กัมพูชายกเลิก 'สวมแมสก์กลางแจ้ง' หลังอัตราฉีดวัคซีนโควิด-19 พุ่งสูง
พนมเปญ, 26 เม.ย. (ซินหัว) -- วันอังคาร (26 เม.ย.) สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศยกเลิกคำสั่งบังคับสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่เปิดโล่งทั่วประเทศโดยมีผลบังคับใช้ทันที หลังจากประชากรส่วนใหญ่ในประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แล้ว
ฮุนเซนเผยว่าประชาชนตัดสินใจได้เองว่าจะสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่กลางแจ้งหรือไม่ ส่วนพื้นที่ปิดในร่มที่มีเครื่องปรับอากาศ อาทิ ห้องประชุมและโรงภาพยนตร์ จะยังบังคับสวมหน้ากากอนามัยต่อไป โดยเขาหวังว่าการยกเลิกนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของชาวกัมพูชา ซึ่งต้องใช้เงินราว 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 100 ล้านบาท) ต่อเดือนในการซื้อหน้ากากอนามัย
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชารายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มเพียง 2 ราย ในวันอังคาร (26 เม.ย.) โดยไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิตรายใหม่ ทำให้กัมพูชามีผู้ป่วยสะสม 136,230 ราย ซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิต 3,056 ราย ด้านกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของประเทศ ไม่ตรวจพบผู้ป่วยใหม่เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี
ฮุนเซนชี้ว่าอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่แข็งแกร่งส่งผลให้ผู้ติดเชื้อลดลง โดยปัจจุบันประชากรกว่าร้อยละ 93 ของประชากรทั้งหมด 16 ล้านคน ได้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส ร้อยละ 88.5 ได้ฉีดวัคซีนครบโดส ร้อยละ 51.7 ได้ฉีดวัคซีนโดสกระตุ้น และร้อยละ 9 ได้รับวัคซีนโดสกระตุ้นที่สองแล้ว โดยกัมพูชาใช้วัคซีนของซิโนแวคและซิโนฟาร์มจากจีนเป็นส่วนใหญ่
กัมพูชากลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง และเปิดพรมแดนต้อนรับนักเดินทางที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วโดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน ส่งผลให้เศรษฐกิจกัมพูชาปี 2021 ฟื้นตัวด้วยอัตราการเติบโตเชิงบวกราวร้อยละ 3 หลังรับผลกระทบหนักหน่วงจากโรคระบาดใหญ่เมื่อปี 2020
"การฟื้นตัวสะท้อนการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของชาวกัมพูชา องค์กรระดับชาติและนานาชาติ หุ้นส่วนการพัฒนา ตลอดจนมิตรประเทศ ควบคู่กับความพยายามของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ทั่วประเทศ" ฮุนเซนกล่าว "เศรษฐกิจกัมพูชาจะเติบโตมากกว่าร้อยละ 5 ในปีนี้ และจะหวนสู่เส้นทางการเติบโตที่แข็งแกร่งในยุคก่อนเกิดโรคโควิด-19"
ด้านคินเพีย อธิบดีสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศภายใต้ราชบัณฑิตยสภาแห่งกัมพูชา กล่าวว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ช่วยปกป้องชีวิตผู้คน สร้างความมั่นคงให้ระบบสุขภาพ และช่วยฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยรัฐบาลกัมพูชาตัดสินใจถูกที่เลือกจีนเป็นผู้จัดหาวัคซีนรายใหญ่ ทำให้กัมพูชามีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชน