การปลูกต้นไม้หน้าบ้านจะให้ปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ก็คงไม่เหมาะ ดังนั้นลองไม้ประดับที่สามารถปลูกในกระถางได้ มีรูปทรงที่สวยพอเหมาะกำลังน่ารัก เลี้ยงง่าย ไม่ต้องดูแลเยอะ ซึ่งมีให้เลือกทั้งไม้ใบและไม้ดอก มีอะไรบ้างมาดูกันเลย1.ดอกสายน้ำมิ้น ต้นดอกสายน้ำมิ้นมีชื่อเรียกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพวงทองต้น พวงทอง ดอกน้ำผึ้ง พวงทองเครือ พวงทองปีกผีเสื้อ นับว่าเป็นไม้มงคล เชื่อว่าจะเรียกเงินเรียกทองเข้าบ้าน นิยมปลูกเป็นไม้พุ่ม แนวรั้วเพื่อบังกำแพง รวมถึงใช้ตกแต่งเป็นสวนหย่อมหน้าบ้าน โดยจะมีความสูงถึง 1.5 เมตร แถมยังออกดอกตลอดปี ดอกมีสีเหลืองเป็นพวงกลิ่นหอมอ่อนๆสำหรับต้นสายน้ำมิ้นนั้น ค่อนข้างที่จะปลูกง่าย มีดอกตลอดทั้งปี และที่ชอบที่สุดคือดอกของเขาจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆที่ไม่เหมือนใคร ถ้าได้ลองเอาส่วนของดอก นำมาใส่ในน้ำเย็นแล้วดื่มตอนร้อนๆจะยิ่งรู้สึกสดชื่น สำหรับใครที่ชอบกลิ่นดอกไม้ต้องลองดู วิธีปลูก 1.นำกาบมะพร้าวสับ ถ่านหรือใบไม้ มารองก้นกระถางไว้ เพื่อให้น้ำระบายได้ง่ายและเป็นการสะสมธาตุอาหาร ป้องกันการเน่าของรากได้ 2.ใส่ดินปลูกลงไป เว้นระยะขอบด้านบนไว้เล็กน้อย โดยการขยายพันธุ์ของต้นสายน้ำมิ้นสามารถเพาะเมล็ด ปักชำกิ่งและตอนกิ่ง ให้ปลูกลึกลงไปประมาณ 5 - 10 เซนติเมตร แล้วแต่ความสูงของต้น แล้วทำการรดน้ำให้ชุ่ม นำไปวางไว้ในที่มีแดดรำไร พอผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ค่อยนำออกไปวางที่หน้าบ้านได้เลย วิธีการดูแล1.รดน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ3ครั้ง เพราะต้นสายน้ำมิ้นเป็นต้นที่ชอบแดดจัด ออกดอกตลอดทั้งปี และต้องการน้ำในระดับปานกลาง จะเจริญเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุย ข้อควรระวัง : เป็นไม้ที่ไม่ทนน้ำท่วมขัง 2.ต้นแก้วแคระต้นแก้วแคระ เป็นอีกสายพันธุ์ไม้ที่นิยมนำตกแต่งบ้านและสวน มีชื่อเรียกที่เยอะอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นแก้วแคระ แก้วแคระอินโด แก้วขาว แก้วพริก แก้วแคระจิ๋ว หรือแก้วแคระมหามงคล มีลักษณะเป็นพุ่มขนาดเล็ก มีความสูงถึง 4-8 เมตร ถือว่าเป็นไม้มงคลตามความเชื่อ ช่วยส่งเสริมโชคลาภ การเงิน ให้มีความมั่งคั่งร่ำรวย นอกจากนี้ดอกแก้วแคระยังมีกลิ่นหอม โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนจะส่งกลิ่นหอมตลอดทั้งคืน นอกจากนี้ยังนิยมนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยเพื่อใช้ในทางด้านของสุขภาพและความงาม สำหรับต้นแก้วแคระที่ใครหลายๆคนได้ลองปลูกแล้วจะรู้ได้เลยว่าเวลาที่ดอกสีขาวของเขาออกมาพร้อมกันนั้นจะสวยมาก แถมยังดูน่ารักมินิมอล ใช้ตกแต่งในบ้านก็ดี นอกบ้านก็ได้ เหมาะสุดๆกับปลูกไว้ที่บ้าน วิธีปลูก 1.ดินที่ใช้ปลูกให้นำกาบมะพร้าวสับผสมกับดินปลูก เพราะต้นแก้วแคระค่อนข้างชอบดินที่สามารถระบายน้ำได้ดี 2.การขยายพันธุ์ของต้นแก้วแคระ คือการตอนกิ่งและปักชำ ให้นำยอดมี่ปักชำปลูกลงไป ในความลึกประมาณ 5 - 10 เซนติเมตร แล้วแต่ความสูงของต้น แล้วทำการรดน้ำให้ชุ่ม นำไปวางไว้ในที่มีแดดรำไร พอผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์ รอให้รากงอก ค่อยนำออกไปวางที่หน้าบ้านได้เลย วิธีการดูแล1.รดน้ำทุกวัน เพราะต้นแก้วแคระชอบแดดจัดและแดดรำไร 2.สามารถบำรุงโดยการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดก็ได้ เพราะจะทำให้ต้นแก้วแคระมีทรงเป็นพุ่มสวยออกดอกดี เคล็ดลับ : ถ้าอยากให้ต้นแก้วแคระออกดอกเรื่อยๆ ให้ทำการเด็ดลูกทิ้งให้หมด เพราะเวลาที่มีดอกมักจะมีกิ่งที่ออกลูกออกมาเสมอ ถ้าหากไม่เด็ดออกดอกต้นจะไม่ผลิตสารอาหารให้และจะหยุดการเจริญเติบโตของดอกไปในที่สุด ข้อควรระวัง : ควรปลูกในดินร่วน การระบายต้องดี เพราะรากค่อนข้างโตเร็ว 3.ยางอินเดียยางอินเดียเป็นไม้ที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว คนส่วนใหญ่มักจะนิยมปลูกในบ้านและรอบๆ ตัวบ้าน เพราะเป็นไม้ประดับที่สามารถฟอกอากาศได้ ซึ่งในส่วนของลำต้นเมื่อโตเต็มจะสามารถสูงได้มากถึง 10-30 เมตร และมักจะมีรากอากาศห้อยย้อยออกมาจากกิ่ง ในส่วนของดอกจะมีดอกสีขาว สามารถเจริญเติบโตได้ดีในแดดจัดและแดดรำไร กลางแจ้งและที่มีแสงน้อย ถ้าปลูกกลางแจ้งต้นจะสูงไม่มากนัก ต้องการน้ำปานกลาง ไม่ชอบน้ำขังแฉะ ระบบรากแผ่ได้ไกลจึงไม่ควรปลูกชิดอาคาร เมื่อต้นสมบูรณ์จะแตกรากอากาศตามลำต้นห้อยย้อยดูสวยงาม ให้ร่มเงาได้ดี ควรตัดแต่งกิ่งล่างให้โล่ง ในการปลูกต้นยางอินเดียจะรู้ดีเลยว่าเป็นต้นไม้ที่คลาสสิค มินิมอล กับได้กับทุกสไตล์ของบ้าน แถมยังมีให้เลือกหลายสี ไม่ว่าจะสีดำ สีเขียวหรือด่าง ต่างก็สวยไม่แพ้กัน วิธีปลูก1.ดินที่ใช้ปลูกให้นำกาบมะพร้าวสับ พีทมอส ปุ๋ยคอก ผสมกับดินปลูก เพราะต้นยางอินเดียเป็นไม้ที่รากโตเร็วและชอบแก้วดินที่สามารถระบายน้ำได้ดี 2.การขยายพันธุ์คือให้ทำการปักชำกับการตอนกิ่ง ถ้าหากใช้การตอนกิ่งจะขยายพันธุ์ได้เร็วกว่า พอรากเริ่มแตกก็นำมาปลูกในดินที่เตรียมไว้ได้เลย คือการตอนกิ่งและปักชำ ให้นำกิ่งลงไปปลูก ในความลึกประมาณ 5 - 10 เซนติเมตร ของกระถาง แล้วแต่ความสูงของต้น แล้วทำการรดน้ำให้ชุ่ม นำไปวางไว้ในที่มีแดดรำไร พอผ่านไปประมาณ 1-2 อาทิตย์ รอให้รากใหม่งอก ค่อยนำออกไปวางที่หน้าบ้านได้เลย วิธีการดูแล1.ควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดในส่วนของใบด้วยฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำบิดหมาด อาจจะเช็ดสัปดาห์ละครั้งหรือมากกว่านั้นก็ได้เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้ต้นมีการเจริญเติบโตที่ดี2.