ก่อนที่จะกลายเป็นซาแซงแฟน เธอมีความสุขกับชีวิตตอนเป็นนักเรียนและไม่เคยคิดที่จะเป็นซาแซงแฟนมาก่อนเพราะเธอรู้สึกว่าซาแซงแฟนเป็นกลุ่มคนที่น่าสงสาร เธอกล่าวว่า ฉันคิดว่าพวกเขาไม่มีอะไรทำที่ดีกว่านี้อีกแล้วเหรอในชีวิตของพวกเขา ตอนที่ถูกถามว่าเธอเคยฟังเพลง K-pop มาก่อนหรือเปล่า เธอตอบว่า เธอฟังแค่เพลงที่เป็นที่นิยมในช่วงนั้นเท่านั้น เพราะแนวเพลงที่เธอชอบฟังนั้นคือเพลงสากลหรือเพลงอเมริกันแล้วอะไรที่ทำให้เธอกลายมาเป็นซาแซงแฟนล่ะ เธอตอบว่า ในเวลานั้น ฉันใช้เวลาว่างดู Youtube เวลาที่ฉันเบื่อ และท่าเต้นของไอดอลบอยแบนด์วงหนึ่งก็เป็นที่นิยมมากในช่วงเวลานั้น แต่มีเมมเบอร์คนหนึ่งที่โดดเด่นเข้าตาเธอเป็นพิเศษ เพราะไลน์เต้นของเขาที่สวยและหล่อมากๆ หลังจากนั้นเธอก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวของเขาในเว็บ Naver หรือว่า Google เพราะอยากจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเขาให้มากขึ้น บางทีนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่เกิดขึ้นในตอนแรก เธอมีความสุขแค่ตอนที่ฟังเพลงศิลปินเท่านั้น เวลาที่เธอมีเวลาว่าง แต่สุดท้ายเธอก็ชอบเมมเบอร์คนนี้มากเกินไปและพูดแต่เรื่องของเขาเท่านั้นเวลาที่ไปเที่ยวกับเพื่อน ความชื่นชอบของเธอมีผลต่อเกรดการเรียนของเธอด้วย มากกว่ากลับไปเยี่ยมบ้านและครอบครัว ซาแซงคนนี้มักจะชอบออกไปเที่ยวกับเพื่อนเก่าที่มีความสนใจในวงและชอบไปคอนเสิร์ต หรืองานแฟนมีตติ้งต่างๆ เพื่อนๆของเธอมักจะไปร้านอาหารหรือคาเฟ่ที่ศิลปินของเขาชอบไปเป็นประจำ ย้อนกลับไปในตอนนั้น ฉักมักจะอิจฉาเป็นประจำ ฉันจะบอกว่า พาฉันไปด้วย ฉันอยากจะไปเหมือนกัน แต่ฉันต้องกลับอเมริกาไปจบการศึกษา และฉันไมได้กลับไปและเลือกที่จะดรอปเรียนจากโรงเรียนแทน พูดโดยอดีตซาแซงครอบครัวของเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้เพราะเธอรู้สึกอับอายเกินไปที่จะบอกพ่อแม่ตัวเองว่าเธอเป็นซาแซง เธอพูดต่อว่า ฉันรู้ว่าซาแซงเป็นเรื่องไม่ดี เพราะงั้นฉันจึงรู้สึกอายที่จะบอกผู้คนว่าฉันดรอปจากโรงเรียนเพราะว่าฉันคือซาแซง เธอโกหกกับพ่อแม่และเพื่อนของเธอที่เมืองนอกไปว่า มันยากมากที่จะปรับตัว เพื่อปิดบังเหตุผลที่แท้จริงในเรื่องของการหาเงิน เธอบอกว่าเธอไม่กังวลพอเป็นเรื่องเกี่ยวกัน เพราะว่าพ่อแม่มีเงินมากพอให้เธอ แม้ว่าเธอจะยังเป็นนักเรียน นอกจากนี้ เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เธอสามารถทำงานพาร์ทไทม์อย่างการแปลภาษาเพื่อหารายได้เสริมได้ งานพวกนี้จะทำเมื่อไรก็ได้ ทำให้เธอมีโอกาสติดตามศิลปินที่เธอชอบได้มากขึ้นในฐานะของคนที่เคยเป็นซาแซงมาก่อน เธอบอกว่าไม่ใช่ซาแซงทุกคนที่จะมีเวลาว่างแบบเดียวกัน มันมีคาเฟ่หรือสถานที่ๆซาแซงจะไปนั่งและรอใกล้ๆกับบริษัทที่ศิลปินทำงาน ฉันเห็นหลายคนที่เป็นซาแซงเหมือนฉันอยู่ที่นั่น พวกเขาไปด้วยวัตถุประสงค์เดียวกันคืออยากจะเข้าใกล้ศิลปิน ผู้คนที่มาพร้อมกับกล้องใหญ่ๆอาจจะเป็นนักข่าวหรือซาแซงก็ได้ ใช่มั้ยซาแซงจะรออยู่ในคาเฟ่ และถ้าพวกเขารู้ว่าไอดอลจะไปที่ไหน พวกเขาก็จะตามไปในที่ๆไอดอลไปและรอ คนบางคนก็รอจนกว่าไอดอลหรือศิลปินที่ตัวเองชอบจะเสร็จงานของตัวเองและตามพวกเขาไปที่บ้านหรือที่พักอาศัยของไอดอลเลยและซาแซงมักจะได้ข้อมูลผ่านทางโซเชียลมีเดีย และในหมู่ซาแซงด้วยกัน จะมีซาแซงคนหนึ่งที่ถ้าเจอหรือเห็นในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ จะมีคนหนึ่งที่ถูกเรียนกว่า top seeds ซึ่งเป็นคำในโลกอินเทอร์เน็ตใช้เรียกหรือบรรยายแฟนที่ทุ่มเทสุดๆ และไม่ใช่ top seeds ทุกคนที่เป็นซาแซงเธอเป็นซาแซงมาปีครึ่ง และตัดสินใจที่จะหยุด เพราะเธอค้นพบว่าไอดอลที่เธอชื่นชอบเริ่มเดทกับเมมเบอร์คนหนึ่งในวงไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปในขณะที่เธอยอมรับว่านั่นฟังดูไม่สมเหตุสมผลเลย แต่เธอเคยเชื่อว่าการเป็นซาแซงนั้นจะสามารถทำให้เธอสนิทกับศิลปินที่เธอชอบได้ ฉันคิดแม้แต่ว่าอาจจะได้กลายเป็นแฟนของเขา หรืออย่างน้อยก็กลายเป็นเพื่อนกัน จนกระทั่งเธอถูกโลกความจริงตีกลับมาให้ตื่นขึ้นมาจากความฝันความจริงที่ว่าศิลปินที่เธอชื่นชอบออกเดท ทำให้เธอกลับมาสู่ความจริงในที่สุด ก่อนที่จะไป เธอฝากข้อความไว้กับซาแซงว่า ฉันรู้ว่าการใช้เวลาเพื่อเป็นซาแซงนั้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวดหัวใจจริงๆ ไม่ว่าเงินมากแค่ไหนที่เธอเสียไปเพื่อติดตามชีวิตของคนๆหนึ่ง มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มันไม่ได้ผล หลังจากที่มันจบลง เธอจะรู้สึกว่างเปล่าอย่างถึงขีดสุด เพราะว่าเธอไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ตรงกันข้าม ถ้าเธอหันกลับมาสนใจและรักตัวเองหรือคนที่รักเธอจริงๆในชีวิต ฉันเชื่อว่าเธอจะกลายเป็นคนที่ดีขึ้น หรือมีโอกาสมากขึ้นที่จะเจอคนใหม่ๆที่พยายามจะรักเธอ มันมีคำกล่าวหนึ่งที่ว่า "เธอใช้ชีวิตแค่ครั้งเดียว ทำทุกอย่างที่เธอสามารถทำได้ก่อนที่เธอจะตาย" แต่การเป็นซาแซงนั้นไม่ใช่หนึ่งในเรื่องนั้น อย่าทำมัน แค่อย่าทำมัน และถ้ามันมีศิลปินหรือคนมีชื่อเสียงที่เธอชอบจริงๆ ฟังเพลงขของเขาให้มากๆ ฉันคิดว่าแค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว ขอขอบคุณ เครดิตรูปภาพ หน้าปกรูปภาพประกอบที่ 1 โดย Free-Photos / 2 โดย kaboompics / 3 โดย quinntheislander