ถ้าพูดถึงคำว่า “ศิลปะ” หลาย ๆ คนอาจนึกถึง ผลงานการภาพวาด ราตรีประดับดาว ของจิตรกรชาวดัตช์ ฟินเซนต์ วิลเลิม ฟัน โคค หรือที่เรารู้จักในชื่อ วินเซนต์ แวน โก๊ะ และอีกหลายคน อาจนึกถึง ผลงานดนตรีหรืองานแสดงละครต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดสุนทรียภาพ และความประทับใจ แต่ “ศิลปะ” ที่กำลังจะพูดถึงนี้คือศิลปะที่เกิดจากพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์เช่นเดียวกัน หากแต่สิ่งที่แตกต่างไปนั้นคือ การสร้างผลงานศิลปะชิ้นนี้คือการแต่งแต้มความคิดสร้างสรรค์อยู่บนเรือนร่างของมนุษย์การรังสรรค์ผลงานบนเรือนร่างมนุษย์นี้เป็นวัฒนธรรมที่ได้รับการยอมรับและนิยมในโลกตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา โดยเรียกว่า แดร็กควีน (Drag Queen) หรือมักจะเรียกศิลปะประเภทนี้สั้น ๆ ว่า แดร็ก (Drag) ซึ่งในสหรัฐอเมริกา ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นเพศชายที่แต่งตัวเลียนแบบ (impersonate) เพศหญิง เพื่อทำการแสดงทั้ง ร้อง เต้น เล่นละคร และที่เรารู้จักกันดีนั่นคือการ ลิปซิงค์ (Lip Sync)อะไรคือจุดประสงค์ของการเป็นแดร็กควีนศิลปะของเหล่าแดร็กควีนนั้น หลายคนมีแรงบันดาลใจซุปเปอร์สตาร์ที่ตนชื่นชอบ และอีกหลายคนเพียงแค่อยากนำเสนออีกด้านหนึ่งของตนเองออกมา การเป็นแดร็กควีนนั้น ไม่ใช่เพียงแค่การทำตัวเหมือนผู้หญิง แต่งหน้า หรือ แต่งตัวเหมือนผู้หญิงเพียงเท่านั้น แต่การเป็นแดร็กควีนคือการนำความคิดสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจ ถ่ายทอดผ่านการแต่งหน้า แต่งตัว การแสดง และที่สำคัญ คือบุคลิกภาพที่ตนได้สร้างขึ้น (drag persona) จุดประสงค์ของการเป็นแดร็กควีนนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยส่วนใหญ่เหล่าแดร็กควีนมักจะเป็นนักแสดง หรือสร้างความบันเทิง สุนทรียภาพ และความประทับใจให้กับผู้ชม แต่อีกมุมหนึ่งการเป็นแดร็กควีนไม่ได้เป็นแค่เพียงการสร้างความบันเทิงให้กับผู้อื่น หากแต่เป็นการสร้างศิลปะที่เกิดจากพลังความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดความสุนทรี และความพอใจในตนเองอีกด้วยแดร็กควีนต่างจากการแต่งกายเพศหญิงอย่างไรแดร็กควีนนั้นไม่ได้เป็นเพียงการแต่งหน้าแต่งกายข้ามเพศเพียงเท่านั้น แต่แดร็กควีนยังเป็นการสร้างศิลปะชิ้นเอกที่เลียนแบบเพศหญิง และเนรมิตรตัวตนอีกตัวตนหนึ่งขึ้นมาบนเรือนร่างผู้ชาย การเป็นแดร็กควีนนับว่าเป็นการท้าทายความต้องการจากเบื้องลึกในใจ และนำเสนออีกด้านหนึ่งผ่านตัวตนหนึ่งที่สร้างขึ้นก็ว่าได้ เพราะการแต่งตัวของแดร็กควีนนั้นมักจะมีความเหนือขั้นกว่าการแต่งหน้าแบบปกติทั่วไปที่เราเคยเห็นเพศหญิงแต่งกัน ซึ่งการแต่งตัวแบบแดร็กควีนนั้นส่วนใหญ่จะเน้นการแต่งหน้าที่เกินจริง และชัดเจน ทั้งนี้ทั้งนั้นรูปแบบการแต่งตัวขึ้นอยู่กับความพอใจที่ผู้แต่งอยากจะสร้างขึ้น โดยการแต่งตัวของแดร็กควีนนั้นก็เป็นการสื่อถึงบุคลิกภาพที่โดดเด่นที่ตนสร้างขึ้นมาอีกด้วย รูพอล แดร็กควีนชื่อดังชาวอเมริกัน เจ้าของรายการ Rupaul’s Drag Race รายการประกวดแดร็กควีนเพื่อเฟ้นหาแดร็กซุปเปอร์สตาร์หน้าใหม่ ได้พูดว่า “ฉันไม่ได้เลียนแบบการเป็นผู้หญิง มีผู้หญิงสักกี่คนกันที่ใส่ส้นสูงหนา 7 นิ้ว ใส่วิกสูง 4 ฟุต พร้อมกับชุดที่แน่นแนบเนื้อขนาดนั้น” และรูพอลยังได้พูดอีกว่า “ฉันไม่ได้แต่งตัวเหมือนกับผู้หญิง ฉันแต่งตัวเหมือนแดร็ก” จากที่รูพอลได้พูดไว้นั้นเห็นได้อย่างชัดเจนว่า การแต่งตัวเป็นแดร็กนั้นแตกต่างจากการแต่งตัวเหมือนผู้หญิงทั่วไปดังนั้น “แดร็กควีน” ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาบนร่างกายของมนุษย์แต่ละคน มีจุดประสงค์ที่แตกต่าง และมีรูปแบบที่หลากหลาย หากแต่สิ่งเหล่านี้เกิดจากพลังความคิดสร้างสรรค์และส่งผลให้เกิดสุนทรีภาพ และความประทับใจแล้วนั้น ก็ถือได้ว่า “แดร็กควีน” เป็นอีกแขนงของงาน “ศิลปะ” ที่ช่วยเยียวยาจิตใจมนุษย์ดังเช่นกับผลงาน “ศิลปะ” ชิ้นอื่น ๆ ขอบคุณรูปภาพจาก instagram: @thegigigoode และ @rupaulsdragraceภาพที่ 1 https://www.instagram.com/p/B94t8zmJsfd/?utm_source=ig_web_copy_linkhttps://www.instagram.com/p/By_LNrzJTeQ/?utm_source=ig_web_copy_linkhttps://www.instagram.com/p/B-PxE3gJKel/?utm_source=ig_web_copy_linkhttps://www.instagram.com/p/B9e2TGoJZ18/?utm_source=ig_web_copy_linkภาพที่ 2 https://www.instagram.com/p/B9Rw7-4p83E/?utm_source=ig_web_copy_linkภาพที่ 3 https://www.instagram.com/p/B9FkD_aJ7Rw/?utm_source=ig_web_copy_linkภาพที่ 4 https://www.instagram.com/p/B9FkD_aJ7Rw/?utm_source=ig_web_copy_linkภาพที่ 5 https://www.instagram.com/p/B8MQFmGp1Eh/?utm_source=ig_web_copy_link