RMF ย่อมาจากคําว่า “Retirement Mutual Fund” หรือเรียกในชื่อไทยว่า “กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ” เป็นกองทุนรวมประเภทที่ส่งเสริมให้เกิดการ ออมเงินระยะยาวไว้สําหรับใช้จ่ายยามเกษียณอายุหรือตอนแก่ เผื่อในกรณีที่ลูก แยกไปมีครอบครัวใหม่ แล้วเค้ามีภาระเยอะ (มองโลกในแง่ร้ายไปรึเปล่า 555) ซึ่งจะคล้าย ๆ กับกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) ของภาคเอกชน และกองทุนบําเหน็จบํานาญ ข้าราชการ (กบข.) (Government Pension Fund) ของข้าราชการ นั้นเองครับ รูปภาพโดยนักเขียนสำหรับกองทุนรวม RMF เป็นที่นิยมและได้รับความสนในอย่างมากเป็นเพราะว่า ได้รับการสนับสนุนจากทางการเรื่องสิทธิ ประโยชน์ทางภาษี เพื่อจูงใจให้ผู้สนใจลงทุนมีการเก็บออมในระยะยาวสําหรับชีวิตหลังเกษียณ แต่พวกเราเองที่เป็นลงทุนก็ต้องปฏิบัติ ตามเงื่อนไขการลงทุนต่าง ๆ จึงจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเคร่งครัด แนะนำว่าให้ทำตามกฎของการลงทุนในกองทุน RMF ให้ครบทุกข้อ เพื่อที่จะได้ไม่เสียสิทธิประโยชน์ครับ มาดูกันเลยครับว่า RMF เหมาะกับใครบ้าง กองทุน RMF เหมาะสําหรับคนทุกกลุ่มที่ต้องการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มคนดังต่อไปนี้1. ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น คนทำงานด้านออนไลน์ พวก Youtuber ช่างภาพ ครีเตอร์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ แบบผมเป็นต้น2. ลูกจ้างที่นายจ้างยังไม่พร้อมที่จะจัดให้มีกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ ทําให้ลูกจ้างไม่สามารถสะสมเงิน ลงทุนเพื่อวัยเกษียณได้ นั้นก็คือเราต้องหาวิธีลงทุนเองนั้นแหละครับ3. ข้าราชการที่มีสวัสดิการออมเงินเพื่อวัยเกษียณอยู่แล้ว แต่ต้องการจะออมเพิ่มเติมให้มากขึ้นเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้เต็มวงเงิน 500,000 บาท รูปภาพโดยนักเขียนส่วนเงื่อนไขการลงทุนของ RMF มีดังต่อไปนี้ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี การลงทุนใน RMF มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้1. เมื่อลงทุนแล้ว เราต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยซื้อหน่วยลงทุนของ RMF ไม่น้อยกว่าปีละ 1 ครั้ง2. ลงทุนขั้นตํ่า 3% ของเงินได้ในแต่ละปี หรือ 5,000 บาท ขั้นกับว่าเงินจํานวนไหนของเราจะตํ่ากว่าครับ3. ต้องไม่ระงับการซื้อหน่วยลงทุนเกินกว่า 1 ปี ติดต่อกัน (ยกเว้นปีที่เราไม่มีเงินได้ก็ไม่ต้องลงทุน)4. การขายคืนหน่วยลงทุนทําได้เมื่อผู้ลงทุนอายุไม่ตํ่ากว่า 55 ปี โดยจะต้องลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (การนับ 5 ปี ให้นับเฉพาะปีที่มีการซื้อหน่วยลงทุนเท่านั้น หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ปีไหนที่พวกเราไม่ลงทุน จะไม่นับว่ามีอายุการลงทุนในปีนั้น ๆ) นั้นเองครับสรุปแล้วสิทธิประโยชน์ทางภาษีของ RMF มีดังนี้ คือเงินลงทุนในกองทุน RMF สามารถนํามาหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงิน ได้ในปีภาษีนั้น และเมื่อรวมเข้ากับเงินกองทุนสํารองเลี้ยงชีพหรือกองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ (กบข.) และประกันชีวิตแบบบํานาญที่ผู้ลงทุนมีอยู่ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี หรือ 15%ของเงินได้ ซึ่งการได้รับสิทธิ ประโยชน์ทางภาษีนี้ ให้นับตามเวลาแบบวันชนวัน ตั้งแต่วันแรกที่ได้เริ่มลงทุนนั้นเองครับ ที่มา pixabay.com/th/photos/หุ้น-ซื้อขาย-จอมอนิเตอร์-ธุรกิจ-1863880 ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านครับ Draft Indy