“Little Osaka” เมืองอาทิตย์อุทัยในแดนสยาม จากครั้งหนึ่งที่ผู้เขียนได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณโดยรอบ Little Osaka นั่นก็คือย่านศรีราชานคร อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พบว่ามีบรรดาอาคารและร้านค้าที่เป็นรูปทรงแบบญี่ปุ่นอยู่เป็นจำนวนมาก ถึงแม้บางร้านจะไม่ได้มีรูปทรงแบบญี่ปุ่นแต่ก็ประดับประดาด้วยทิวธงและป้ายตัวอักษรญี่ปุ่นเกือบทุกร้าน แม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องปรับอากาศยังใช้แบรนด์ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ผู้เขียนไม่เคยพบเห็นมาก่อนปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นผลโดยตรงมาจากความผันผวนทางเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น โดยอุตสาหกรรมการผลิตจำต้องย้ายฐานการผลิตจากประเทศญี่ปุ่นไปยังประเทศอื่นที่ค่าแรงถูกกว่า ซึ่งตัวเลือกแรก ๆ ที่ผู้ประกอบการญี่ปุ่นจะเลือกย้ายฐานการผลิตมาก็คือประเทศไทย เนื่องด้วยค่าแรงที่ไม่สูงเกินไป อีกทั้งรัฐบาลในขณะนั้นยังส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศอย่างเต็มที่ จึงส่งผลให้มีอุตสาหกรรมจากญี่ปุ่นมาตั้งฐานการผลิตยังนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยจำนวกมาก รวมถึงในบริเวณอำเภอศรีราชาแห่งนี้ด้วย แน่นอนว่าการย้ายฐานการผลิตในครั้งนี้ทางบริษัทแม่ของญี่ปุ่นจะต้องนำเอาบุคลากร ช่างเทคนิค หรือหัวหน้าระดับสูงมาควบคุมสายการผลิตด้วย ดังนั้นย่านศรีราชานครจึงได้ชื่อว่า Little Osaka อันแสดงถึงความเป็นเมืองที่ประกอบไปด้วยผู้คนและวัฒนธรรมแบบอาทิตย์อุทัยในแดนสยามนั่นเองการเกิดขึ้นของปรากฎการณ์ “Little Osaka” นอกจากคำอธิบายข้างต้นแล้ว ผู้เขียนอยากจะชวนผู้อ่านมองปรากฎการณ์ให้ลึกขึ้นอีกนิดโดยใช้ทฤษฎีเป็นกรอบในการอธิบาย ในที่นี้จะใช้ทฤษฎีว่าด้วยปัจจัยต้นทาง-ปลายทาง-อุปสรรคแทรกกลางในการย้ายถิ่นของ Everett S. Lee โดยเป็นการต่อยอดจากแนวทฤษฎีเดิมของ Revebstein สาระสำคัญของทฤษฎีนี้เป็นการกล่าวถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการย้ายถิ่นว่าเกี่ยวข้องกับปัจจัยใดบ้าง เช่น ปัจจัยพื้นที่ต้นทาง ปัจจัยพื้นปลายทาง อุปสรรคแทรกกลาง และปัจจัยส่วนบุคคล เป็นต้นลักษณะของแรงงานญี่ปุ่นในพื้นที่ศรีราชา จากการสำรวจของผู้เขียนส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่มีทักษะในระดับสูงอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าควบคุมสายการผลิตหรือเป็นผู้จัดการโรงงานที่มาควบคุมการทำงานของแรงงานไทยระดับล่าง ส่วนมากอพยพย้ายกันมาทั้งครอบครัวหรือไม่ถ้าเป็นคนโสดก็มักหาคู่ครองเป็นคนไทย และมักอาศัยในที่พักที่มีราคาสูง และที่สำคัญยังคงอัตลักษณ์ของตนเองไว้ เห็นได้จากการใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาหลัก และความสามารถในการสื่อสารภาษาไทยต่ำปัจจัยดึงและปัจจัยผลักของประเทศญี่ปุ่น ปัจจัยดึง: ได้แก่ ด้านครอบครัว ความห่างไกลจากบ้านเกิด หรือมีผู้สูงอายุในครอบครัวที่ต้องการคนดูแลปัจจัยผลัก: อันดับแรกจะเป็นเรื่องของค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับแรงกดดันทางสังคมและสภาวะการทำงานที่เคร่งเครียดในสังคมการทำงานญี่ปุ่น อีกทั้งการมาทำงานที่ไทยมักมีโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งสูงกว่าคนอื่น ๆ ปัจจัยดึงและปัจจัยผลักของประเทศไทย ปัจจัยดึง: ประการแรกที่สำคัญที่สุดคือการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและระบบสาธารณูปโภคในไทย เช่น โครงการพัฒนาอีสเทิร์นซีบอร์ด เป็นต้น การได้รับค่าจ้างสูงแต่ค่าครองชีพต่ำ การได้รับสวัสดิการที่ดีเมื่อเทียบกับพนักงานคนอื่น โดยมีรถประจำตำแหน่ง มีรถรับส่ง อีกทั้งยังได้รับที่พักอาศัยที่สะดวกสบายปัจจัยผลัก: ได้แก่ การปรับเลื่อนตำแหน่งหรือมีคำสั่งย้ายกลับจากบริษัทแม่ในญี่ปุ่น และการที่ครอบครัวไม่สามารถปรับตัวให้เข้าสภาพแวดล้อมได้ เช่น สภาพภูมิอากาศ วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ เป็นต้นปัจจัยแทรกกลางที่สำคัญที่สุดคือ การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศ เช่น การทำข้อตกลงพลาซา (Plaza Accord) ในปี 1985 ระหว่างเหล่าประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกที่บังคับให้ญี่ปุ่นเพิ่มค่าเงินของตนเอง อันทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าส่งผลให้การส่งออกตกต่ำลงในทันที ญี่ปุ่นจึงจำต้องย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่า เช่น ประเทศไทย ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ Little Osaka ขึ้นจากที่กล่าวมาข้างต้นการทำความเข้าใจการเกิดขึ้นของ “Little Osaka” ในเชิงทฤษฎีนั้นไม่เพียงแต่มุ่งเน้นศึกษาด้านปัจจัยดึงและปัจจัยผลักระหว่างประเทศต้นทาง-ปลายทางเท่านั้น ในกรณีนี้การเกิดขึ้นของ “Little Osaka” เป็นผลโดยตรงมาจากการเกิดขึ้นของนิคมอุตาหกรรมต่าง ๆ เช่น นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และนิคมอุตสาหกรรมบ้านบึง เป็นต้น ซึ่งภายในนิคมเหล่านี้ย่อมประกอบไปด้วยบริษัทข้ามชาติที่มาตั้งฐานการผลิตที่ไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือญี่ปุ่นอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศดังที่ได้กล่าวไป สิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยแทรกกลางที่สำคัญที่เราไม่อาจละเลยในการศึกษาทำความเข้าใจกับปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นได้ อ้างอิงทรงชัย ทองปาน. แนวคิดทางภูมิศาสตร์ประชากร กรณีศึกษาภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.เครดิตรูปภาพภาพหน้าปกและภาพประกอบที่ 1 และ 2 ถ่ายโดยผู้เขียนภาพประกอบที่ 3 จาก Pixabay