เงินเฟ้อพลิกติดลบในรอบ 25 เดือน จับตาความคืบหน้ากระเป๋าเงินดิจิทัล
#เงินเฟ้อ #ทันหุ้น – บล.กสิกรไทยระบุว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนที่แล้วและต่ำกว่าที่ตลาดคาดเนื่องจากการปรับตัวลดลงของราคาเนื้อสัตว์และมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพที่ลดลง
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเข้าสู่โซนภาวะเงินฝืดเป็นครั้งแรกในรอบ 25 เดือน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวใกล้ศูนย์
สถานการณ์เงินเฟ้อที่บรรเทาลงทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง แต่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะปัจจัยจากโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล
Key data
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ต.ค. 2566อยู่ที่ -0.28% MoM และ -0.31% YOY (เทียบกับประมาณการของตลาดที่ +0.15% MM และ +0.05% YOY) กระทวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ต.ค. 2566 ลดลง 0.28% MM และ 0.31% YOY ต่ำกว่าประมาณการของตลาดที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.15% MM และ 0.05% YOY อัตราเงินเฟ้อทั่วไปไม่เพียงแต่ต่ำกว่าสมมติฐานของตลาด แต่ยังปรับตัวลดลงสู่แดนลบเป็นครั้งแรกในรอบ 25เดือน โดยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยช่วง 10เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 1.60%เทียบกรอบล่างของเป้านโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 1-3%
อัตราเงินเฟ้อลดลงจากราคาเนื้อสัตว์และมาตรการบรรเทาค่าครองชีพ ปัจจัยฉุดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญในช่วงเดือน ต.ค. มาจากหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (ที่ไม่มีแอลกอฮอล์) รวมถึงรายการค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย โดยดัชนีราคาอาหารและเครื่องดื่ม (ที่ไม่มีแอลกอฮอล์) ลดลง 0.6% YOY สาเหตุหลักมาจากราคาเนื้อสัตว์ที่ลดลงอย่างมาก โดยลดลงถึง 17.9% YOY ด้นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย ลดลง 0.7% YoY สาเหตุหลักมาจากค่าไฟฟ้า ค่าเชื้อเพลิง และน้ำประปาที่ลดลง 3.2% YOY หลังจากที่รัฐบาลได้อนุมัติมาตราช่วยเหลือค่าครองชีพ โดยอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรหรือค่า Ft ลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 4.72บาทเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเป็น 3.99 บาทต่อหน่วย ซึ่งปรับใช้ตั้งแต่เดือน ก.ย. ถึงเดือน ธ.ค.2566
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวใกล้ระดับศูนย์ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานไม่รวมพลังงาน และอาหารสดขยับขึ้น 0.08% MoM และ 0.66% YOY ในเดือน ต.ค. สูงกว่าระดับ 0.63% YoY ในเดือน ก.ย. เล็กน้อย และเทียบกับ 0.66% YOY สำหรับประมาณการของตลาด ขณะที่ค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องกับการแพทย์และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 1.3% YoY ขณะที่ยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 1.1% YoY สอดคล้องกับกิจกรรมการบริการและกิจกรรมสันทนาการที่ปรับตัวดีขึ้น
Outlook and implications
คาดอัตราเงินเฟ้อจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำใกล้ศูนย์ แรงกดดันด้านเงินเฟ้อของไทยลดลงต่อเนื่องตามแนวโน้มโลก อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อของไทยถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อของประเทศในภูมิภาค อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อไทยได้ปรับลดลงจนสู่แดนลบไปเรียบร้อยแล้วแม้เห็นราคาพลังงานปรับตัวในช่วงที่ผ่านมาและต่ำกว่าเป้าหมายนโยบายที่ 2%เป็นเวลา เดือนติดต่อกัน หากมองไปข้างหน้า อัตราเงินเฟ้ออาจยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ประมาณศูนย์ในไตรมาส 4/2566จากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาลคาดอัตราเงินเฟ้อปี FY2566 คาดว่าจะอยู่ในช่วง 1.0-1.7% (คาดค่ากลางที่ 1.35%)
ความไม่แน่นอนในระยะสั้นยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ไม่เพียงแต่ต่ำกว่าเป้านโยบายที่ 2% แต่ยังอยู่ในโซนเงินฝืดแล้ว โดยสถานการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นการยืนยันการสิ้นสุดรอบการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ทั้งนี้เราคาดว่า ธปท.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50%อย่างน้อยจนถึงปลายปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงที่อาจมีโอกาสในการลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกได้ แม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับราคาต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากฝั่งอุปทาน (cost-push inflation) อาจลดลง โดยเฉพาะหลังดูเหมือนว่าผลกระทบจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางต่อราคาเชื้อเพลิงจะมีค่อนข้างจำกัด แต่อัตราเงินเฟ้ออาจถูกกระตุ้นจากแรงกดดันด้านอุปสงค์โดยเฉพาะโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ในระยะถัดไป ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในวันศุกร์นี้ ดังนั้นเราจึงเชื่อว่าแนวโน้มการลงทุนในระยะสั้นจะยังคงมีความไม่แน่นอน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและ SET Index อาจมีความผันผวนขึ้นอยู่กับตัวเลือกแหล่งเงินทุนสำหรับโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลของรัฐบาล