ช่วงหน้าร้อนในเมืองไทย...บอกเลยว่าร้อนจนละลายได้! แล้วถ้าเรายังต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ไม่เป็นลม รถยนต์ไฟฟ้าคู่ใจก็ต้องได้รับการดูแลไม่ต่างกัน เพราะรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีส่วนประกอบหลายอย่างที่อ่อนไหวต่อความร้อน โดยเฉพาะ "แบตเตอรี่" ที่เปรียบได้กับหัวใจของรถ ถ้าเสื่อมเร็วก็บอกเลยว่าเปลี่ยนทีมีหนาวแน่นอน วันนี้เลยอยากชวนทุกคนมาดูวิธีดูแลรถยนต์ไฟฟ้าช่วงหน้าร้อนกันแบบง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ได้ผลจริง ใครมีรถ EV อยู่ อย่าลืมลองทำตามนะคะ 1. อย่าจอดรถตากแดดจัดนานเกินไป ถึงรถจะดูแกร่งแค่ไหน แต่ถ้าเจอแดดเมืองไทยเข้าไปนาน ๆ ก็มีอาการได้นะ! เพราะความร้อนจัด ๆ นอกจากจะทำให้ห้องโดยสารร้อนจี๋แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อแบตเตอรี่โดยตรง ทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำว่า: หาที่จอดในที่ร่ม เช่น ลานจอดรถในห้าง ใต้ต้นไม้ หรือโรงจอดรถ ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ให้ใช้ "ผ้าคลุมรถ" หรือ "ม่านบังแดด" ช่วยลดอุณหภูมิภายในรถได้เยอะเลย 2. หมั่นตรวจสอบระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ หลายคนอาจไม่รู้ว่า รถ EV มีระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ ซึ่งอาจเป็นแบบน้ำหล่อเย็น (liquid cooling) หรือระบบพัดลม ถ้าอุณหภูมิสูงเกินไป อาจทำให้ระบบผิดปกติ สิ่งที่ควรทำ: ตรวจเช็กระดับน้ำหล่อเย็นตามคำแนะนำของคู่มือรถ หากมีเสียงพัดลมดังผิดปกติ หรือมีไฟเตือน ควรนำรถเข้าศูนย์ทันที หมั่นเข้าศูนย์ตามระยะ เพื่อตรวจเช็กระบบระบายความร้อนอย่างละเอียด 3. ชาร์จแบตเตอรี่ให้เหมาะสม ช่วงหน้าร้อน ไม่แนะนำให้ชาร์จแบตจนเต็ม 100% บ่อยเกินไป เพราะอุณหภูมิที่สูง บวกกับไฟที่เต็มถัง อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวขึ้น เทคนิคที่ใช้ได้จริง: ชาร์จอยู่ในช่วง 20-80% จะช่วยยืดอายุแบต หากต้องเดินทางไกล ค่อยชาร์จเต็มแบบเฉพาะกิจ หลีกเลี่ยงการชาร์จตอนแดดจัด ควรชาร์จตอนเช้าหรือตอนเย็นที่อากาศเย็นลง 4. ดูแลยางรถให้ดี หน้าร้อน = พื้นถนนร้อนระอุ! ยางรถโดนความร้อนจัดอาจทำให้ความดันในยางพุ่งสูง จนอาจเกิดการสึกหรอหรือระเบิดได้ เคล็ดลับ: เช็กลมยางให้เหมาะสมตามที่ผู้ผลิตแนะนำ ตรวจสอบรอยแตกลายงา หรือยางบวมเป็นระยะ ถ้าขับทางไกลบ่อย ๆ ควรเช็กยางก่อนเดินทางทุกครั้ง 5. อย่าลืมระบบปรับอากาศ ใคร ๆ ก็อยากนั่งรถเย็น ๆ ในช่วงที่อากาศแตะ 40 องศา แต่ถ้าแอร์ไม่เย็นก็ซวยแน่ แถมอาจเป็นสัญญาณว่าแอร์เริ่มมีปัญหา