รีเซต

แห่ลงทะเบียนคนละครึ่ง เฟส 3 พุ่ง 22 ล้านคน 'จุรินทร์' ชงขยายเวลาลดค่าจีพี 'ดิลิเวอรี' 3 เดือน

แห่ลงทะเบียนคนละครึ่ง เฟส 3 พุ่ง 22 ล้านคน 'จุรินทร์' ชงขยายเวลาลดค่าจีพี 'ดิลิเวอรี' 3 เดือน
มติชน
15 มิถุนายน 2564 ( 09:44 )
39
แห่ลงทะเบียนคนละครึ่ง เฟส 3 พุ่ง 22 ล้านคน 'จุรินทร์' ชงขยายเวลาลดค่าจีพี 'ดิลิเวอรี' 3 เดือน

 

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานการเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะ 3 (เฟส 3) เป็นวันแรก เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเริ่มเปิดลงทะเบียนในเวลา 06.00 น.พบว่าการลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตังไม่สามารถลงทะเบียนได้เป็นเวลานานร่วม 3 ชั่วโมง โดยเมื่อกดเข้าแอพพ์ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้เพราะหน้าต่างแรกของแอพพ์เกิดอาการค้าง จนเมื่อเวลา 09.00 น. แอพพ์สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

 

 

ขณะที่การลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com สามารถลงทะเบียนได้ตามปกติ ซึ่งครั้งนี้ประชาชนตื่นตัวกับการลงทะเบียนเป็นอย่างมาก เพียงครึ่งชั่วโมงแรกของการเปิดให้ลงทะเบียน เมื่อเวลา 06.30 น.มียอดผู้ลงทะเบียนแล้ว 5.5 ล้านคน ยิ่งระบบแอพพ์เป๋าตังกลับมาใช้งานได้เป็นปกติในเวลา 09.00 น. พบว่ายอดผู้ลงทะเบียนพุ่งขึ้นสูงถึง 15.7 ล้านคน และเพียงครึ่งวัน ในเวลา 12.00 น. มียอดผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้นถึง 20.2 ล้านคน กระทั่งช่วงบ่ายยอดลงทะเบียนเริ่มช้าลง

 

 

กระทั่งเวลา 16.00 น.คงเหลือยอดสิทธิในการลงทะเบียนเพียง 9.08 ล้านคน จากจำนวนสิทธิทั้งหมดของโครงการ 31 ล้านคน หรือมีผู้ลงทะเบียนแล้ว 21.92 ล้านคน กระทั่งเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียลว่าจะการตัดสิทธิผู้ลงทะเบียนหลังมีการตรวจสอบคุณสมบัติหรือไม่ เนื่องจากครั้งนี้เปิดให้ลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด และต้องกรอกรายละเอียดผู้ขอสิทธิ โดยมีอยู่ข้อหนึ่งที่ระบุถึงรายได้ที่ได้รับตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงระดับ 5 หมื่นบาท

 

 

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลักเกณฑ์ของผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 กำหนดเพียงการเป็นประชาชนสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ หรือไม่ใช้สิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จะได้รับสิทธิคนละครึ่งทั้งหมดจนกว่าจะครบจำนวนไม่เกิน 31 ล้านคน

 

 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ จะเสนอการขยายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มจากนำร่องในวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ขยายเป็นอันดามันแซนด์บ็อกซ์ หลังจากนั้น 1 เดือน พร้อมปรับหลักเกณฑ์คือ ลดเวลาการกักตัวจาก 14 วัน เหลือ 7 วัน เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติก่อนเดินทางเข้าไทยก็ต้องมีการฉีดวัคซีนและมีวัคซีนพาสปอร์ตยืนยัน ซึ่งจะเป็นการจูงใจนักท่องเที่ยวและบริษัทนำเข้า รวมถึงธุรกิจด้านท่องเที่ยวในพื้นที่ได้มีการกำหนดแผนการทำตลาดหรือจัดแพคเกจเป็นการเฉพาะ อีกทั้งกระตุ้นและกระจายรายได้จากนักท่องเที่ยวให้แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีความพร้อมรับนักท่องเที่ยวเหมือนกัน เช่น แพคเกจเที่ยวภูเก็ต-พังงา-กระบี่ ครั้งเดียว เช่น แพคเกจเที่ยวภูเก็ต-พังงา-กระบี่ ครั้งเดียว

 

 

นายจุรินทร์กล่าวว่า นอกจากนี้ จะติดตามเรื่องการผลักดันจัดสรรการฉีควัคซีนให้กับกลุ่มเปราะบาง เช่น ซาเล้ง คนพิการ คนงานทั่วไป รวมถึงเรื่องความช่วยเหลือและเยียวยาโดยเฉพาะร้านอาหารในโครงการ “จับคู่ กู้เงิน” ในช่วงสัปดาห์แรก ตั้งแต่วันที่ 7-14 มิถุนายนนี้ มีผู้ประกอบการยื่นขอกู้เงิน รวม 3,001 ราย วงเงินยื่นกู้ รวม 880 ล้านบาท และยื่นขอให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกัน 188 ราย จึงสั่งการให้ขยายโครงการไปต่างจังหวัด เช่น จังหวัดภูเก็ตจะเริ่มโครงการวันที่ 16 มิถุนายนนี้ โดยมีร้านอาหาร 300 ราย แสดงความจำนงแล้ว และจะขยายโครงการลดค่าครองชีพให้ประชาชน อาทิ เจรจาเจ้าของแพลตฟอร์มลดเก็บค่าบริการจัดส่ง (ดิลิเวอรี) หรือค่าจีพีจะสิ้นสุดเดือนมิถุนายนนี้ ให้ขยายออกไปอีกเป็น 3 เดือน ขยายรถโมบายจำหน่ายสินค้าในต่างจังหวัด และลดค่าใช้จ่ายการค้าบนออนไลน์ เป็นต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง