เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงรู้จักและเคยใช้กระดาษโน้ตหรือ post-it ในชีวิตประจำวันกันอยู่แล้วนะคะ เจ้ากระดาษแผ่นเล็ก สีสันสดใสเหล่านี้จะช่วยให้การเรียนของเราดีขึ้นได้ยังไง ลิตาอยากชวนเพื่อนๆมาลองใช้เทคนิคดีๆ จากหนังสือ “เทคนิคเรียนเก่งด้วยกระดาษโน้ต ฉบับเด็กโทได” เล่มนี้กันค่ะเขียนโดย คุณชิมิสุ อากิฮิโระ แปลโดย คุณอนิษา เกมเผ่าพันธ์ ของสำนักพิมพ์อัมริทนร์ฯ ราคาปก 225 บาท (แอบกระซิบ ลิตาซื้อในช่วง 10.10 ได้มาในราคา 170 บาทค่ะ)ผู้เขียนได้เขียนบอกเล่าเรื่องราวของตนเองตั้งแต่วัยเด็กที่ชื่นชอบการติดสติ๊กเกอร์เป็นชีวิตจิตใจ แต่มีปัญหาเรื่องการจำเนื้อหาการเรียนที่มีมากจนจำไม่ไหว มักจะจำผิดพลาด จำสับสน จนรู้สึกอยากจะพัฒนาตนเองให้จำได้ดีขึ้น เลยคิดเทคนิควิธีพัฒนาการเรียนของตนเองด้วยกระดาษโน้ตขึ้นมา โดยได้นำเสนอเทคนิคการใช้กระดาษโน้ตตามแบบฉบับของตนเองเอาไว้หลายเทคนิคด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น เทคนิคประตูความจำทำคะแนนสอบให้พุ่ง เทคนิคเมตริกซ์ของการจัดสรรเวลา ที่ช่วยทำให้ชีวิตที่วุ่นวาย ถูกทำให้ผ่อนคลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หนังสือเล่มนี้ออกแบบให้ผู้อ่านสามารถอ่านได้ทั้งในฐานะของผู้ปกครอง และฐานะของผู้เรียนเอง พูดง่ายๆก็คือสามารถอ่านกันได้ทั้งครอบครัวแล้วเอาเทคนิคไปใช้ด้วยกันจะยิ่งสนุกขึ้นค่ะ เทคนิคที่ลิตาประทับใจมากๆจากหนังสือเล่มนี้คือเทคนิคที่มีชื่อว่า “ประตูความจำ” เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เตรียมตัวสอบหรือผู้ที่ต้องการพัฒนาความจำของตนเอง เทคนิคนี้ลิตาอ่านแล้วลองทำตามทันที ผลที่ได้คือ ความรู้สึกสนุกและช่วยให้เราจำสิ่งที่อยากจำได้ดีจริงๆค่ะ วิธีการง่ายมากๆ ทุกคนทำตามได้แน่นอนเริ่มจากเราต้องการจำเนื้อหาหรือคำศัพท์อะไรให้จดเนื้อหา(ทำเป็นคำถามเพื่อให้ตัวเองตอบ) หรือคำศัพท์นั้น ลงบนกระดาษโน้ต เขียนเฉลยไว้ด้านหลังได้ค่ะ เผื่อนึกไม่ออกจริงๆเปิดดูได้จากนั้นเอาไปแปะไว้ที่ประตูห้องนอนหรือประตูห้องน้ำ โดยมีกติกาว่า ทุกครั้งที่จะเปิดประตู เราจะต้องตอบคำถาม หรือบอกความหมายของคำศัพท์ที่เราเขียนไว้ได้ครบทุกแผ่น จึงมีสิทธิ์เปิดประตูค่ะเพิ่มความยากขึ้นไปอีกนิดก็คือ เมื่อเปิดออกไปก็แกะกระดาษนั้นออกไปแปะอีกด้านของประตูด้วย พอจะกลับเข้ามาก็ต้องทดสอบตัวเองอีกรอบแบบนี้รับรองว่าจำได้ขึ้นใจแน่นอนค่ะ ยิ่งถ้าปวดห้องน้ำหนักๆยิ่งเป็นการกระตุ้นให้เราเร่งความเร็วในการทบทวนความจำของเรามากขึ้นด้วยจริงไหมคะ 55 แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ให้ผ่านสักครั้งเถอะค่ะพอทำหลายครั้งและมั่นใจว่าจำได้แล้ว สามารถเก็บกระดาษแผ่นนั้นลงกล่องหรือติดสมุดไว้ เมื่อครบ 3 วัน หรือ 1 สัปดาห์เอามาทบทวนอีก แบบนี้มั่นใจได้เลยค่ะ ว่าจำได้แน่นอนเทคนิคต่อมาคือ เทคนิคการจัดสรรเวลาโดยใช้เมตริกซ์มาช่วยจัดการ เทคนิคนี้ช่วยให้ชีวิตที่เต็มไปด้วยภารกิจมากมายที่ต้องทำ หรือสิ่งที่เราอยากทำ (เล่นเกม เล่นโซเชียล) ถูกจัดสรรได้อย่างลงตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น วิธีการก็คือเขียนทุกภารกิจ และทุกสิ่งที่เราอยากทำใน 1 วัน 1 สัปดาห์หรือ 1 เดือนของเรา ลงไปบนกระดาษโน้ต แนะนำว่าเขียน 1 ภารกิจต่อกระดาษโน้ต 1 แผ่น เพื่อง่ายต่อการจัดกลุ่มค่ะ จากนั้นนำไปจัดลำดับความสำคัญบนกราฟเมตริกซ์ขนาดใหญ่ ตามภาพตัวอย่างค่ะแล้วค่อยๆเคลียร์ที่ละภารกิจเริ่มจากฝั่งขวาของกราฟไล่มาจนฝั่งซ้ายแบบนี้เราจะจัดการตนเองได้ดีขึ้น เป็นเทคนิคที่น่าสนใจ และอยากแนะนำให้ลองทำจริงๆค่ะ ลิตามองว่าได้ทั้งความสนุกเวลาได้ดึงกระดาษแต่ละแผ่นออกและได้มองเห็นชัดว่า อะไรคือสิ่งที่ไม่ได้มีความสำคัญจริงๆในชีวิตเรา ดังนั้นเราจะได้เวลากลับมามากขึ้นด้วยค่ะยังมีเทคนิคดีๆในการใช้กระดาษโน้ตอีกหลายวิธีจากหนังสือเล่มนี้ ที่ช่วยให้เรามีความจำดีขึ้น สนุกไปกับการมอบเควสให้ตัวเอง (55นึกถึงตอนเล่นเกมค่ะ) และพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้จริง ใครที่สนใจอยากรู้รายละเอียดในเชิงลึกและอยากเรียนรู้เทคนิคการเรียนให้มากกว่านี้ ลิตาขอแนะนำว่าต้องอ่านค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองที่จะนำไปใช้กับคุณลูก หรือเพื่อนๆน้องๆที่ต้องการเทคนิคง่ายๆ ใช้ได้จริง ไปพัฒนาการเรียน และความจำของตัวเอง อ่านเลยค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอนลิตาขอให้คะแนนหนังสือเล่มนี้สักหน่อย- ความง่ายในการอ่านหรือทำความเข้าใจ 10/10- เทคนิคที่แนะนำทำตามง่ายใช้ได้จริง 10/10เพื่อนๆที่อ่านแล้วให้คะแนนเท่าลิตาไหมคะ คอมเมนต์แลกเปลี่ยนกันได้นะคะภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !