TOGชูแว่นเมกะเทรนด์ สายตาสั้นติดจอทั่วโลก
ทันหุ้น - TOG ยกรายงานประชากรทั่วโลกติดจอทำปัญหาสายตาพุ่ง 3 พันล้านคน ใส่แว่นแค่ 1.5 พันล้านคน ชี้ อุตสาหกรรมแว่นตาและเลนส์บูมอีกไกล ปีหน้ารายได้โต 12-15% ลุยขยายหนักต่างประเทศเน้นสหรัฐ ยุโรป เอเชีย พร้อมผลักดันเลนส์สายตาเฉพาะบุคคล (Rx)ดันมาร์จิ้น แย้มนักลงทุนรายใหญ่สนใจมองเป็นเมกะเทรนด์
นายธรณ์ ประจักษ์ธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TOG เปิดเผยว่า จากสังคมปัจจุบันที่มีการใช้งานหน้าจอมากขึ้นและเป็นระยะเวลานาทั่วโลก ทั้งโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และเมตาเวิร์สในอนาคต จะส่งผลให้มีความเสี่ยงด้านปัญหาสายตามากขึ้น
ล่าสุดมีรายงานจากนักวิทยาศาสตร์ออกมาเตือนประชากรของโลกแล้วว่าในอนาคตข้างหน้า จะมีปัญหาเรื่องสายตาสั้น ดังนั้นจึงส่งผลต่อภาพรวมอุตสาหกรรมแว่นตาและเลนส์ให้เติบโต โดยงานวิจัยได้ระบุว่า ทั่วโลกมีประชากรอยู่ราว 7.2 พันล้านคน เป็นคนที่มีปัญหาทางสายตาราว 3 พันล้านคัน แต่ปัจจุบันมีคนที่ใช้แว่นสายตาราว 1.5 พันล้านคน ส่วนที่เหลืออาจจะติดในหลายๆ ปัญหา ดังนั้นมองว่ายังมีโอกาสที่จะขยายตลาดได้อีกต่อเนื่อง
*ลุยขยายตลาดใหม่ๆ
ขณะที่บริษัทเองก็ยังเดินหน้าในการขยายตลาดใหม่ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา และยุโรป พร้อมกับมองหาโอกาสขยายตลาดในโซนเอเชีย และเอเชีย-แปซิฟิก อย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2565 ภาพรวมเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัวดี กิจกรรมการค้าที่กลับมาดำเนินการได้ใกล้เคียงปกติจากเป็นสิ่งที่ช่วยหนุนยอดขายมากขึ้น
ปัจจุบันบริษัทสัดส่วนรายได้ที่มาจากการส่งออกอยู่ที่ประมาณ 95-96% และปีนี้อาจจะขยับไปถึงระดับ 97% เพราะตลาดในประเทศได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจ แต่คาดว่าปีหน้าน่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ดังนั้นปีหน้าบริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโตได้ 12-15% จากปี 2564 ที่คาดว่าผลประกอบการจะทำได้ตามเป้า
สำหรับปีหน้าคาดว่าแนวโน้มว่าเลนส์สายตาเฉพาะบุคคล (Rx) จะมีโอกาสเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งหากสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเป็นระดับ 55% จากปัจจุบันที่ 40% บริษัทจะมีการพิจารณาในการขยายการลงทุนในส่วนนี้เพิ่มเพื่อรองรับดีมานด์ ซึ่งตลาด Rx เป็นตลาดที่โอกาสเติบโตในระดับที่สูง และมีมาร์จิ้นสูงด้วย ทำให้คาดว่าบริษัทจะยังคงความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิในปี 2564 และ 2565 ให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 30-31% และ 7-8%
“ปัญหาสายตาเป็น Fact ที่เกิดขึ้นจริง และคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ตัวด้วย จะรู้เมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้มองไม่ชัด ทำให้เห็นว่ามีปัญหาสายตา ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่ออุตสาหกรรมนี้ บริษัทได้เดินหน้าในการขยายตลาดใหม่ๆ ต่อเนื่องในต่างประเทศ ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัท และบริษัทก็ได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาทด้วย ดังนั้นปีนี้ผลประกอบการก็เป็นไปตามเป้า ไตรมาส 4/2564 ก็ทำยอดขายได้ในระดับที่ดี ปีหน้ามีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่อง” นายธรณ์ กล่าว
*ผลงานไตรมาส 4/65 โดดเด่น
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุถึง TOG ว่า ไตรมาส 4/2564 ที่จะฟื้นตัวโดดเด่น แม้จะมีปัจจัยกดดันจาก COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ Omicron แต่คลายกังวลมากขึ้นจากเคสส่วนใหญ่ที่ยังไม่รุนแรง ประเมินกำไรปกติปี 2565 ที่ 277 ล้านบาท อยู่ในทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้มยอดขายปี 2565 จะเติบโตในทุกภูมิภาค ซึ่งรวมถึงตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกาที่ฐานยังต่ำและบริษัทเตรียมขยายเชิงรุกมากขึ้น มองว่าราคาหุ้น TOG ปัจจุบันยังน่าสนใจ โดยเทรดที่ 2565 ที่ PER 15x คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 12 บาท