หนังสือ The Hunger Habit โดย Dr. Judson Brewer เป็นคู่มือสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินที่ไม่จำเป็น และต้องการทำความเข้าใจกับนิสัยที่เกี่ยวข้องกับอาหารในระดับลึก ผู้เขียนใช้ประสบการณ์ในฐานะจิตแพทย์และนักประสาทวิทยา เพื่อช่วยผู้อ่านเข้าใจว่าพฤติกรรมการกินส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากความหิว แต่เป็นผลจากนิสัย ความเครียด และการตอบสนองของสมองต่อสิ่งเร้าที่เรามองข้ามไป จุดเริ่มต้นของปัญหา: มันไม่ใช่ความผิดของคุณ Dr. Brewer เริ่มต้นหนังสือด้วยข้อความที่ให้กำลังใจ โดยย้ำว่าความล้มเหลวในการควบคุมอาหารไม่ใช่เพราะเราอ่อนแอหรือไร้ความสามารถ แต่เป็นเพราะระบบและวิธีคิดที่เราถูกปลูกฝังมา เช่น การพึ่งพา “พลังใจ” หรือการนับแคลอรี่ที่มักจะไม่ได้ผลในระยะยาว เขาชี้ให้เห็นว่า ปัญหาที่แท้จริงนั้นอยู่ที่นิสัยการกินที่ไม่เป็นประโยชน์ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมอง และสามารถเปลี่ยนแปลงได้หากเราเข้าใจวิธีการทำงานของมัน นิสัย: รากฐานของพฤติกรรมการกิน หนึ่งในจุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือการอธิบายว่า “นิสัย” คือสาเหตุหลักที่ทำให้เรากินทั้งที่ไม่ได้หิว ผู้เขียนยกตัวอย่างการศึกษาด้านประสาทวิทยา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสมองของเราทำงานโดยสร้าง “วงจรนิสัย” (habit loops) เมื่อเราทำสิ่งใดซ้ำ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการหยิบขนมในยามเครียดหรือการกินอาหารจนเกินอิ่ม พฤติกรรมเหล่านี้ถูกฝังอยู่ในระบบของสมองและกลายเป็นนิสัยที่ยากจะสลัดออก ความสัมพันธ์ระหว่างสมองกับอาหาร Dr. Brewer อธิบายว่า สมองของเราถูกออกแบบมาให้ตอบสนองต่อสิ่งเร้าทันที เช่น ความหิวหรือความอยาก ในอดีต สิ่งนี้ช่วยให้มนุษย์อยู่รอดได้ แต่ในยุคปัจจุบันที่อาหารสามารถหาได้ง่ายและถูกปรุงแต่งให้เสพติด เช่น ขนมขบเคี้ยวหรืออาหารแปรรูป สมองของเรากลับถูกกระตุ้นให้กินเกินความจำเป็น ตัวอย่างที่น่าสนใจคือการที่อุตสาหกรรมอาหารใช้วิทยาศาสตร์เพื่อสร้างความเสพติดในอาหาร เช่น มันฝรั่งทอดที่มาพร้อมสโลแกน “Betcha can’t eat just one!” ความล้มเหลวของระบบที่พึ่งพา “พลังใจ” หนังสือยังชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดของการพึ่งพา “พลังใจ” (willpower) ในการเปลี่ยนนิสัยการกิน Dr. Brewer สรุปปัญหาเกี่ยวกับพลังใจไว้ใน 4 ข้อสำคัญ: สิ่งที่เราถูกห้าม กลับยิ่งทำให้เราอยาก สิ่งที่เราพยายามฝืน กลับยิ่งอยู่ในความคิด การล้มเหลวในครั้งเดียว ทำให้เรารู้สึกท้อและกลับไปเริ่มใหม่ยาก พลังใจไม่ใช่กลไกสำคัญของการเปลี่ยนนิสัยในระยะยาว แทนที่จะพึ่งพาพลังใจ ผู้เขียนเสนอให้เราเริ่มต้นด้วยการ “ตระหนักรู้” (awareness) และใช้เทคนิคการฝึกสติ (mindfulness) เพื่อทำความเข้าใจกับวงจรนิสัยของเรา การเปลี่ยนแปลงนิสัย: เครื่องมือและกลยุทธ์ หนึ่งในเครื่องมือที่โดดเด่นของหนังสือคือ Craving Tool ซึ่งช่วยให้ผู้อ่านจัดการกับความอยากอาหารโดยไม่ต้องกินจริง ๆ โดยมีกระบวนการ 3 ขั้นตอน: สังเกตความอยาก จินตนาการว่ากำลังกินอาหารนั้น เช่น รสชาติ เนื้อสัมผัส และผลลัพธ์หลังการกิน ประเมินผลลัพธ์ เช่น ความรู้สึกทางร่างกายและอารมณ์ เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างความอยากและผลกระทบ ช่วยสร้างความตระหนักรู้และลดพฤติกรรมการกินที่ไม่จำเป็น เป้าหมายที่ท้าทาย: การสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับอาหาร หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เพียงแค่บอกให้เราหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีเท่านั้น แต่ยังเชิญชวนให้เราตั้งเป้าหมายใหม่ เช่น การกินอย่างมีสติ การฟังความต้องการที่แท้จริงของร่างกาย การหลุดพ้นจาก “คลับล้างจาน” (การกินจนเกินอิ่มเพียงเพราะอาหารยังเหลือ) Dr. Brewer ชี้ให้เห็นว่าเป้าหมายเหล่านี้สามารถสำเร็จได้หากเรามี “ความตระหนักรู้ในปัจจุบัน” และหยุดใช้ชีวิตแบบอัตโนมัติ แบบฝึกหัดเพื่อการเปลี่ยนแปลง ในส่วนหนึ่งของหนังสือ ผู้เขียนได้แนะนำการตั้งเตือนความจำ 5 ครั้งต่อวัน เพื่อฝึกตระหนักรู้ในช่วงเวลาต่าง ๆ เช่น การติดโพสต์อิทไว้ในที่ต่าง ๆ ในบ้าน หรือการตั้งคำถามว่า “ฉันกำลังรู้สึกอย่างไรตอนนี้?” แบบฝึกหัดนี้ช่วยดึงเราออกจากโหมดอัตโนมัติและสร้างการเชื่อมโยงกับร่างกายและจิตใจ แรงบันดาลใจจากวิทยาศาสตร์และพุทธศาสนา Dr. Brewer นำเสนอว่าแนวคิดด้านจิตวิทยาและพฤติกรรม เช่น Rescorla-Wagner Model สามารถอธิบายได้ด้วยหลักธรรมในพุทธศาสนา ซึ่งเน้นการตระหนักรู้และการปล่อยวางความยึดติด ข้อคิดสำคัญจากหนังสือ ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ การล้มเหลวในการควบคุมอาหารไม่ได้หมายความว่าเราอ่อนแอ แต่เป็นสัญญาณว่าระบบเดิมไม่ได้ผล และเราจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีปฏิบัติ ความตระหนักรู้คือกุญแจสำคัญ การเปลี่ยนแปลงนิสัยต้องเริ่มต้นด้วยการตระหนักรู้ ไม่ใช่การฝืนใจ ความเมตตาต่อตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ แทนที่จะตำหนิตัวเอง เราควรใช้ความล้มเหลวเป็นบทเรียนและก้าวไปข้างหน้า ข้อดีของหนังสือ เนื้อหาครอบคลุมทั้งด้านวิทยาศาสตร์และจิตวิทยา ภาษาที่เข้าใจง่ายและเป็นกันเอง เครื่องมือที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ข้อเสียเล็กน้อย สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกทางประสาทวิทยา หนังสืออาจไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก แต่โดยรวมแล้วเนื้อหาสามารถตอบโจทย์คนทั่วไปที่ต้องการเปลี่ยนนิสัย บทสรุป The Hunger Habit เป็นหนังสือที่ผสมผสานวิทยาศาสตร์ จิตวิทยา และการฝึกสติอย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงนิสัยการกินอย่างยั่งยืน Dr. Brewer ถ่ายทอดเนื้อหาได้อย่างเข้าใจง่ายและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปได้ คะแนน: ⭐⭐⭐⭐⭐ (5/5) หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่แค่เกี่ยวกับการกิน แต่ยังเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างมีสติและการรักตัวเอง สามารถหายืมหนังสืออ่านได้ที่ หอสมุดกรุงเทพมหานคร เครดิตภาพถ่าย: ถ่ายเองจากมือถือทุกภาพค่ะ ขอให้ทุกคนมีวันที่ดีค่ะ ขอบคุณค่ะ ::)) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !