ทุกคนไม่อยากป่วยหรือไม่สบาย แต่เราก็หลีกหนีสิ่งที่เป็นเรื่องธรรมดานี้ไม่พ้น เพียงแต่ว่าเกิดขึ้นตอนไหน และใช้เวลาพักฟื้นอาการในระยะสั้นหรือยาวเท่าไหร่ ช่วงนี้ผู้เขียนก็ต้องพักฟื้นร่างกายที่บ้านจากการไปผ่าตัดตา ขยับร่างกายได้ปกติ ซึ่งหลักๆ ก็ต้องอยู่ที่บ้าน เว้นแต่ช่วงที่หมอนัดถึงจะออกจากบ้านได้ เลยมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นระหว่างนี้หลายๆ อย่างด้วยกัน 1. มีญาติๆ มาหา เป็นเหมือนได้รวมญาติ เมื่อรู้ว่าญาติพี่น้องไม่สบาย พี่ๆ น้องๆ หลานๆ ก็มีโอกาสมาเยี่ยม มีโอกาสทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกัน บางทีมากกว่าช่วงเทศกาลด้วยซ้ำ ทั้งฝั่งบ้านตนเองและญาติๆ ฝั่งภรรยา โดยเฉพาะได้มีโอกาสอยู่กับแม่ 24 ชั่วโมงเหมือนตอนเด็กๆ เพราะตอนนี้อยู่คนละบ้านกับแม่แล้ว แม่ตั้งใจมาอยู่เป็นเพื่อน พอมาอยู่ด้วยก็เลยรู้สึกอุ่นใจ เหมือนได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เติมพลังได้มากมายจริงๆ ถือเป็นฐานที่สำคัญที่สุดของแต่ละชีวิตและต้องให้ความสำคัญกับครอบครัวกลับไปด้วยเช่นกัน นอกจากคนในบ้าน คนที่รู้จัก เช่น เพื่อนๆ ในแต่ละช่วงวัย เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า และคนรู้จักอื่นๆ ก็มาหา และบางคนเป็นเส้นทางผ่านพอดี ก็มาให้กำลังใจ มีของมาฝากมากมาย ทำให้รู้สึกมีกำลังใจยิ่งขึ้น อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความรัก ความห่วงใยของทุกๆ คน ที่มีมิตรภาพ น้ำใจ รวมทั้งเพื่อนๆ คนที่ไม่ได้แวะหาเพราะอยู่ไกลหรือไม่สะดวกก็ติดต่อสอบถามอาการ ให้กำลังใจ ผ่านเสียงและตัวหนังสือในทุกๆ ช่องทางสื่อสารอีกด้วย รวมทั้งเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันถึง 20 ปีก็มีโอกาสได้เจอกัน 2. ได้เข้าใจคำว่า "ฝากผีฝากไข้" จากภรรยา ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลเราได้ทุกอย่าง เมื่อวันที่ต้องแยกออกมาใช้ชีวิตคู่ ออกจากครอบครัวใหญ่มา ภรรยาได้คอยบริหารและวางแผนตั้งแต่การเดินทาง ค่าใช้จ่าย ร่วมเดินทาง ดูแลทุกรายละเอียด การขอคำปรึกษาจากคุณหมอ ค่าที่พักในวันที่ตนเองไปได้ และวันที่ไปไม่ได้ ปฏิบัติตามที่คุณหมอแนะนำ การรักษา ทำความสะอาด ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คอยเตือนวันนัด ระวังไม่ให้ได้รับผลกระทบระหว่างการพักฟื้นร่างกาย ทำงานแทนให้ในทุกๆ อย่างในช่วงที่ไม่สามารถทำอะไรได้ถนัด ตลอดจนการต้อนรับ ดูแลผู้ที่มาเยี่ยมหาได้เป็นอย่างดี 3. เวลาที่ต้องอยู่นิ่งๆ ที่บ้าน ไม่ได้ไปไหน ก็มีโอกาสได้ทบทวนเรื่องราวของชีวิตช่วงที่ผ่านมา ด้วยวัยที่มากขึ้น หน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น อย่างเช่นในที่ทำงานจากเป็นรุ่นน้อง พออยู่ไปสักระยะก็ขยับเป็นรุ่นพี่โดยอัตโนมัติ ทำให้ได้เห็นสัจธรรมชีวิตของตนเองมากขึ้น ว่าเราไม่ได้อยู่กับที่อีกต่อไป ต้องเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ต้องใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท 4. ได้ฟังเรื่องราวดีๆ ผ่านทางเสียง ในช่วงที่ไม่สามารถทำอะไรนอกบ้านได้ การอยู่อย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็ทำให้ต้องแสวงหากิจกรรมที่สามารถทำได้ เช่น การฟัง podcast หรือดูรายการดีๆ ความรู้ใหม่ๆ ผ่านโทรทัศน์หรือสื่อออนไลน์ต่างๆ ได้อย่างมากมายและเป็นประโยชน์เมื่อสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว 5. ได้ทำงานที่บ้าน กรณีที่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ รวมทั้งสังเกตทุกอย่างที่อยู่ในบ้าน ไม่ว่าของใช้ ของชำรุด สิ่งที่ต้องกำจัดหรือปรับปรุงต่างๆ รวมไปถึงความคิดที่ว่าอยากทำงานที่บ้านตนเอง จนสามารถสร้างรายได้เลี้ยงชีพได้ก็เป็นเรื่องดี เพราะจะได้มีเวลาเติมที่ จัดการบริหารเวลาได้ด้วยตนเอง แถมประหยัดค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้อีกด้วย 6. เป็นอีกช่วงเวลาที่ไม่ได้ใช้เงิน เพราะไม่ได้ไปไหน ไม่รู้จะต้องใช้อะไรมากมาย ใช้เท่าที่จำเป็น อะไรมีอยู่แล้วก็ไม่ต้องไปซื้อหา หรือเปิดช่องทางให้ต้องเสียเงินได้มากขึ้น ความอยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ก็ลดลง เมื่อต้องอยู่ในบ้านเป็นเวลาต่อเนื่องหลายๆ วัน 7. เมื่อพอมีเวลาอยู่กับตนเอง ก็ทำให้มีเวลาคิด วางแผนที่จะทำอะไรต่างๆ เมื่อหายป่วยแล้ว เช่น มีงานบางอย่างที่ตั้งใจจะทำไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ ก็มีช่วงให้ได้วางแผนได้มากขึ้น หรือบางทีก็สามารถที่จะให้คนอื่นได้ทำแทนไปก่อนได้ด้วยวิธีการที่เราคิดได้ระหว่างที่พักฟื้นไข้ก็ได้ และอาจจะทำได้ดีกว่าตอนที่ยังไม่สบายก็ได้ 8. มีวินัยในการดูแลตนเองตามที่แพทย์สั่งได้ เช่น การหยอดยาตามเวลา การกินยาตามกำหนด ระมัดระวังในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ระวังน้ำโดนตา การยกของหนัก การหลีกเลี่ยงจากกลิ่นฉุน หรือการทำอะไรที่ส่งผลกระทบต่ออาการป่วย ความระมัดระวังทำให้สามารถกลับมาหายเป็นปกติได้มากยิ่งขึ้น ทำให้กลายเป็นคนที่มีวินัยในการปฏิบัติตนได้อีกทาง 9. ได้ความรู้จากความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น สามารถบอกต่อ ให้ความรู้กับคนอื่นๆ ต่อได้ เมื่อไรที่เราเคยเป็นอะไร คนอื่นๆ ก็จะสามารถมาสอบถามหรือให้คำแนะนำคนอื่นได้ เช่น ต้องไปโรงพยาบาลไหน ต้องปฏิบัติตนอย่างไร และอีกหลายๆ เรื่องที่ทำให้เกิดความรู้ใหม่ๆ อีกมากมาย 10. ข้อสุดท้ายถือเป็นอีกข้อดี คือ การไม่สบาย ถือเป็นการได้พักผ่อนจากที่ต้องทำงานทุกวัน บางคนทำงานทุกวันจนวันหนึ่งที่เจ็บป่วยหรือต้องเข้าโรงพยาบาล คุณหมอให้พักรักษาตัวจึงมีโอกาสได้พัก ถึงแม้ว่าจะเป็นการเจ็บ ทรมาน หรือไม่ถูกใจในช่วงที่ฟื้นฟูรักษาอาการ ก็ให้ถือว่าได้มีเวลาอยู่กับตนเองมากขึ้น ร่างกายได้พัก จิตใจได้ปล่อยวาง สามารถพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างไม่สบายได้เช่นกัน อาจจะทำให้เข้าใจความจริงของชีวิตตนเองได้มากขึ้นก็ได้ 10 ข้อที่กล่าวมา เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างที่ผู้เขียนพักฟื้นร่างกายจากการผ่าตัดตาเป็นเวลาเดือนกว่าๆ เมื่อชีวิตมีโอกาสที่จะล้มป่วย พักรักษาตัว จึงควรใช้ช่วงเวลาเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์และเป็นส่งผลบวกให้กับการดำเนินชีวิตต่อไปได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะความไม่ประมาทในการใช้ชีวิต และการคำนึงถึงความจริงของชีวิตด้วยเช่นกัน ทุกภาพประกอบโดยผู้เขียน ขอบคุณ Canva ใช้ตกแต่งภาพปก เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !