COMPANY SNAPSHOT : KLINIQ ปั๊มฐานต่างชาติเท่าตัว สาขาเดิมหนุนมาร์จิ้นแกร่ง

#KLINIQ #ทันหุ้น – KLINIQ รุกขยายฐานต่างชาติเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน 10-12% ทุ่ม 300 ล้านบาท ลุยขยายสาขา 10 แห่ง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพสาขาเดิม มั่นใจหนุนมาร์จิ้นพุ่งขึ้น จ่อเปิดตัวนวัตกรรมใหม่กลุ่มยกกระชับผิว โชว์กำไรสุทธิปี 2567 แตะ 322 ล้านบาท ใจป้ำปันผล 0.75 บาทต่อหุ้น
นพ.อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แผนดำเนินธุรกิจในปีนี้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ การขยายสาขาใหม่และการเพิ่มประสิทธิภาพของสาขาที่มีอยู่เดิม สำหรับธุรกิจด้านสกินแคร์ KLINIQ ยังคงแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนลงทุน 300 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่มอีก 10 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
** เปิดตัวนวัตกรรมใหม่
นอกจากนี้ KLINIQ เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดถุงใต้ตาโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการกระตุ้นให้ถุงใต้ตากระชับขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาในระดับไม่รุนแรง ซึ่งนวัตกรรมนี้จะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้บริโภค คาดว่าจะเริ่มให้บริการในไตรมาส 2 ของปีนี้
อีกทั้งยังเตรียมเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ในกลุ่มเครื่องยกกระชับผิว โดยเพิ่มฟังก์ชันการดูแลไปถึงบริเวณศีรษะ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากเทคโนโลยียกกระชับใบหน้าที่มีอยู่เดิม ทำให้สามารถยกกระชับได้ตั้งแต่บริเวณใบหน้าจนถึงหนังศีรษะโดยไม่ต้องผ่าตัด
สำหรับตลาดความงามในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีคู่แข่งจำนวนมาก แต่ KLINIQ ยังคงมีความได้เปรียบจากจำนวนสาขาที่มากและฐานลูกค้าประจำที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ การพัฒนาหัตถการใหม่ๆ ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
** เก็บเกี่ยวสาขาใหม่
สำหรับปี 2567 KLINIQ ได้มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นถึง 20 สาขา ทำให้ปีนี้เป็นช่วงเวลาที่บริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างฐานลูกค้าให้แข็งแกร่งมากขึ้น เนื่องจากเมื่อเปิดสาขาใหม่ต้องใช้เวลาในการขยายฐานลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน
แม้ว่าการขยายสาขาใหม่ในช่วงแรกจะส่งผลให้มาร์จิ้นลดลง เนื่องจากต้องใช้เวลาในการสร้างฐานลูกค้า แต่โดยรวมแล้วบริษัทคาดการณ์ว่ามาร์จิ้นจะเริ่มกลับเข้าสู่ระดับปกติในปีนี้ ซึ่งสาขาเดิมที่เปิดมานานจะยังคงสร้างรายได้ที่แข็งแกร่ง และช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัท
ขณะที่ปัจจุบันลูกค้าของ KLINIQ เป็นกลุ่มในประเทศถึง 90% และต่างชาติอยู่ที่ 10-12% ซึ่งยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าขยับสัดส่วนให้เพิ่มขึ้นเป็น 15-20% ภายในปีนี้ แม้ว่าบริษัทจะยังไม่ได้ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติ แต่ก็มีลูกค้าเดินทางเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้บริษัทเริ่มจัดตั้งทีม Marketing ระดับนานาชาติเพื่อรองรับการขยายตัวและวางกลยุทธ์เชิงรุกมากขึ้น ซึ่งเป้าหมายลูกค้าอยู่ในกลุ่ม ลาว กัมพูชา และเมียนมา ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง
** ฐานสมาชิก 3 แสน
ปัจจุบัน KLINIQ มีฐานสมาชิกกว่า 300,000 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นกลุ่มลูกค้าระดับ B+ ถึง A ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่สนใจทดลองบริการด้านความงามที่ทันสมัยของบริษัท
ขณะที่ในปีนี้ยังได้ขยายฐานลูกค้า L.A.B.X ซึ่งมีเป้าหมายในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหญ่ของตลาดความงามในประเทศไทย ถือเป็นกลุ่มฐานใหญ่ของตลาด จะเน้นไปที่นักศึกษาและกลุ่มวัยทำงานตอนต้น หรือ Gen Y โดยบริการจะถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว เช่น การใช้เครื่องมือยกกระชับที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนในราคาที่เข้าถึงได้ ไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่มีต้นทุนสูงจนเกินไป
ในด้านของศัลยกรรม KLINIQ ยังคงเน้นจุดแข็งด้านศัลยกรรมจมูกและหน้าอก พร้อมเดินหน้าขยายบริการด้านการดูดไขมัน ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องบริหารจัดการเรื่องขีดความสามารถในการรองรับลูกค้า (Capacity) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างแผนสำรวจและพัฒนาโรงพยาบาลของตัวเองเพื่อรองรับปริมาณเคสที่เพิ่มขึ้น
** อวดงบปี 2567
สำหรับภาพรวมการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,009 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 322.18 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 4/2567 ในส่วนของกำไรสุทธิ ปี 2567 อยู่ที่ 98.76 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปี 2566 มีกำไรสุทธิ 77.96 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นการเติบโต 26.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2567 (ก.ค.-ธ.ค.) ในอัตรา0.75 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันปิดสมุดพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 30 เมษายน 2568 และจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 นี้