเชียงราย ไหลมาถึง

ระดับน้ำโขงที่ขึ้นในช่วงนี้ ถือเป็นระดับน้ำโขงที่ขึ้นสูงสุดในรอบปี 2563 ทำให้ปลาน้ำโขงขนาดใหญ่ ทั้งปลาเกล็ดและปลาหนัง ออกจากที่หลบซ่อนมาเล่นน้ำใหม่ ผสมพันธุ์และวางไข่ ส่งผลดีกับชาวบ้านริมฝั่งโขงที่ประกอบอาชีพจับปลาในแม่น้ำโขง ช่วงนี้จับปลาที่มีขนาดใหญ่ได้มากขึ้น น้ำหนักเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าตัวละ 1 กิโลกรัม จากเดิมก่อนหน้านี้ที่น้ำโขงมีระดับต่ำจับได้แต่ปลาขนาดเล็ก 4 – 5 ตัวต่อกิโลกรัม ขายสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้เพิ่มมากขึ้นด้วย นอกจากนี้น้ำโขงที่มีระดับสูง และไหลแรง ยังทำให้ในแต่ละวันยังสามารถออกเรือจับปลาได้หลายรอบขึ้น จากเดิมวันละ 2 – 3 รอบ เป็น 5 – 6 รอบ ทำให้ช่วงนี้ชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่ประกอบอาชีพจับปลา โดยเฉพาะที่บ้านหาดทรายทอง ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย ที่มีชาวบ้านประกอบอาชีพจับปลาเกือบ 30 ครอบครัว ได้ออกเรือจับปลาในแม่น้ำโขงกันอย่างคึกคัก

นายอนุสรณ์ ทองเพชร อายุ 46 ปี ชาวบ้านบ้านหาดทรายทอง ตำบลหาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย บอกว่า น้ำโขงที่ขึ้นสูงในช่วงนี้ถือเป็นระดับน้ำโขงที่ขึ้นสูงที่สุดในรอบปีนี้ ซึ่งผลดีต่อชาวบ้านประจับปลาในแม่น้ำโขงที่ช่วงนี้จับปลาขนาดใหญ่ได้มากขึ้น และจับได้ปลาหลากหลายสายพันธุ์ ที่ออกมาเล่นน้ำใหม่ และวางไข่ ชาวบ้านได้มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว ช่วงนี้ปลาขนาดใหญ่ที่จับได้จะเป็นปลาเผาะ ปลาลิง ปลาค้าว และปลาโจ๊ก อย่างที่ตนจับได้วันนี้ก็เป็นปลาเผาะ น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม ซึ่งปลาเผาะที่เคยจับกันได้น้ำหนักสูงสุดอยู่ที่ตัวละประมาณ 10 กิโลกรัม ส่วนราคาปลานั้น ถือว่าราคาดี ปลาหนังส่วนใหญ่จะเริ่มต้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท ส่วนปลาเกล็ดส่วนใหญ่จะเริ่มต้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดปลาที่จับได้ ยิ่งปลาตัวใหญ่ยิ่งราคาสูง

ส่วนการปรับเปลี่ยนเครื่องมือในการจับปลาช่วงที่น้ำโขงมีระดับสูงและไหลเชี่ยวนั้น นายอนุสรณ์ บอกว่า ต้องใช้ตาข่ายจับปลาที่สั้นกว่าเดิม มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีจำนวนชั้นของตาข่ายน้อยลง เพื่อไม่ให้หนักในช่วงที่ดึงตาข่ายจากน้ำขึ้นเรือ โดยเฉลี่ยช่วงนี้จะใช้ตาข่ายจับปลายาวประมาณ 100 เมตร จากเดิมยาว 300 – 400 เมตร นอกจากนี้น้ำโขงที่มีระดับสูง และไหลแรง ยังทำให้ในแต่ละวันยังสามารถออกเรือจับปลาได้หลายรอบขึ้น จากเดิมวันละ 2 รอบ เป็นวันละประมาณ 4 – 5 รอบ ส่วนตลาดนั้นจะมีพ่อค้า – แม่ค้ามารับถึงที่