โอไมครอน จะกดดันหรือหนุนราคา ราคา Bitcoin - ตลาด สินทรัพย์ดิจิทัล ??

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในตลาด สินทรัพย์ดิจิทัล มีความผันผวนอย่างหนัก  หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นทำให้ธนาคารกลางต้องเข้มงวดนโยบายการเงิน ส่งผลมาถึง ราคา Bitcoin  (บิตคอยน์) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดได้ร่วงลงต่ำสุดที่ 42,296 ดอลลาร์  ขณะที่อีเธอเรียม (Ethereum) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสอง มูลค่าลดลงมากถึง 17.4% ก่อนขยับขึ้นมาอยู่ที่ลดลงราว 10% 

โอไมครอน ทำให้นักลงทุนวิตก ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลลดลงไป 1 ใน 5 ของมูลค่ารวม 

รายงานของ CoinGecko ระบุว่า ในภาพรวมตลาด สินทรัพย์ดิจิทัล ได้สูญเสียมูลค่าไปสูงถึงราว 1 ใน 5 ของมูลค่ารวมก่อนหน้า หรือลดลงไปถึง 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ  ขณะเดียวกัน การที่ไวรัสโคโรน่ากลายพันธุ์โอไมครอนที่มีข่าวว่าแพร่ระบาดในหลายประเทศ ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าในรอบนี้อาจจะกระทบต่อการเปิดเศรษฐกิจโลก และได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงมากกว่า 4% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่สินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างตราสารหนี้ก็มีการปรับตัวสูงขึ้น 

ภาพประกอบจาก : AFP

ด้านเว็บไซต์ Siam Blockchain ได้เปิดเผยบทวิเคราะห์ของ บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Santiment ว่า หลังจากตลาดคริปโตเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ความสนใจในการซื้อคริปโตของนักลงทุนก็ดูเหมือนว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ  เห็นได้จากการพูดถึงคำว่า “buy the dip” บนสื่อโซเซียลมีเดียที่เพิ่มสูงขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือน แสดงให้เห็นถึงความกังวลที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับการล่มสลายของตลาด สินทรัพย์ดิจิทัล ในสัปดาห์นี้  ซึ่งดูเหมือนว่าจะมาจากการกระตุ้นทำกำไรของนักลงทุนสถาบัน

Bitcoin ค่อยๆฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม ข้อมูล CryptoCompare แสดงให้เห็นว่าราคาของ Bitcoin  ได้ร่วงลงจากจุดสูงสุดที่ใกล้กับระดับ 57,000 ดอลลาร์เหลือต่ำกว่า 43,000 ดอลลาร์ในชั่วข้ามคืน ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ  โดยมีรายงานว่าสถาบันแห่งหนึ่งได้เทขาย Bitcoin มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ ทำให้เกิดการ “liquidate” สัญญา Future จำนวนมากในตลาดอนุพันธ์ จนนำไปสู่การร่วงลดลงของราคา Bitcoin อย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง

ภาพประกอบจาก :  CryptoCompare  โดยเว็บไซต์ siamblockchain.com 

แต่ล่าสุด ราคา Bitcoin  ดีดตัวขึ้นเกือบ 1.5% ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา  โดยราคาฟื้นตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 50,000 ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกและสินทรัพย์เสี่ยงประเภทอื่น ๆ  แต่เทรดเดอร์บางส่วนยังคงระมัดระวังในการซื้อขายเพราะยังกังวลเกี่ยวกับราคาที่ร่วงลงของสัปดาห์ที่ผ่านมา 

โอไมครอน กระทบเชิงจิตวิทยาระยะสั้นต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

คุณเอกราช ศรีศุภวิชากิจ Head of Risk Management & Research Specialist Zipmex Trader บอกว่า ในปลายเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่เริ่มมีการระบาดของ Covid สายพันธุ์ โอไมครอน (Omicron) ซึ่งเป็นโควิดสายพันธุ์ใหม่ ทำให้นักลงทุนเริ่มเกิดความกังวลถึงมาตรการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมา เช่น มาตรการ Lockdown, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นต้น ประกอบกับความกังวลประเด็น Evergrande บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน ประกาศแจ้งกับทางตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2021 ที่ผ่านมาว่า บริษัทไม่รับรองว่าจะสามารถชำระคืนหนี้ได้ โดยเฉพาะกับกรณีของตลาดคริปโตฯ ที่เริ่มมีการกลับมาพูดถึงประเด็นการสำรองสินทรัพย์ของ USDT ว่ามีการถือครองหุ้นกู้ของบริษัท Evergrande อยู่หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม Tether ผู้ออกเหรียญ USDT ได้ออกมายืนยันว่า มีการสำรองเงินแบบเต็มรูปแบบ พร้อมแนบรายงานการตรวจสอบจากบริษัทตรวจสอบบัญชี Moore Cayman

ทำให้ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลปรับตัวลงมาจากความกังวลข้างต้น แต่เชื่อว่าในปีหน้า สินทรัพย์ดิจิทัล ยังคงน่าสนใจ จะมีความเปลี่ยนแปลงและอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นอีกเยอะ เพราะฉะนั้นการหาความรู้เอาไว้แต่เนิ่น ๆ จะทำให้ได้เปรียบมากยิ้งขึ้น

ภาพประกอบจาก : AFP

อนาคตสินทรัพย์ดิจิทัลในปี 2565 จะเป็นอย่างไร? 

ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง ซิปเม็กซ์ (ZIPMEX) ประเทศไทย เปิดเผยว่า การเติบโตของ สินทรัพย์ดิจิทัล พุ่งขึ้น 5-6 เท่าตัว มีนักลงทุนซื้อขายแตะ 1.7 ล้านบัญชี จากเดิมมีเพียง 2.5 ล้านบัญชีเมื่อ 5 ปีก่อน Bitcoin เคยครองตลาด 83% วันนี้ลดเหลือ 42% เพราะนักลงทุนจัดสรรเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ เพิ่ม เช่น ด็อกคอยน์ ชิบะ โทเคน อีเธอร์เรียม เป็นต้น  

แสดงให้เห็นว่าตลาดเปิดกว้าง แต่ปรากฏการณ์ที่ตามมาก็คือเกิดระบบการเงินไร้ศูนย์กลางหรือ Decentralized Finance(DeFi) จากเดิมต้องพึ่งพาแบงก์ในการทำธุรกรรมต่างๆ แต่ตอนนี้ดำเนินการผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนได้ทำให้ เหรียญโทเคนดิจิทัลอย่าง NFT (Non-Fungible Token) นับวันมาแรงขึ้น อนาคตจะเห็นการใช้ประโยชน์ในธุรกิจ เช่น อาจเห็นการนำไปซื้อบัตรชมคอนเสิร์ตศิลปินแบล็คพิงค์แบบวีไอพี หากขายต่อบริษัทได้ค่าธรรมเนียม ในไทยเองก็มีหลายบริษัทที่กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการนำ NFT มาใช้  ซึ่งแน่นอนว่า สินทรัพย์ดิจิทัล เริ่มเข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตของเรามากขึ้น 

การแพร่ระบาดของ Covid สายพันธุ์ โอไมครอน แม้จะเป็นเพียงผลกระทบในเชิงจิตวิทยาระยะสั้นของนักลงทุน แต่ก็ส่งแรงกระเพื่อมต่อตลาดไม่น้อย  เพราะจากภาพรวมตลาด สินทรัพย์ดิจิทัล ช่วงนี้ก็ดูเหมือนจะทรงๆในแบบย่อตัวลงอยู่แล้ว แถมยังผันผวนสูงเป็นปกติ เป็นข้อพิจารณาอันดับแรกที่นักลงทุนควรรู้ แต่ไม่ว่าจะเลือกลงทุนในรูปแบบไหนก็ยังมีความเสี่ยงเหมือนๆกันหมด ขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนที่จะยอมรับได้แค่ไหนเท่านั้นเอง 

หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการลงทุน เนื่องจากการลงทุนมีความเสี่ยง

ข้อมูล : เอกราช ศรีศุภวิชากิจ Head of Risk Management & Research Specialist Zipmex Trader , ZIPMEX ประเทศไทย   , Siam Blockchain 

ภาพประกอบ : AFP , CryptoCompare , siamblockchain.com