ภาพปกจาก freepik ท่ามกลางความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานด้านสาธารณสุข ก็มีผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสเขียนข่าวปลอมเรียกยอดไลค์ยอดแชร์ให้เห็นกันได้อยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเนื้อหาในข่าวลวงเหล่านั้นนอกจากจะเป็นการบิดเบือนข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับโควิด-19 ที่ทุกคนควรจะทราบแล้ว ยังอาจสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับผู้ที่เข้าไปอ่านได้อีกด้วย และในบทความนี้ก็ได้รวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับข่าวปลอมที่ได้มีการส่งต่อกันในโลกออนไลน์พร้อมกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาให้ได้ทำความเข้าใจกันค่ะ ภาพจาก freepik 1. พบผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ข่าวปลอมที่มีการระบุว่ามีผู้ติดเชื้อหรือเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่จังหวัดต่าง ๆ หรือตามโรงพยาบาลต่าง ๆ จากคนวงในนั้นถือเป็นหนึ่งในข่าวปลอมที่เรียกได้ว่าร้อนแรงที่สุดในตอนนี้ เพราะด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ค่อนข้างต่ำของประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยยังไม่ได้มีมาตรการห้ามนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเดินทางเข้ามา (เพิ่งประกาศยกเลิกวีซ่าไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563) จึงทำให้หลาย ๆ คนเชื่อว่ารัฐบาลพยายามปกปิดข่าวเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับประเทศไทยอยู่ จนทำให้หน่วยงานหรือโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบต้องออกมาเขียนหนังสือแถลงการณ์แก้ข่าวกันอยู่เรื่อย ๆ ว่าข่าวเหล่านั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด อีกทั้งบุคคลต้นตอของข่าวปลอมเหล่านั้นก็ได้ถูกจับและดำเนินคดีไปแล้วหลายราย ดังนั้นก่อนจะเชื่อแหล่งข่าววงในจากที่ไหนก็ตามควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนทุกครั้งเสมอ ภาพจาก freepik 2. กินสมุนไพรป้องกันโควิด-19 ได้ นอกจากการสร้างข่าวปลอมเรื่องผู้ติดเชื้อแล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่มาแรงไม่แพ้กันเลยก็คือการส่งต่อข้อมูลว่ามียาสมุนไพร ยาบำรุง หรืออาหารเสริมต่าง ๆ ที่สามารถป้องกันหรือรักษาโควิด-19 ได้ อย่างเช่นมีการแชร์ข้อมูลว่าการรับประทานกระเทียมสามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้ซึ่งความเป็นจริงแล้วกระเทียมไม่ได้มีฤทธิ์ใด ๆ ในการยับยั้งเชื้อไวรัส รวมไปถึงฟ้าทะลายโจรที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาแถลงข่าวการค้นพบฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อไวรัสของสารตัวหนึ่งในฟ้าทะลายโจร ซึ่งก็มีสำนักข่าวหลายสำนักเอาไปพาดหัวในลักษณะที่ว่า "สธ.ยืนยันฟ้าทะลายโจรป้องกันโคโรนาไวรัสได้" จนทำให้ยาแคปซูลฟ้าทะลายโจรถึงกับขาดตลาด ซึ่งข้อเท็จจริงก็คือการแถลงข่าวในครั้งนั้นเป็นเพียงการยืนยันฤทธิ์ของสารในฟ้าทะลายโจรจากการทดลองในห้องทดลองเท่านั้น และต้องใช้เวลาในการพัฒนาและวิจัยต่อไป แต่ยังไม่ได้มีการผลิตออกมาเป็นตัวยา รวมทั้งยังไม่มีการยืนยันถึงประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อไวรัสของฟ้าทะลายโจรเมื่อนำมาใช้กับผู้ป่วยจริง ๆ อีกด้วย ภาพจาก freepik 3. แอลกอฮอล์ยิ่งเข้มข้นมากยิ่งฆ่าเชื้อได้ดี แอลกอฮอล์ถือเป็นหนึ่งในสารฆ่าเชื้อโควิด-19 ที่ตอนนี้ไม่ว่าใคร ๆ ก็ถามหา ซึ่งก็มีคนพยายามที่จะโฆษณาขายแอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูง ๆ เช่น 95% โดยใช้คำโปรยว่าสามารถกำจัดเชื้อได้ดีที่สุด ซึ่งในความเป็นจริงการใช้แอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัสเราสามารถใช้ที่ความเข้มข้น 70% ก็มีประสิทธิภาพที่เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ความเข้มข้นสูงแต่อย่างใด และแอลกอฮอล์ 95% ถึงแม้จะเข้มข้นมากกว่าแต่ก็สามารถระเหยได้เร็วกว่าเช่นกัน จนทำให้แอลกอฮอล์นั้นมีระยะเวลาที่สัมผัสกับเชื้อไวรัสสั้นมากจนไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ ดังนั้นเราจึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้แอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูง ๆ หรือถ้าหากซื้อมาแล้วก็ขอแนะนำให้นำไปเจือจางด้วยน้ำโดยใช้วิธีที่ถูกต้องก็จะช่วยให้ประหยัดและได้ใช้แอลกอฮอล์ที่มีประสิทธิภาพด้วยค่ะ ภาพจาก freepik 4. หน้ากากอนามัยแบบผ้า ใช้ผ้าแบบไหนก็ได้ ซักซ้ำกี่ครั้งก็ได้ ในช่วงที่หน้ากากอนามัยกำลังขาดแคลนแบบสุด ๆ ในเวลานี้ ที่ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะยืนยันว่ามีขายทุกที่ในราคาแผ่นละ 2.5 บาท แต่ก็ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยเหล่านั้นได้ จนทำให้หลาย ๆ คนหันมาใช้หน้ากากแบบผ้าทดแทนกันไปก่อน และข้อเท็จจริงอันน่าตกใจที่หลาย ๆ คนยังไม่รู้ก็คือไม่ใช่ผ้าทุกชนิดที่จะเหมาะกับการนำมาทำหน้ากากผ้า เพราะผ้าบางชนิดอาจมีคุณสมบัติในการกรองหรือการดูดซับได้ไม่ดี อีกทั้งการซักซ้ำบ่อยครั้งจะทำให้เนื้อผ้านั้นสูญเสียคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการเป็นหน้ากากอนามัยไป ซึ่งจากการทดสอบของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เกี่ยวกับประสิทธิภาพการต้านการซึมผ่านของละอองน้ำ การกรองอนุภาคผ่านเส้นใย และจำนวนการซักที่เหมาะสมพบว่าผ้าที่สามารถใช้ได้คือผ้าสาลู และ ผ้าฝ้ายมัสลิน ดังนั้นก่อนซื้อหน้ากากอนามัยแบบผ้ามาใช้ควรจะตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่าหน้ากากผ้าที่เรากำลังจะใช้นั้นจะช่วยให้เราปลอดภัยจากการติดเชื้อได้จริง ภาพจาก freepik 5. โควิด-19 ไม่อันตราย ตายน้อยกว่าโรคอื่นเยอะ และสำหรับข้อสุดท้ายที่สำคัญที่สุดก็คือความเข้าใจของคนบางกลุ่มเกี่ยวกับอันตรายของโรคโควิด-19 ว่าโรคนี้เป็นโรคที่ไม่อันตราย ไม่น่ากลัวเท่ากับโรคอื่นที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่า ไม่ต้องป้องกันก็ได้ ซึ่งในความเป็นจริงนั้นถึงแม้ว่าโควิด-19 จะมีอัตราการเสียชีวิตที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อ อีกทั้งปัจจุบันก็มียาและมีวิธีการรักษาให้ผู้ติดเชื้อหายสนิทได้ก็จริง แต่สิ่งที่น่ากลัวของโรคระบาดชนิดนี้คือการแพร่กระจายอย่างควบคุมไม่ได้ต่างหาก และยิ่งหากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไปสู่บุคคลกลุ่มเสี่ยงอย่างเช่นผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางโรค ก็อาจจะทำให้บุคคลกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้เสียชีวิตได้ อีกทั้งหากเกิดการแพร่ระบาดไปทั่วประเทศฝันร้ายที่จะตามมาก็คือบุคคลากรด้านสาธารณสุขจะมีจำนวนไม่เพียงพอต่อการดูแลรักษาคนไข้ ดังนั้นทางที่ดีทุกคนควรจะปฏิบัติตนตามแนวทางป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะสิ้นสุดลงดีกว่า ภาพจาก freepik และสำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่าข่าวที่มีการส่งต่อมานี้เป็นข่าวจริงหรือข่าวปลอม และจะเชื่อถือได้หรือไม่ ขอแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดีทุกครั้งก่อนส่งต่อโดยอาจสอบถามกับบุคลากรทางการแพทย์โดยตรง หรือเข้าไปตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย หรือทางที่ดีที่สุดคือควรเลือกรับข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้เท่านั้น เช่น กรมควบคุมโรค และหากพบเห็นข่าวปลอมที่ไหนก็สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ทันที เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ติดตามผู้กระทำผิดมาสืบสวนและรับโทษต่อไปค่ะ อ้างอิงข้อมูล - กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ - กรมควบคุมโรค