ศบค.เปิดยอด "เจอ แจก จบ" ป่วยเฉลี่ยเกือบ 30,000 ราย/วัน พบ 23 จังหวัดโควิดพุ่งสูง
ศบค.เปิดยอด "เจอ แจก จบ" สัปดาห์ที่ 26 มีผู้ป่วยรับยากลับบ้านแล้ว 207,643 ราย เฉลี่ยวันละเกือบ 30,000 ราย พบ 23 จังหวัดแนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 พุ่งสูง เป็น Small Wave สธ.ยืนยัน มีเตียงเพียงพอรับผู้ป่วยอาการหนัก
วันนี้ (8 ก.ค.65) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือศบค. แถลงผลการประชุม "ศบค.ชุดใหญ่" ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน
โดยระบุว่า จังหวัดที่มีแนวโน้มสถานการณ์จัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลง โดย 54 จังหวัดมีแนวโน้มลดลง และ 23 จังหวัดเป็นจังหวัดที่อยู่ในช่วงขาขึ้น
ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี ภูเก็ต สมุทรปราการเป็นต้น โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตมียอดตัวเลขพุ่งขึ้นสูงมาก จึงขอให้ประชาชนช่วยกันลดยอดตัวเลขลงมา
โดยมี 6 จังหวัดที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อต่อเนื่องและมีแนวโน้มพุ่งสูงเป็น Small Wave สูงสุดต้องจับตาเป็นพิเศษ ได้แก่
1. กรุงเทพฯ 2. ชลบุรี 3. ปทุมธานี 4. นนทบุรี 5. สมุทรปราการ 6. ภูเก็ต (มีแนวโน้มการระบาดเพิ่มสูงมากสุด)
ส่วนอีก 17 จังหวัดที่มีแนวโน้มเป็น Small Wave รองลงมา ได้แก่
1. เชียงราย 2. ระยอง 3. ตาก 4. สมุทรสงคราม 5. สมุทรสาคร 6. ลพบุรี 7. ชัยนาท 8. สิงห์บุรี 9. นครปฐม 10. พระนครศรีอยุธยา 11. สงขลา 12. กระบี่ 13. พังงา 14. นราธิวาส 15. ตรัง 16. ปัตตานี 17. ยะลา
ที่ประชุมนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำการติดเชื้อที่มีข่าวหรือสื่อ นักวิชาการรวมถึงผู้ที่ใช้โซเชียลมีเดียให้ข้อมูล ซึ่งอาจจะมีทั้งสอดคล้องและขัดแย้งกันต่างๆ โดยนายกรัฐมนตรีได้พูดถึงในที่ประชุมว่าหน้าที่หลักทางศบค. และทางกระทรวงสาธารณสุขโดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือว่าขอให้ฟังจากทาง ศบค.
ขณะเดียวกันที่มีข้อมูลว่ามีผู้ป่วยหนักมากกว่านี้แต่ไม่ได้นอนที่โรงพยาบาล ซึ่งทางกรมควบคุมโรคได้แสดงรายงานทุกวันซึ่งเป็นตัวเลขที่สำคัญโดยเฉพาะตัวเลข OPSI หรือ OP SELF ISOLATION หรือที่เรียกกันว่า "เจอ แจก จบ" โดยเป็นผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล รับยาเสร็จแล้วกลับบ้าน
โดยในสัปดาห์ที่ 26 พบผู้ป่วยจำนวน 207,643 ราย เฉลี่ยวันละประมาณ 29,000 คนทั่วประเทศ ส่วนผู้ป่วยปอดอักเสบในสัปดาห์ที่มี 763 ราย และใส่ท่อช่วยหายใน 327 ราย แนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งยังมีเตียงรองรับเพียงพอ จึงต้องขอความร่วมมือในการช่วยสวมใส่หน้ากากอนามัยให้ได้มากที่สุดเพราะคือการป้องกันการติดเชื้อและการเสียชีวิตของคนสูงอายุ
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ยังมีเตียงที่รับเพียงพอ ทั้งประเทศอัตราครองเตียงทั้ง 3 ระดับอยู่ที่ 103,798 ขณะเดียวกันสถานการณ์ดีขึ้นโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขได้คืนเตียงไปยังผู้ป่วยโรคอื่นๆ ไปด้วย
ขณะที่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,144 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,144 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 0 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 0 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 0 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 3,573 ราย เสียชีวิต 20 ราย
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 4,540,955 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 1,946 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 30,798 ราย
ขณะที่ สถานการณ์การระบาดทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 558,649,659 ราย เสียชีวิต 6,369,032 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา 90,065,165 ราย อันดับ 2 อินเดีย 43,587,302 ราย อันดับ 3 บราซิล 32,761,045 ราย อันดับ 4 ฝรั่งเศส 31,974,607 ราย และอันดับ 5 เยอรมนี 28,926,346 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 26
ภาพจาก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 , Reuters