สิ่งที่ควรทำ: ตรวจเช็กน้ำยาแอร์ปีละครั้ง เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศห้องโดยสารตามระยะ สังเกตกลิ่นแปลก ๆ หรือแอร์ไม่เย็นเร็ว ควรรีบให้ช่างดู 6. ดูแลพื้นผิวรถ แดดแรง = สีรถซีดเร็ว! โดยเฉพาะรถสีอ่อน หรือรถที่จอดกลางแจ้งบ่อย ๆ แนะนำวิธีดูแล: ล้างรถเป็นประจำ ช่วยขจัดคราบฝุ่นและคราบเกลือจากเหงื่อไคลของเมืองร้อนเคลือบแว็กซ์ หรือเคลือบแก้วช่วยป้องกันรังสี UV ได้ หาผ้าคลุมหรือฟิล์มใสกันรอยหุ้มช่วงหน้ารถหรือกระจกบานหน้า 7. ใช้แอปฯ ของรถให้เป็นประโยชน์ รถ EV ส่วนใหญ่มีแอปพลิเคชันที่เชื่อมกับตัวรถไว้ดูสถานะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิแบตเตอรี่, การชาร์จ, หรือแม้กระทั่งการเปิดแอร์ล่วงหน้า วิธีใช้งานช่วงหน้าร้อน: เปิดแอร์ล่วงหน้าก่อนขึ้นรถ เพื่อให้อุณหภูมิเย็นสบาย ตรวจเช็กว่าแบตเตอรี่ร้อนเกินไปหรือไม่ ตั้งเวลาให้รถเริ่มชาร์จตอนกลางคืนเพื่อเลี่ยงช่วงอากาศร้อนจัด 8. อย่าลืม “คน” ก็ต้องสบายด้วย บางทีเราห่วงรถจนลืมห่วงตัวเอง! ควรมีไอเทมช่วยคลายร้อนติดรถไว้เสมอ เช่น ผ้าขนหนูเปียก ขวดน้ำ พัดลมมือถือ แผ่นเจลเย็น หรือที่รองเบาะแบบระบายอากาศได้ 9. เข้าศูนย์ตามระยะ อย่ารอให้รถเสีย ถึงรถ EV จะบำรุงรักษาน้อยกว่ารถใช้น้ำมัน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ต้องเข้าศูนย์นะคะโดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่ระบบทำงานหนักขึ้นทุกวัน รายการที่ควรเช็กในศูนย์บริการ: ระบบระบายความร้อน สภาพแบตเตอรี่ ระบบเบรก (บางรุ่นใช้เบรกไฟฟ้า) ช่วงล่างและล้อ ระบบซอฟต์แวร์ (อัปเดต OTA หากมี) 10. รู้ทันอาการผิดปกติ รถไฟฟ้าจะมีระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ แต่เจ้าของรถเองก็ควรหมั่นสังเกตอาการแปลก ๆ ด้วย เช่น รถชาร์จช้ากว่าปกติ แบตหมดเร็วผิดปกติ กลิ่นไหม้หรือกลิ่นแปลก ระบบปรับอากาศทำงานผิดปกติ หากเจออาการเหล่านี้ ควรนำรถเข้าตรวจสอบโดยช่างผู้เชี่ยวชาญทันที สรุปส่งท้าย รถยนต์ไฟฟ้าคืออนาคตของการขับขี่ แต่ก็ต้องดูแลอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่บ้านเราร้อนแบบไม่มีอะไรกั้น การดูแลอย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่จะช่วยยืดอายุของแบตเตอรี่และรถทั้งคัน แต่ยังช่วยให้เราใช้รถได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น อย่าลืมนะคะ รถดีแค่ไหน ถ้าเราไม่ดูแลก็เสื่อมได้เหมือนกัน ดังนั้นหน้าร้อนนี้…ดูแลรถกันดี ๆ แล้วไปซิ่งกันอย่างสบายใจ! ภาพปกและภาพประกอบทั้งหมดโดยนักเขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !