สาวสุรินทร์ร้องทุกข์ ถูกผู้ใหญ่บ้านลวนลามกัดช้ำทั่วตัวหวังขืนใจขณะเมาหลับ
สาวสุรินทร์ร้องทุกข์ ถูกผู้ใหญ่บ้านลวนลามกัดช้ำทั่วตัวหวังขืนใจขณะเมาหลับ
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางสาวอัมพรพรรณ เลไทสงค์ อายุ 35 ปี ชาวจ.สุรินทร์ เพื่อขอความเป็นธรรม ว่าเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้ถูกผู้ใหญ่บ้านศรีสำโรง ซึ่งเป็นเครือญาติ มีศักดิ์เป็นอาที่เคารพนับถือ ชวนดื่มเบียร์ภายในร้านอาหาร ชื่อ”ร้านยายนาตาเฒ่า”อยู่ตรงข้ามบ้านของผู้ใหญ่บ้านศรีสำโรง ต.แคน อ.สนม โดยมีพี่สาวของตนนั่งดื่มด้วย จากนั้นก็ได้ชวนกันไปกินต่อที่บ้านแจนแวน ซึ่งเป็นบ้านญาติของผู้ใหญ่บ้าน สักพักพี่เขยก็มารับพี่สาวตนกลับไปก่อน เหลือตนกับผู้ใหญ่สองคน พี่สาวตนก็ไม่คิดอะไร ไว้ใจเพราะนับถือเป็นอา ปกติก็กินด้วยกันแบบนี้ตลอดไม่เคยมีปัญหาอะไร ระหว่างที่กินกันด้วยความที่เคยหยอกล้อกันก็ไม่คิดอะไร เขาก็มากัดที่หลังอย่างแรง ตนก็เลยถีบแบบหยอกล้อกัน และไม่คิดว่าเขาจะคิดอะไรกับตนเอง
ต่อมาประมาณทุ่มกว่าๆ ก็เลยพากันกลับบ้าน ระหว่างที่ขับรถมา ตัวผู้ใหญ่บ้านให้แวะกินต่ออีกบ้าน ตอนนั่งกินนั้นก็มีคนแก่อยู่กินด้วยในบ้านและก็มีคนที่รู้จักกันมานั่งคุยด้วยอีกคนหนึ่ง แต่ไม่ได้กินเหล้าด้วย ก่อนจะขอตัวกลับไปนอนก่อน ตนก็ไม่คิดอะไรเพราะว่ากลับมาถึงหมู่บ้านตนแล้ว จากนั้นตนก็เมาแบบไม่รู้สึกตัวไปเลย พอรู้สึกตัวมาอีกทีพบว่าตัวเองนอนเปลือยพอหันไปพบผู้ใหญ่บ้านนอนอยู่ข้างๆ และพยายามปล้ำตน ตนก็พยายามปกป้องตัวเอง ขอร้องพูดกับเขาดีๆว่าอย่าทำหลาน เพราะกลัวว่าเขาจะทำร้ายหรือฆ่าก็เป็นได้ ใช้เวลานานพอสมควรจึงสามารถขอร้องเขาออกมาได้ เมื่อกลับมาถึงบ้านสำรวจตัวเองแล้วพบว่าเป็นรอยเขียวช้ำไปทั้งตัว
และต่อมาตนเองได้รับข้อความทางไลน์ ระบุว่า “ยู่ไส หงกูหมา แจ้งความฮาวนะ สิเอาให้ตาย 15 ปีบ่หลายเดอ” ตนรู้สึกกลัว จึงได้มาปรึกษาพ่อและให้พ่อพาไปแจ้งความ ที่สถานีตำรวจภูธรสนม เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุให้กับผู้หญิงอื่นๆอีก โดยมีพ.ต.ต.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวนรับเรื่องเอาไว้และให้ตนเองไปหาหมอเพื่อตรวจที่โรงพยาบาล ซึ่งได้แจ้งความตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.ก็ยังไม่มีความคืบหน้า และยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากตำรวจ ผู้ใหญ่บ้านก็ยังลอยนวล ไปพูดให้ตนเสียๆหายๆ พูดอยู่ฝ่ายเดียว แล้วตนจะมาทำแบบนี้ทำไม ลูกผัวตนก็มี นอกจากนั้นยังได้ยินเขาพูดลอยๆออกมาว่ามีคลิปอีกด้วย จึงมาร้องสื่อขอความเป็นธรรมในครั้งนี้
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับ พ.ต.ต.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวนที่ สภ.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์ ได้รับคำตอบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ จะรวบรวมพยานหลักฐาน และจะเชิญผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหา มาสอบสวนเพิ่มเติม หากพบมีการกระทำผิดตามที่ผู้เสียหายกล่าว่า ก็จะดำเนินคดีตามกฏหมาย ต่อไป และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ตามกระบวนการกฏหมายต่อไป