จากสมัยเป็นเด็กเล็ก ๆ น่ารัก ๆ เราก็เคยเรียนมาว่า กรุงเทพมหานคร ของเราเนี้ยยยยย ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยฝีมือของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งก็คือฝั่งพระนคร หรือรัตนโกสินทร์ และฝั่งธนบุรี (เมืองหลวงเก่า ชื่อเดิม ทณบุรีศรีมหาสมุทร, ธนบุรีศรีสมุทร)โดยฝั่งธนบุรีมีความสำคัญเนื่องจากเป็นเส้นทางออกสู่ทะเล เห็นชัด ๆ เลยก็คือ เขตบางขุนเทียนที่ติดกับจังหวัดสมุทรสาคร (ไอติมไข่อร่อยอะ) ด้วยภูมิศาสตร์ของฝั่งธนบุรีเนี่ย นางจึงถูกขนานนามว่าเป็นเมืองอกแตก (ตายล๊าววว อกอิแป้นจะแตก ..อ๋อ! คนละอก) พูดเกริ่นถึงฝั่งธนบุรีมาเยอะแล้ว มาเข้าประเด็นกันบ้างเรื่องของเรื่องอะ ทางบริษัท outsource จัดกิจกรรม ล่องเรือสุขใจ ไหว้พระ 9 วัด ซึ่งเรามีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ด้วย เย้!ซึ่งสุขใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ อิ่มเอมใจกับการขอพร อย่างมากล้น จนกลับมาบ้านก็ยังรู้สึกโคลงเคลง ๆ เหมือนเรือกำลังแล่นในน้ำ (อิ่มเอมใจจริง ๆ นะ)บนเรือก็จะมีไกด์นำเที่ยวคอยให้ความรู้กับพวกเรา ได้ความสุขทางใจไม่พอ ยังได้ความรู้เติมเต็มสมองน้อย ๆ ของเราอีกด้วย (เขินนนนนนน รู้สึกมีความรู้)โดยสถานที่ ที่จะยกมาพูดวันนี้ก็คือ วัดที่ 9 วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร จุดนี้แหละนี้มีสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ๆ ๆ โดยที่พี่ไกด์นำเที่ยวของเราย้ำแล้วย้ำอีกว่า สำคัญมากกกกกกกกกกกกก ก็คือ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (คิดในใจ : แหน่.. ขอพรสิรอไร) ด้วยความที่ไกด์ย้ำว่าสำคัญมากเนี่ยแหละ เราเลยจะลองเขียนบทความที่มีสาระเป็นครั้งแรกดูบ้างค่ะ have a สาระ นะ แฮพ อะ สาระก้าวแรกที่ย่างกายเข้ามา ณ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร แห่งนี้......ฮือออออออออออ ความเป็นผู้หญิงอ่อนโยนของเราก็พุ่งพล่านในร่างกายดังผุด ๆ ทั่วทั้งวัดประดับประดาไปด้วยดอกไม้ (ปลอม)อ๋อยยย ใจบาง ไม่ว่าจะเดินไปจุดไหนก็สวยงามไปหมดเลยค่ะ ราวกับเป็นนางฟ้าล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์เมื่อกราบพระเสร็จ ไกด์ก็พาเราเดินออกจากวัดเพื่อไปสักการะ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ก่อนจะเข้าไปสักการะ...ไกด์นำเที่ยวก็เรียก "มานี่ก่อน ๆ ๆ ครับ" พวกเราก็ไปยืนรวมกันใต้ต้นไม้พี่ไกด์นำเที่ยวให้ความรู้เกี่ยวกับศาลฯ แห่งนี้ว่าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแห่งแรก เป็นศาลไม้เพียงตาเล็ก ๆ ตั้งอยู่บริเวณวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร แล้วก็ย้ายศาลนั้นมาตั้ง ณ จุดนี้ แต่ก็ยังเป็นศาลไม้เหมือนเดิมต่อมามาศาลไม้นั้นชำรุดทรุดโทรม ไปตามกาลเวลาของมัน ทางกองทัพเรือจึงได้มาบูรณะขึ้นมาใหม่ โดยสร้างศาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราชขึ้นมาใหม่ และรักษาศาลไม้เก่าเอาไว้ด้านหน้าดังนั้น ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราช วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร จึงมีทั้งหมด 3 gen กันเลยทีเดียวตามตำนานเล่าว่า หลังการประหารชีวิตสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชด้วยท่อนจันท์ บริเวณป้อมวิชัยประสิทธิ์ มีการเคลื่อนพระบรมศพมาพักไว้ที่วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร โดยระหว่างการเคลื่อนพระบรมศพนั้น พระโลหิตของพระองค์ตกใส่พื้นดินจนเปียกชุ่ม จากนั้นจึงมีการนำดินที่มีพระโลหิตของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มาปั้นเป็นรูปปั้นของพระองค์ แล้วตั้งเป็นศาลไม้เพียงตา ปัจจุบันก็คือศาลไม้เพียงตาที่ตั้งอยู่ด้านหน้าศาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหารส่วนภาพเจดีย์นี้ เป็นพระอัฐิของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดอินทารามวรวิหารเจดีย์ด้านซ้ายมือ มียอดเป็นแบบบัวกลุ่ม บรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเจดีย์ทางขวามือ มียอดเป็นแบบปล้องไฉน เป็นที่บรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระอัครมเหสีของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชผ่านไปแล้ว 1 วันของเรา จากการไหว้พระ 9 วัด วันนี้ เราเข้าใจประโยคที่ว่า กาลเวลาอาจเปลี่ยนไป เหลือคงไว้เพียงคุณงามความดี อย่างชัดเจน แต่ละวัดที่ได้ไป จะมีชีวประวัติบุคคลสำคัญต่าง ๆ ให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้เรียนรู้ ไม่รู้จะจบยังไงให้สวย เอาเป็นว่า พบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีค่ะ