เด็กไทยหลายๆคนในยุคของผมซึ่งก็คือยุค80-90sมีความใฝ่ฝันไม่น้อยเลยที่โตมาอยากจะเป็น หมอ,พยาบาล,ทหาร,ตำรวจคุณครู,วิศวกร,แอร์โฮสเตส หรืออาชีพที่เกี่ยวกับข้าราชการ อาชีพที่มีหน้ามีตาในสังคม มีสวัสดิการดีๆมีตำแหน่งหน้าที่การงานเพื่อให้คนที่บ้านรู้สึกภูมิใจ และสามารถนำไปอวดบุคคลอื่นๆได้อะไรแบบนั้น แต่ต้องยอมรับว่ายุคนี้ คนเปลี่ยน สังคมเปลี่ยนวัฒนธรรม เทคโนโลยี ความเชื่อ ความจริง เกี่ยวกับอาชีพเหล่านี้ต่างถูกหยิบยก ขึ้นมาเป็นประเด็นพูดคุยกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันเครดิตภาพ : Sasin Tipchai : pixabay.com ปฎิเสธไม่ได้ว่าในยุคนี้สมัยนี้เด็กๆส่วนใหญ่ไม่อยากจะเป็นข้าราชการหรืออาชีพที่กล่าวมาข้างต้นกันแล้ว เท่าที่ผมสอบถามเด็กๆมัธยมแถวบ้านว่าพ่อหนุ่มโตขึ้นอยากเป็นอะไร?สาวน้อยอนาคตอยากเป็นอะไร?คำตอบที่ได้รับมีทั้งทีเล่นทีจริง บ้างก็ว่า"หนูอยากเป็นคนรวยที่ไม่ปวดหลัง"บ้างก็ว่าอยากจะเป็นนักแคสเกมส์,ยูทูปเบอร์,คอนเทนต์ครีเอเตอร์, อยากไปออดิชั่นที่เกาหลี, อยากเป็นนักเทรด หรือสมัยนี้เรียกกันติดปากว่าวัยรุ่นคลิปโตเครดิตภาพ : Gerd Altmann : pixabay.com/ และอาชีพทำเงินอื่นๆอีกมากมายที่คนยุคพ่อแม่ปู่ย่าตายายเราเข้าใจได้ยากลองนึกภาพตามถ้าตอนนี้ผู้อ่านอายุ18ต้นๆกำลังจะสอบเข้ามหาลัยแล้วคุณตาถาม "ไอ้หลานเอ้ย จบออกมาอยากจะทำอาชีพอะไรละ" หลานตอบ "ผมอยากเป็นวัยรุ่นคริปโตครับ" คุณตาคงปวดหัวไม่น้อยกับอาชีพนี้เครดิตภาพ : Gerd Altmann : pixabay.com เครดิตภาพ : Tumisu : pixabay.com เอาละ เกริ่นมาซะยาวนั่นไม่ใช้ประเด็นสำคัญของบทความนี้ ที่ต้องการจะสื่อจริงๆคือทุกๆอย่างที่กล่าวมาสามารถเป็นไปได้ในยุคนี้ ไม่ว่าจะอาชีพไหนสุดท้ายแล้วแก่นหลักของมันคือการเลี้ยงชีพมีเงินไปซื้อข้าวกิน เหลือหน่อยก็เอาไว้เที่ยวเอาไว้จับจ่ายซื้อของตามที่กิเลสมนุษย์พึงมีพึงได้ เคยได้ยินคำว่า"เงินอยู่ในอากาศถ้ามีความสามารถบวกกับความฉลาดเฉลียวซะอย่างคุณก็คว้ามันมาไว้ในมือได้" มั้ย? มา!จะยกตัวอย่างให้ฟัง ผมได้มีโอกาสไปอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง อาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งได้แบ่งกลุ่มนักศึกษาของตัวเองออกเป็น 4กลุ่ม และให้เงินแต่ละกลุ่มประมาณ 20ดอลลาร์(ตีเป็นเงินไทยราวๆ 600บาท) มีเวลาให้ 3วันโดยมีข้อแม้ว่าทำยังไงก็ได้ให้เงิน20ดอลลาร์เพิ่มขึ้น กลุ่มไหนที่ทำเงินเพิ่มได้มากที่สุดเป็นฝ่ายชนะ โดยมีเวลา 3นาที ในการพรีเซนต์หน้าห้องเรียนว่ามีการหาเงินมาได้ยังไง เครดิตภาพ : Bonnie Taylor : pixabay.comเครดิตภาพ : StockSnap : pixabay.com กลุ่มที่1,2 : ใช้วิธีการซื้อมาขายไปพูดให้เข้าใจง่ายๆคือนำเงิน 20ดอลลาร์ ไปซื้ออะไรมาสักอย่าง และขายมันออกไปโดยบวกกำไรนิดหน่อย แน่นอนพวกเขาขายสินค้าเหล่านั้นออกไปได้ แต่มันเกิดค่าเสียเวลาขึ้นและกำไรก็ไม่ได้มากอย่างที่อาจารย์จะให้คะแนนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยได้เครดิตภาพ : Edgar Curious : pixabay.com/ กลุ่มที่3 : เป็นกลุ่มที่น่าสนใจ พวกเขาใช้วิธีการไปต่อแถวเพื่อที่จะซื้ออาหาร! ฟังไม่ผิดหรอกครับ เอาละมาดูรายละเอียดกัน ซึ่งร้านที่พวกเขาไปต่อแถวเป็นร้านดังมากในย่านนั้น และทำอาหารได้ออกมาอร่อยเลิศผู้คนส่วนมากที่มาต่อแถว ยอมเสียเวลาเพื่อที่จะได้กินอาหารร้านนั้นแต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ ไม่มีเวลาแต่มีกำลังที่จะซื้อ เด็กๆนักศึกษาเหล่านั้นมารอตั้งแต่ร้านอาหารยังไม่เปิด พวกเขาได้คิวลำดับแรกๆและขายคิวให้กับคนที่ไม่มีเวลาได้มาซื้ออาหาร โดยแรกกำเงินจำนวน5ดอลลาร์/คิว พวกเขาทำเงินได้ทั้งหมด 50ดอลลาร์ในเวลาเพียง 1ชั่วโมงเท่านั้น แน่นอนพวกเขาได้กำไรที่มากโขทีเดียวเครดิตภาพ : Gerd Altmann : pixabay.com/ กลุ่มที่4 : กลุ่มสุดท้ายพวกเขาเหล่านี้ทำให้ผมอึ้งในความคิดของพวกเขา พวกเขาไม่ต้องเสียเเรงไปซื้อของ เพื่อมาขายต่อ พวกเขาไม่ต้องเสียเวลาในการไปต่อคิวซื้ออาหาร แต่พวกเขาใช้วิธีการพูดเพียงไม่กี่นาที เท่านั้นเด็กๆกลุ่มนี้ได้เข้าไปในบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งโดยยื่นข้อเสนอว่าในห้องเรียนของพวกเขามีนักศึกษาอยู่ประมาณเกือบๆ100คน และผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นสิ่งที่นักศึกษาต้องการ พวกเขาเหล่านั้นโน้มน้าวบริษัทให้ลองคิดภาพตามว่าพวกเขามีเวลา3นาทีในการพรีเซนต์สินค้าของบริษัทให้กับเพื่อนๆของเขาปกติแล้วบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้จะต้องจ่ายค่าโฆษณาในสื่อต่างๆหลายพันดอลลาร์เพื่อแลกกับโฆษณาไม่ถึง1นาที นักศึกษายื่นข้อเสนอว่าพวกเขาสามารถโฆษณาสินค้านั้นได้ 3นาทีอีกทั้งผู้ฟังโฆษณาเป็นเพื่อนๆของพวกเขา โดยแรกกับค้าตอบแทนตามที่บริษัทเป็นผู้เสนอมา ปรากฏว่าบริษัทนั้นได้ให้เงินจำนวน1,000ดอลลาร์ (ตีเป็นเงินไทยประมาณ33,000บาท ) เพื่อแลกกับผลิตภัณฑ์ที่นักศึกษาต้องนำเสนอในชั่วโมงพรีเซนต์ที่มีนักศึกษาในชั้นเรียนอื่นเข้ามาฟังด้วย แน่นอนกลุ่มนี้ทำให้อาจารย์และเพื่อนๆ ของเขาต้องขนลุกกับวิธีการคิดของพวกเขา และผู้ชนะที่ได้กำไรมากที่สุดคือ กลุ่มที่4!!!เครดิตภาพ : Nikolay Georgiev :pixabay.com เห็นมั้ย? แค่เปลี่ยนความคิดอะไรๆก็สามารถเป็นไปได้เครดิตภาพ : Alexander Lesnitsky : pixabay.com เครดิตภาพหน้าปก : ElisaRiva pixabay.com เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !