อย่าบั่นทอน! น้ำใจเจ้าหน้าที่ "ภูมิธรรม" ซัดคนวิจารณ์รัฐลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมล่าช้า
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังน้ำลด ที่มีการร้องขอเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปช่วยเหลือเรื่องดินโคลนเข้าไปภายในบ้านเรือนเป็นจำนวนมาก จะสามารถประสานหน่วยงานใดได้บ้าง ว่าสำหรับกระทรวงกลาโหม ได้สั่งกองทัพแต่ละภาค ให้เข้าไปดูในดูแลในพื้นที่ของตัวเอง แต่การช่วยเหลือชุดแรกเราเอาเรื่องของชีวิต ของประชาชนที่ประสบเรื่องน้ำท่วมก่อน รวมไปถึงเรื่องของการส่งมอบอาหารการกิน แต่หากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง เราก็จะเริ่มทำความสะอาด แต่ต้องเรียนว่าเรื่องของดินโคนไม่ได้มีเฉพาะบ้านเรือนของประชาชนซึ่งก็มีตั้งแต่ถนนใหญ่ ทำให้การเคลื่อนและการติดต่อค่อนข้างเป็นไปอย่างยากลำบาก และ เฮลิคอปเตอร์ ก็ไม่ได้มีเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามก็จะเข้าไปดูให้เร็วที่สุด ซึ่งแต่บ้านแต่ละหลังก็มีจำนวนดินโคลนเข้าไปไม่เท่ากัน เราก็ไล่จากถนนใหญ่เข้าไปในซอย ไปจนถึงบ้านเรือนประชาชน
ส่วนหน่วยงานที่จะเข้ามาดูเรื่องของการคลีนนิ่ง ก็จะมีทั้งเครื่องจักรเครื่องกล จากกระทรวงคมนาคม ระดมเข้าไป ขณะเดียวกัน นอกจากการฟื้นฟูแล้ว ในพื้นที่อื่นเช่นภาคอีสาน ก็กำลังประสบภัยน้ำท่วม เราจึงต้องส่งคนเข้าไปช่วยเหลือเช่นกัน อย่างหน่วยซีล เราก็ถอนจากภาคเหนือไปภาคอีสาน
นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงมาตรการเยียวยา ว่า เราเน้นเรื่องความรวดเร็ว จึงได้ให้ใช้กรอบเดิม เพื่อดูแลไปก่อน แต่เราก็รู้ว่าเงินที่ช่วยเหลือนั้นไม่เพียงพอ แต่เราก็ต้องมีการพูดคุยกันเพื่อเพิ่มวงเงินช่วยเหลือ
ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ ว่าหน่วยงานรัฐช่วยเหลือล่าช้า ซึ่งทั้งหน่วยกู้ภัยและภาคประชาสังคมกลับเข้าไปถึงพื้นที่ก่อน นายภูมิธรรม กล่าวว่า การวิพากษ์วิจารณ์สามารถทำได้ แต่ต้องดูให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ตอนที่เกิดน้ำท่วมรัฐบาลยังสั่งการไม่ได้ แต่เราจะเห็นว่าทหารเข้าไปในพื้นที่ตั้งแต่สองทุ่ม วันที่เกิดเหตุ และพยายามลำเลียงผู้คนออกมา เราจึงเห็นผู้คนจำนวนไม่น้อยอยู่ที่ศูนย์อพยพ
“ ผมว่าใครก่อนใครหลังเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ประเด็นคือต้องช่วยกันทำ ใครเข้าไปก่อน ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาเคลม เข้าไปเถอะ ไปช่วยกันทำประชาชนเขาเดือดร้อน เค้าไม่ได้สนใจหรอกว่าใครมาก่อนมาหลัง ” นายภูมิธรรมกล่าว
ส่วนที่มีข้อวิจารณ์ว่าเวลาผู้ใหญ่ลงพื้นที่ไปก็จะมีหน่วยงานราชการแห่มาต้อนรับ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราก็ระมัดระวังไม่จำเป็นต้องมารับมาดูแล ก็เอาเฉพาะบุคคล ที่เกี่ยวข้องก็พอ เพราะถ้าไม่ไปก็จะมาว่าอีกว่าไม่สนใจ พอไปก็บอกว่าคนแห่แหนมา แต่อย่ามาบอกว่าหน่วยงานรัฐไม่มีใครเข้าไปดูอย่างเช่นกระทรวงคมนาคมที่เข้าสร้างสะพานแบริ่งไว้ เต็มไปหมดแล้ว และตอนนี้เราก็ให้ความสำคัญกับบนเขาเพราะว่าเส้นทางขาด กองกองทัพก็เข้าไปส่งอาหาร ขณะที่เรื่องไฟฟ้าหากพื้นที่ไหนน้ำแห้งแล้วก็เร่งดำเนินการไปติดตั้ง ดังนั้นเรื่องนี้ตนว่าต้องให้กำลังใจกัน อย่างภาคเอกชนที่ขับเจ็ตสกีเวลาคนเข้าไปเขาก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะฉะนั้นอย่าพูดที่ บั่นทอนกำลังใจกัน อยากให้มองบวก และส่งเสริมหากมีเงินก็สละเงิน มีของก็สละของ แต่ถ้าไม่มีอะไรก็ให้กำลังใจกัน
/////