เครดิตภาพโดย ผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) ประเทศไทยเป็นปึกแผ่นมั่นคงได้ ไทยเป็นไทยได้ทุกวันนี้เพราะมีบูรพมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงเสียสละ และมีพระปรีชาญาณ จึงรวมไทยให้เป็นไทยได้เช่นทุกวันนี้...สวัสดีครับนักเที่ยว/นักอ่านทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสผ่านไปสถานที่แห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นสถานที่เดินทัพ และตั้งค่ายในอดีตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า เป็นที่สุดท้ายในการกรีฑาทัพก่อนจะสวรรคต เครดิตภาพโดย ผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) สถานที่ ที่เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ที่ผู้เขียนอยากนำเสนอในวันนี้คือ “พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่นี้เองครับ เครดิตภาพโดย ผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) ที่แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ และความเป็นมาที่ยาวนานโดยสิ่งแรกที่ท่านเข้ามาจะพบกับ “ไก่” ครับ ใช่ครับฟังไม่ผิดแน่ ไก่ชนนี้แหละครับ รูปปั้นไก่ชนเต็มไปหมดมีขนาดหลายไซส์มีทั้งใหญ่ เล็ก แต่ที่สะดุดตาที่สุด คือ ไก่ตัวใหญ่ 2 ตัวครับ อยู่ด้านซ้ายและขาวของพระสถูปเจดีย์ ถ้าหันหน้าเข้าไปหาพระสถูปเจดีย์ด้านขวามือจะของเราจะเป็นไก่เหลือหางขาว (ตามประวัติศาสตร์บันทึกว่า เป็นไก่ที่ทรงนำไปจากเมืองพิษณุโลก และนำไปตีกับไก่ของมังชัยสิงห์ราชนัดดา (ต่อมาเป็นพระมหาอุปราชา) จนชนะจึงได้รับสมญานามว่า “ไก่เจ้าเลี้ยง” ทางด้านซ้ายมือจะเป็นไก่ประดู่หางดำ (ตามประวัติศาสตร์บันทึกว่า เป็นไก่ที่สมเด็จพระเอกกาทศรถทรงเลี้ยงซึ่งมีสายพันธุ์มาจากสุพรรณบุรี (เก่งกาจไม่แพ้ไก่เหลืองหางขาว)) และมีไก่ตัวเล็ก ใหญ่รายรอบไม่เท่ากันนับได้เป็นพัน ๆ ผู้เขียนคาดว่าเป็นของผู้ที่นำมาถวายแก้บน หรือนำมาถวายด้วยความศรัทธา เครดิตภาพโดย ผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) สำหรับองค์พระสถูปเจดีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานเปิดเป็นอนุสรณ์สถานเมื่อ พ.ศ.2541 เครดิตภาพโดย ผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) จุดที่เป็นไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งภายในสถานที่ดังกล่าว คือ ค่ายหลวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จุดแรกท่านจะพบกับพระบรมรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเอกาทศรถ พระสุพรรณกัลยาณี พื้นที่ภายในค่ายจะแบ่งเป็นห้อง ๆ โดยมีห้องที่จัดแสดงดังนี้ ห้องเครื่องทรงสมเด็จพระสุพรรณกัลยาณี ภายในห้องนี้มีชุดไทยจัดแสดงแขวนอยู่สวยงาม ห้องต่อมาเป็นห้องศาสตราวุธภายในห้องจะมีอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้สมัยโบราณ เช่น ดาบ ของ้าว เป็นต้น ต่อมาเป็นห้ององครัก จะมีมีดดาบ ช้างไม้แกะ ต่อมาห้องเครื่องถวายราชสักการะ จะมีเครื่องสักการะจัดแสดงให้เข้าชม เครดิตภาพโดย ผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) สำหรับการเดินทางมายังพระสถูปเจดีย์ดังกล่าวใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 จากอำเภอเมืองเชียงใหม่ มุ่งสู่อำเภอแม่แตง และอำเภอเชียงดาว จนถึงแยกสัญญาไฟจราจร (แยกเมืองงาย-เวียงแหง) เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 4 กม. จะพบป้ายบอกสถานที่สีน้ำเงินขนาดใหญ่ข้างตลาด เลี้ยวเข้าไปประมาณ 200 เมตร ก็จะเห็นจุดหมายครับ....เครดิตภาพโดย ผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.)