แรงงานเมียนมาร์ ทะลักเข้าไทย หลังโควิด-19ในมาเลเซีย ระบาดรอบ 2

แรงงานเมียนมาร์ ทะลักเข้าไทย หลังมาเลเซียโควิด-19 ระบาดรอบ 2

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 สิงหาคม 2563 พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ แสงสง่า ผกก.สภ.สะเดา นำกำลังตำรวจ สภ.สะเดาร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดนที่ 437 และทหารหน่วยเฉพาะกิจทหารราบที่ 5 จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 24 คน เป็นชาย 16 คน หญิง 8 คน ในจำนวนนี้มีชาวโรฮินจารวมอยู่ด้วย 5 คน และผู้หญิงทั้ง 8 ราย กำลังตั้งครรภ์ระหว่าง 3-8 เดือน และทุกคนอยู่ในสภาพที่อิดโรยเพราะขาดอาหารมาหลายวัน

เจ้าหน้าที่จับกุมได้ขณะลักลอบเดินทางข้ามแดนมาจากประเทศมาเลเซีย ผ่านทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทยมาเลเซีย และมาซ่อนตัวอยู่บริเวณอุโมงค์ด่านพรมแดนสะเดาแห่งใหม่ พื้นที่บ้านด่านนอกหมู่ 7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา และมีชาวบ้านไปพบและแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและจับกุม

จากการสอบถามในเบื้องต้นทราบว่าแรงงานชาวเมียนมา 24 คน ส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกัน เป็นแรงงานที่ทำงานอยู่ในโรงงานพลาสติกในรัฐอิโป ประเทศมาเลเซีย แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดรอบ2ในประเทศมาเลเซีย ทำให้ไม่มีงานทำอยู่อย่างลำบาก จึงต้องการเดินทางกลับประเทศ

นายจ้างนายหน้าชาวมาเลเซียให้มาส่งที่ชายแดนไทยมาเลเซียคนละ 2000 ริงกิต หรือประมาณ 15,000 บาท และอยู่ระหว่างรอนายหน้าคนไทยมารับเพื่อเดินทางอีกรอบแต่ก็มาถูกเจ้าที่จับกุม

เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่อำเภอสะเดาได้เข้ามาทำการซักประวัติ วัดไข้ และคัดกรองตามมาตรการควบคุมโควิด19 และเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วันและรอผลการตรวจยืนยันว่าไม่ติดเชื้อโควิด19 แล้วจะประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป

รายงานข่าวว่าเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่ได้จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 37 คน ซึ่งหลบหนีเข้ามาเมืองมาจากประเทศมาเลเซีย ทางแนวตะเข็บชายแดนไทยมาเลเซียเช่นกัน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงออกลาดตระเวนคุมเข้มพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซียอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาลักลอบเข้ามาจากปัญหาโควิดในประเทศมาเลเซีย