ควรเปลี่ยนดินทุกๆปี และควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยนำบำรุงในทุกๆเดือน เพราะรากค่อนข้างจะโตเร็ว อาจจะทำให้สารอาหารในดินหมดเร็ว 3.รดน้ำเป็นประจำ สัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง หรืออาจจะสังเกตหน้าดินว่าแห้งหรือไม่ ถ้าแห้งก็ค่อยรดก็ได้ เคล็ดลับ : ใครที่อยากให้ใบของต้นยางอินเดียดูเงางาม วาววับอยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องเช็ดบ่อย ให้ใช้นมสดชุบผ้าแล้วนำมาเช็ดใบ จะเงางามติดทนนาน ฝุ่นไม่เกาะเร็ว เพราะแคลเซียมและไขมันในนมจะช่วยเคลือบชั้นของผิวใบให้มีความชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ใบเงาสวยอยู่นาน ข้อควรระวัง : 1.หากรดน้ำเยอะเกินไปจนดินแฉะ จะทำให้เกิดโรครากเน่า แต่ถ้าไม่รดน้ำเป็นประจำก็จะทำให้เกิดโรคใบเหลืองหรือใบร่วงได้ ตั้งนั้นควรรถน้ำเป็นเวลาสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง 2.เนื่องจากเป็นไม้ที่โตเร็ว รากมีความแข็งแรงมาก ไม่ควรปลูกลงดิน หากใครที่ปลูกในกระถางก็ควรหาจานรองก้นกระถางด้วย เพื่อที่จะไม่ให้ไปทำลายตัวบ้าน 4. เฟิร์นข้าหลวงตามหลักความเชื่อของคนไทย เฟิร์นข้าหลวง หรือ เฟิร์นข้าหลวงหลังลายช่วยเสริมสร้างเกียรติยศ ความภูมิฐาน และเป็นตัวแทนของความซื่อสัตย์ ยุติธรรม ใบเฟิร์นวงรียาวสีเขียวอ่อนไปจนถึงเขียวแก่ ขอบใบเป็นหยักคล้ายคลื่นน้ำ วางเรียงซ้อนกันเป็นพุ่มสวย โดยส่วนใบอ่อนที่เพิ่งงอกออกมาจะมีลักษณะเปราะบางหักง่าย แต่เมื่อโตเต็มที่แล้วตัวใบจะมีความเหนียว แข็งแรงและไม่เหี่ยวง่ายเฟิร์นข้าหลวงจะเป็นพรรณไม้อีกชนิดหนึ่งที่เรามักจะพบเห็นได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ร้านอาหารหรืออาคาร ห้างร้านต่างๆก็จะมีการนำเฟิร์นข้าหลวงมาใช้สำหรับการตกแต่ง สำหรับเฟิร์นชนิดนี้ค่อนข้างมีเสน่ห์ เพราะใบของเขาที่มันวาว ใบใหญ่สวย มองดูแล้วดูสดชื่น ร่มเย็น น่าอยู่ สำหรับใครที่กำลังมองหาไม้กระถางก็สามารถเลือกเฟิร์นข้าหลวงเป็นอีกหนึ่งพรรณไม้ในการตกแต่งได้ วิธีปลูก 1.ดินที่ปลูกควรเป็นดินที่ร่วน อาจจะมีการผสมทรายหยาบ หรือพวกกาบมะพร้าวสับ ในอัตราส่วน 1:1 ผสมให้เข้ากัน2.นำต้นอ่อนปลูกลงไป และรดน้ำใช้ชุ่ม วางในที่แดดรำไร ถ้าหากมีพื้นที่น้อยก็ปลูกลงกระถาง จะสามารถวางไว้ได้หลายพื้นที่ของบ้าน หรือจะใช้กระถางแบบแขวนก็ได้ วิธีการดูแล1.การให้น้ำอย่างน้อยวันละครั้ง แต่ช่วงไหนที่อากาศชื้น ให้เว้นระยะในการให้น้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อป้องกันรากเน่าได้ 2.บำรุงด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยน้ำเดือนละครั้ง 5.ช้อนเงินช้อนทองช้อนเงินช้อนทองถือว่าเป็นไม้ฟอกอากาศ และเป็นไม้ประดับภายในบ้าน ปลูกได้ทั้งไม้กระถางและบอนไซ สามารถปลูกหรือตั้งไว้หน้าบ้านได้ เนื่องจากเป็นไม้ยืนต้นทรงพุ่ม สามารถมีความสูงได้ถึง 130 -150 เซนติเมตร ด้วยลักษณะของใบที่กลมมนเล็ก คล้ายช้อน ทำให้คนตั้งชื่อว่า ช้อนเงินช้อนทอง ในความเชื่อแล้วจะช่วยเสริมสิริมงคล จะช่วยให้ผู้ปลูกหรือเจ้าของบ้าน มีแต่ความมั่งคั่งร่ำรวย ตักตวงทรัพย์สิน สมบัติ เงินทอง ค้าขายหรือลงทุนก็ประสบความสำเร็จ ลักษณะเด่นที่ชอบในตัวของช้อนเงินช้อนทองก็คือใบสีเขียวกลมเล็ก ผิวมัน มีขนาดเล็ก ดูแล้วสบายตา แถมยังปลูกเป็นไม้กระถางเพื่อตกแต่งได้ทั้งภายในบ้านและนอกบ้านได้อีกด้วย วิธีปลูก 1.ต้นช้อนเงินช้อนทองสามารถขยายพันธุ์ได้โดยการตัดโคนกิ่งของยอด โดยตัดให้มีความยาวประมาณ 5 – 7 เซนติเมตร2.เตรียมดินโดยการนำดินร่วนผสมกับแกลบดิบ ในอัตราส่วน 1:1 ใส่ดินลงในกระถาง กดดินให้แน่น แล้วปักยอดอ่อนต้นช้อนเงินช้อนทองลงไป รดให้ดินชุ่ม แล้ววางไว้ในที่มีแดดรำไร รอประมาณ 2-3 สัปดาห์ค่อยนำออกไปยังหน้าบ้าน วิธีการดูแล1.เป็นต้นที่ชอบแสงแดด แต่ไม่มากเกินไป 2.ควรรดน้ำอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และ ให้น้ำเฉพาะช่วงเช้าไม่เกินเที่ยงวัน3.พอผ่านไปเดือนหนึ่งแล้วให้บำรุงด้วย ปุ๋ยคอก ปุ๋ยออสโมโค้ดแบบสามเดือนหรือหกเดือน หรือ ปุ๋ยเคมี สูตร 13–13-13 เป็นประจำ ข้อควรระวัง : ไม่ควรให้โดนแดดจัด ตลอดทั้งวัน เพราะความร้อนจากแดดจะทำให้ใบจะหยิกงอ หรือใบไหมเป็นสีเหลืองได้ 6.เศรษฐีเรือนนอกเศรษฐีเรือนนอกเป็นพืชล้มลุก มีอายุนานหลายปี ลักษณะเป็นทรงพุ่ม ก้านมีใบเรียวยาว และมีริ้วแถบสีเหลืองปนเขียว สามารถสูงได้ถึง 30-50 เซนติเมตร ปลูกได้ทั้งในกระถางตั้งในห้องหรือภายในอาคารเป็นไม้ประดับฟอกอากาศและเป็นไม้ใช้ในการจัดสวน ชอบแสงรำไร โตง่ายทางความเชื่อ เชื่อว่าถ้าปลูกแล้วจะช่วยเสริมโชคลาภ ร่ำรวย บ้านเรือนมีแต่ความมั่งคั่งเงินทอง ว่านเมตามหานิยม ว่านป้องกันภัย และว่านเสริมสิริมงคล ใช้ปลูกเป็นไม้มงคล และไม้ประดับ เนื่องจาก มีแผ่นใบเรียวยาว และมีสีสันสวยงาม ปลูกทั้งในกระถางเศรษฐีเรือนนอกเป็นอีกพรรณไม้หนึ่งที่อยู่คู่กับบ้านเรือนของคนไทยมาอย่างยาวนาน แถมยังมีสีที่โด่ดเด่นเป็นสีเขียวสลับเส้นสีขาว ดูแล้วสบายตา ยิ่งถ้าใครเป็นสายมู ก็น่าจะยิ่งอยากปลูกเข้าไปใหญ่ เพราะเป็นไม้มงคลแถมยังช่วยฟอกอากาศอีกด้วย วิธีปลูก1.การแยกเหง้าปลูก เป็นวิธีที่สะดวก และรวดเร็ว โดยสามารถแยกเหง้าจากต้นใหญ่มาปลูกได้ทั้งแบบในกระถาง และปลูกลงแปลงจัดสวน เตรียมดินโดยการนำดินร่วนผสมกับแกลบดิบ หรือกาบมะพร้าวสับ ในอัตราส่วน 1:1 ใส่ดินลงในกระถาง และน้ำเหง้าใหม่ลงปลูกได้เลย แล้วรดน้ำให้ชุ่ม 2.การปลูกด้วยต้นอ่อน เมื่อต้นเศรษฐีเรือนนอกโตเต็มที่ จะเกิดต้นอ่อนขึ้นโดยจะแตกแยกออกมาจากลำต้น โดยก้านช่อของกอดอก จะโน้มลงดิน แล้วจะมีต้นอ่อนแทรกรากฝังลงในดิน และจะเติบโตเป็นต้นใหม่ได้เอง วิธีการดูแล1.การปลูกลงในกระถาง ให้ตั้งวางไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง ควรรดน้ำอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์2.พอผ่านไปสักระยะหนึ่งแล้วให้บำรุงด้วย ปุ๋ยคอก ปุ๋ยออสโมโค้ดแบบสามเดือนหรือหกเดือน หรือ ปุ๋ยเคมี สูตร 13–13-13 เป็นประจำ เคล็ดลับ : เหง้าของว่านเศรษฐีเรือนนอก สามารถจะแตกเหง้าใหม่ออกเรื่อยๆตามธรรมชาติได้เอง ถ้าต้นใกล้พื้นดินก็สามารถโตเป็นต้นใหม่ได้เอง 7.เสน่ห์จันทน์แดงเสน่ห์จันทน์แดงเป็นไม้ประดับที่คนไทยนิยมปลูกเป็นจำนวนมาก ด้วยลักษณะของใบที่มีรูปหัวใจที่โดดเด่น เป็นไม้พุ่มเตี้ยและมีลักษณะของการแตกเป็นกอสูง ซึ่งมีความสูงได้ถึง 45-100 เซนติเมตร แล้วแต่สภาพแวดล้อมและคุณภาพของดิน เป็นไม้มงคลมีหัวอยู่ใต้ดิน การออกดอกเป็นช่อแทงออกมาจากกลางต้น แถมยังมีความสามารถในการดูดสารพิษในอากาศ โดยเฉพาะสารพิษจำพวกแอมโมเนีย ในทางความเชื่อ ถ้าหากปลูกแล้วจะนำความโชคดีมาให้ สำหรับการค้าขายก็จะทำให้ขายดี มีกำไร มีเสน่ห์เมตตามหานิยมเสน่ห์จันทน์แดงเป็นอีกต้นหนึ่งที่พอถึงเวลาที่เขาโตเต็มที่แล้ว ใบของเขาจะเขียวและมันวาว สวยมาก ใครที่ลองปลูกและนำไปประดับบ้านแล้วจะรู้ได้เลยว่าเหมาะแก่การมีไว้ที่บ้านมาก วิธีปลูก 1.ปลูกได้ดีในดินร่วนซุย โดยจะใช้ดินปลูกผสมกับกาบมะพร้าวสับ หรือจะเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก รวมไปถึงการนำพวกเศษใบไม้ผสมกับดินปลูกได้ด้วย 2.ปลูกในกระถางที่มีขนาดใหญ่กว่าต้นประมาณ 1-2 เท่า เพราะต้นเสน่ห์จันทน์แดง เป็นไม้ที่สามารถขยายพันธุ์ได้เร็ว รากโตเร็ว วิธีการดูแลเป็นพรรณไม้ที่ต้องการ ความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ต้องการน้ำพอสมควรเป็นพืชที่ชอบร่มเงาไม่ชอบแสงแดดจัด ถ้าโดนแสงแดดมากใบจะเปลี่ยนสี ควรใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกผสมน้ำรดเดือนละครั้งข้อควรระวัง : ควรวางไว้ในที่ระบายน้ำได้ดี เพื่อป้องกันในส่วนของรากและหัวใต้ดินจะเน่าได้ 8.ต้นคล้านกยูงเขียว คล้าหางนกยูงเขียวเป็นพรรณไม้ที่เป็นไม้กอหรือพุ่มเตี้ย มีหัวหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน ลำต้นอวบน้ำ ลักษณะของใบคล้ายรูปไข่ ออกดอกที่ปลายยอด ปลูกเลี้ยงเจริญเติบโตได้ดี สามารถรักษาความชุ่มชื้นได้ดี มีคุณสมบัติในการดูดสารพิษ ชอบแดดรำไร สำหรับต้นคล้าหางนกยูงเขียว ถ้าหากหมั่นรดน้ำอย่างสม่ำเสมอแล้วใบของเขาก็จะออกให้ยลโฉมตลอดทั้งปี เป็นไม่กอพุ่มอีกชนิดหนึ่งที่คนมักจะนำไปปลูกไว้ที่บ้าน เพราะมีทั้งสีม่วงและสีเขียว สลับกับรอยเส้นสีขาวที่ไม่เหมือนใคร วิธีปลูก 1.ผสมดินเหนียว 2 ส่วน และดินร่วน เศษใบไม้ ทราย อย่างละ 1 ส่วน ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกผสมด้วยได้ ละลายน้ำรดเดือนละครั้ง2.ปลูกด้วยการเพาะเมล็ดหรือแยกกอ นำมาปลูกในดินที่เตรียมไว้ รดน้ำให้ชุ่มเพราะชอบน้ำและชอบดินที่อุ้มน้ำได้ดี วิธีการดูแล1.ควรรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ อย่างน้อย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์2.ต้องการแดดปานกลาง เพราะไม่ค่อยชอบแสงแดดจัดจนเกินไปจะทำให้ใบเหี่ยวและแห้งได้ง่ายข้อควรระวัง : ควรวางไว้ในที่ระบายน้ำได้ดี เพื่อป้องกันในส่วนของราก 9.กวักมรกตเป็นพรรณไม้ที่เป็นไม้กอหรือพุ่มเตี้ย มีหัวหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน ลำต้นอวบน้ำ ใบมันเล็ก มีสีดำมันวาว เชื่อกันว่าถ้าปลูกแล้ววางไว้หน้าบ้านจะช่วยดูดทรัพย์ เงินทอง กวักเงินกวักทองให้ไหลเข้าบ้าน แถมยังช่วยดูดสารพิษได้อีกด้วยกวักมรกตเป็นไม้นิยมของนักตกแต่งบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นไม้ที่น่าหลงไหลเพราะในส่วนของใบที่มีสีดำและเขียวรวมไปถึงสีทองแฃะสีด่าง ที่น่าสะสม แถมยังขยายพันธุ์ง่ายอีกด้วย ถ้านำไปปลูกในบ้านก็ยิ่งดูมีเสน่ห์ และยังช่วยกวักเงินกวักทองอีกด้วยวิธีปลูก 1.สามารถปลูกได้ทั้งแบบแยกหัว ชำกิ่งก้าน ชำใบ โดยการชำใบให้ตัดใบติดก้านมานิดหน่อย นำมาปักลงดิน หรือแช่ในน้ำให้รากงอกออกมาแล้วจึงนำมาลงดิน2.ดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินโปร่ง มีส่วนผสมของดินปลูก กาบมะพร้าวสับ ปุ๋ยคอก ผสมเข้าด้วยกัน อาจจะรองก้นกระถางด้วยถ่านหรือหินภูเขาไฟ วิธีการดูแล1.กวักมรกตเป็นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดจัดมาก ชอบแดดรำไร 2.รดน้ำสัก 1-2 วันต่อสัปดาห์ หรือสังเกตจากหน้าดินว่าแห้งหรือไม่ เป็นสิ่งที่ดีสำหรับน้ำคนที่ไม่ค่อยว่างสะดวกรดน้ำบ่อยๆ รดน้ำอาทิตย์ละครั้งเคล็ดลับ : วิธีทำให้ใบดูเงางาม วาววับอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ต้องเช็ดบ่อย ให้ใช้นมสดชุบผ้าแล้วนำมาเช็ดใบ จะเงางามติดทนนาน ฝุ่นไม่เกาะเร็ว เพราะแคลเซียมและไขมันในนมจะช่วยเคลือบชั้นของผิวใบให้มีความชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ใบเงาสวยอยู่นานข้อควรระวัง : ถ้ารดน้ำบ่อยเกินไปจะทำให้รากเน่าได้สำหรับต้นไม้กระถางที่ควรปลูกหน้าบ้านยังมีอีกหลากหลายชนิดที่สามารถนำมาปลูกได้ ต่างก็มีเสน่ห์ ความสวยงามที่ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ว่าเราจะชอบแบบไหนและแบบไหนที่เข้ากับบ้านของเราที่สุด ในส่วนของทั้ง10ต้นนี้ก็อาจจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับคนที่กำลังมองหาต้นไม้กระถางที่ปลูกหน้าบ้านได้อีกแหล่งหนึ่ง เครดิต รูปภาพปกและรูปภาพทั้งหมด ตกแต่งโดย JJKK89/Canva เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !