เมื่อพูดถึงเกม JRPG สุดคลาสสิก เชื่อว่าหลายคนคงต้องมี Tales of Series อยู่ในลิสต์เกมโปรดกันบ้าง และหนึ่งในภาคที่หลายคนยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาคที่ดีที่สุดก็คือ Tales of Graces ซึ่งวางจำหน่ายครั้งแรกบนเครื่อง Wii ในปี 2009 ต่อมาได้ถูกพอร์ตลง PlayStation 3 ในปี 2010 พร้อมกับเพิ่มเนื้อเรื่องเสริมและระบบใหม่ๆ เข้ามาในชื่อ Tales of Graces f และในครั้งนี้ ผมจะพาคุณย้อนเวลากลับไปสัมผัสความงดงามของเกมนี้อีกครั้งในรูปแบบ Remastered กับ "Tales of Graces f Remastered" โดยจะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของเกม พร้อมเล่าประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัวตลอดการเดินทางในดินแดน Efinea ลมหายใจแห่งความทรงจำ Tales of Graces f Remastered ไม่ใช่เพียงแค่การนำเกมเก่ามาปัดฝุ่นใหม่เท่านั้น แต่เป็นการคืนชีพความทรงจำอันแสนงดงามของผมกับเกม JRPG ที่ผมรักที่สุดเกมหนึ่ง ภาพจำในวัยเด็กที่ได้สัมผัสเรื่องราวการผจญภัยของ Asbel และผองเพื่อน ระบบการต่อสู้ที่สนุกจนวางจอยไม่ลง เพลงประกอบสุดไพเราะ และเนื้อเรื่องที่กินใจ ทุกอย่างยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำ การกลับมาครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการได้กลับบ้าน ได้พบเพื่อนเก่า และได้สัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจอีกครั้ง เนื้อเรื่อง: มิตรภาพที่เบ่งบานดั่งดอกไม้ เนื้อเรื่องของ Tales of Graces f Remastered เล่าถึงเรื่องราวของ Asbel Lhant เด็กหนุ่มผู้ใฝ่ฝันจะเป็นอัศวินผู้เก่งกาจ ในวัยเด็ก Asbel ได้พบกับ Sophie เด็กสาวลึกลับผู้สูญเสียความทรงจำ และ Richard เจ้าชายแห่งอาณาจักร Windor พวกเขาได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่แล้วโศกนาฏกรรมบางอย่างก็เกิดขึ้น ทำให้ Asbel ต้องพลัดพรากจาก Sophie และ Richard 7 ปีต่อมา Asbel ได้เติบโตเป็นชายหนุ่ม เขาได้พบกับ Sophie อีกครั้ง และเรื่องราวการผจญภัยเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวตนของ Sophie และปกป้องโลก Efinea จากภัยคุกคามก็เริ่มต้นขึ้น สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดในเนื้อเรื่องของเกมนี้คือธีมของ "มิตรภาพ" เราจะได้เห็นพัฒนาการของความสัมพันธ์ระหว่าง Asbel Sophie และ Richard รวมถึงตัวละครอื่นๆ อย่าง Hubert Cheria Malik และ Pascal ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งสุขและเศร้า ตัวละครแต่ละตัวต่างก็มีปมหลัง ความฝัน และเป้าหมายของตัวเอง ซึ่งทำให้เรารู้สึกผูกพันและเอาใจช่วยพวกเขา หลายฉากในเกมทำเอาผมน้ำตาซึม ทั้งจากความซาบซึ้ง ความเศร้า และความประทับใจ เนื้อเรื่องของ Tales of Graces f Remastered ไม่ใช่แค่เรื่องราวการผจญภัยแฟนตาซีทั่วไป แต่เป็นเรื่องราวที่พูดถึงความสำคัญของมิตรภาพ ครอบครัว และการให้อภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมคิดว่ามันสามารถเข้าถึงผู้เล่นได้ทุกเพศทุกวัย ระบบการต่อสู้: ความลื่นไหลและเร้าใจในทุกจังหวะ ระบบการต่อสู้ของ Tales of Graces f Remastered เป็นแบบ Linear Motion Battle System (LMBS) ซึ่งเป็นระบบการต่อสู้แบบเรียลไทม์ แต่ตัวละครจะเคลื่อนที่ได้เฉพาะในแนวเส้นตรง ระบบนี้อาจฟังดูเรียบง่าย แต่จริงๆ แล้วมีความลึกและซับซ้อนมาก ตัวละครแต่ละตัวจะมีสไตล์การต่อสู้ที่แตกต่างกัน และเราสามารถปรับแต่งกลยุทธ์การต่อสู้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีปกติ การใช้ Artes (ท่าไม้ตาย) หรือการใช้ Eleth Burst ซึ่งเป็นระบบพิเศษที่ช่วยเพิ่มความสามารถของตัวละคร และ Accel Mode ซึ่งเป็นท่าไม้ตายสุดยอด สิ่งที่ทำให้ระบบการต่อสู้ของเกมนี้โดดเด่นคือความลื่นไหลและความรวดเร็ว การโจมตีและการใช้ Artes ต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างต่อเนื่อง สร้างคอมโบที่สวยงามและทรงพลัง ผมยังจำความรู้สึกตอนที่สามารถทำคอมโบยาวๆ จนศัตรูไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ได้ มันเป็นความรู้สึกที่สะใจและฟินมาก นอกจากนี้ ระบบการป้องกันและการหลบหลีกก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เราต้องคอยสังเกตท่าทางการโจมตีของศัตรู และหาจังหวะป้องกันหรือหลบหลีกให้ถูก ซึ่งทำให้การต่อสู้ในเกมนี้มีความท้าทายและสนุกสนาน กราฟิก: ความงามเหนือกาลเวลา แม้ว่ากราฟิกของ Tales of Graces f Remastered จะไม่ได้อลังการงานสร้างเหมือนเกมยุคใหม่ แต่ก็ยังคงความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบตัวละครที่น่ารักและมีเสน่ห์ ฉากต่างๆ ในเกมก็มีความหลากหลาย ตั้งแต่เมืองที่เต็มไปด้วยผู้คน ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ไปจนถึงดันเจี้ยนสุดลึกลับ การ Remastered ในครั้งนี้ทำให้ภาพมีความคมชัดขึ้น สีสันสดใสขึ้น และเฟรมเรตที่ลื่นไหลขึ้น ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นให้ดียิ่งขึ้น ตอนที่ผมได้เห็น Asbel และผองเพื่อนในรูปแบบ Remastered ผมรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในวัยเด็ก ความทรงจำเก่าๆ เริ่มหวนคืนมา แม้กราฟิกจะไม่ได้สมจริง แต่ก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครและฉากต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม ผมรู้สึกประทับใจที่ทีมงานยังคงรักษาเอกลักษณ์ของเกมเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงคุณภาพของกราฟิกให้ดียิ่งขึ้น เพลงประกอบ: บทเพลงที่ตราตรึงในความทรงจำ เพลงประกอบของ Tales of Graces f Remastered เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ผมอยากพูดถึง ผลงานการประพันธ์ของ Motoi Sakuraba นักประพันธ์เพลงชื่อดัง ที่เคยฝากผลงานไว้ในเกมดังๆ มากมาย บทเพลงแต่ละเพลงในเกมนี้ล้วนไพเราะ ติดหู และเข้ากับบรรยากาศของฉากต่างๆ ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเพลงธีมหลักที่ฟังแล้วรู้สึกฮึกเหิม เพลงต่อสู้ที่เร้าใจ หรือเพลงเศร้าที่ฟังแล้วน้ำตาซึม ผมยังจำได้ว่าตอนที่เล่นเกมนี้ครั้งแรก ผมถึงกับต้องเปิดเพลงประกอบฟังวนซ้ำไปซ้ำมา และจนถึงทุกวันนี้ เพลงประกอบของ Tales of Graces f Remastered ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเพลงประกอบเกมที่ผมชื่นชอบที่สุด ประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว: การกลับบ้านที่แสนอบอุ่น การกลับมาเล่น Tales of Graces f Remastered ในครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความสุข ความประทับใจ และความรู้สึกคิดถึง ทุกครั้งที่ผมได้ยินเสียงเพลงประกอบ ได้เห็นตัวละครที่ผมรัก และได้สัมผัสระบบการต่อสู้ที่คุ้นเคย ผมก็รู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน ได้พบเพื่อนเก่า และได้ย้อนเวลากลับไปในวัยเด็กอีกครั้ง เกมนี้ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นความทรงจำอันล้ำค่าที่ผมจะไม่มีวันลืม สรุป: มนต์เสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลาย Tales of Graces f Remastered ไม่ใช่แค่เกม Remastered ธรรมดา แต่เป็นจดหมายรักถึงแฟนๆ และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นใหม่ได้สัมผัสกับหนึ่งใน JRPG ที่ดีที่สุดตลอดกาล ด้วยเนื้อเรื่องที่กินใจ ระบบการต่อสู้ที่สนุกสนาน กราฟิกที่สวยงาม และเพลงประกอบที่ไพเราะ เกมนี้จึงเป็นประสบการณ์ที่ผมอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองสัมผัส สำหรับผม Tales of Graces f Remastered คือการกลับบ้านที่แสนอบอุ่น คือการหวนคืนสู่ความทรงจำที่เบ่งบานอีกครั้ง และคือบทพิสูจน์ว่า มนต์เสน่ห์ของเกมนี้จะไม่เสื่อมคลายไปตามกาลเวลา เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !